ในยุคหลังการระบาดของโควิดทำให้โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะชีวิตแบบออนไลน์เป็นสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันกันไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเรียนออนไลน์ หรือการประชุมแบบออนไลน์ โดยอุปกรณ์ที่จำเป็นก็คงจะหนีไม่พ้นโน้ตบุ๊ค หรือแท็บเล็ตที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ที่มองเห็นได้เต็มตา แต่ก็ตามมาด้วยราคาค่อนข้างสูง แต่ในวันนี้ Redmi ได้เปิดตัวแท็บเล็ตจอใหญ่ในราคาเบาๆ อย่าง Redmi Pad SE ที่มีราคาค่าตัวเพียง 5,999 บาทเท่านั้น
แกะกล่องลองเล่น Redmi Pad SE
แท็บเล็ตจาก Redmi ที่เราได้มาทดสอบคราวนี้มีกล่องที่มีขนาดใหญ่พอๆ กับตัวแท็บเล็ต ด้านหน้าบอกชื่อรุ่นชัดเจน พร้อมสีสันหน้าจอสดใสสกรีนอยู่หน้ากล่อง
เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบกับคุณสมบัติเด่นๆ ที่อยู่บนหน้าซองห่อหุ้มตัวเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผล 11 นิ้ว รีเฟรชเรท 90 Hz, หน่วยประมวลผล Snapdragon สถาปัตยกรรม 6 นาโนเมตร, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ใช้งานยาวนาน และจุดเด่นสุดท้ายคือลำโพง 4 ตัวรอบเครื่อง พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos ส่วนภายในจะมีอะไรบ้างเรามาแกะกล่องดูกันเลยครับ
- แท็บเล็ต Redmi Pad SE สี Graphite Gray
- อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่กำลังไฟ 10 วัตต์
- สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C
- เข็มจิ้มถาดใส่การ์ดหน่วยความจำ
- คู่มือการใช้งาน
เมื่อแกะกล่องแท็บเล็ตออกมาก็จะพบกับแท็บเล็ตหน้าจอ 11 นิ้ว พร้อมอุปกรณ์สายชาร์จ อแดปเตอร์ที่จ่ายไฟได้เพียง 10 วัตต์ อาจจะต้องใช้เวลาชาร์จนานพอสมควร ภายในกล่องยังมีสายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C มาให้ด้วย
Redmi Pad SE แท็บเล็ตจอใหญ่สะใจ ดีไซน์เครื่องโลหะ ยูนิบอดี้
แท็บเล็ตราคาประหยัดรุ่นนี้มีหน้าจอขนาดใหญ่สะใจถึง 11 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบแบบ IPS ความละเอียด Full HD+ ตามชื่อรุ่น (1920 x 1200 พิกเซล) สัดส่วนการแสดงผล 16:10 ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ตัวเครื่องโดยรวมมีดีไซน์แบบเรียบๆ โดยเครื่องที่เราได้มาทดสอบเป็นสี Graphite Gray เป็นสีเทาเข้ม ตัวเครื่องใช้วัสดุโลหะอลูมิเนียมอัลลอยด์แบบยูนิบอดี้ เมื่อวางเครื่องในแนวนอน เหนือจอแสดงผลมีกล้องสำหรับถ่ายภาพ หรือใช้ในการประชุมออนไลน์ Video call
ด้านหลังของตัวเครื่องเป็นออกแบบมาอย่างเรียบๆ เป็นสี Graphite Gray มีโลโก้แบรนด์ Redmi อยู่ที่มุมบนขวาของตัวเครื่อง ส่วนของโมดูลกล้องอยู่ที่มุมบนขวา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
ที่ด้านข้างซ้ายมีลำโพง 2 ตัว พร้อมโลโก้ระบบเสียง Dolby Atmos ให้เสียงแบบสเตอริโอแยกซ้ายขวาอย่างชัดเจนเมื่อทำงานร่วมกับลำโพงด้านขวา นอกจากนี้ยังมีปุ่มเปิดปิดเครื่องด้วย
ส่วนที่ด้านข้างขวาก็มีลำโพงอีก 2 ตัว รวมเป็น 4 ตัว นอกจากนี้ยังมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และพอร์ตชาร์จแบตเตอรี่ USB-C
ที่ด้านบนมีปุ่มปรับระดับเสียง ถัดมามีเป็นช่องไมโครโฟน และสุดท้ายมีช่องใส่ถาดการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD
จอแสดงผลขนาด 11 นิ้ว AdaptiveSync 90Hz พร้อมโหมดถนอมสายตา แบ่งจอใช้งานได้
ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 11 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1200 พิกเซล ให้ความสว่างสูงสุด 400 nits อัตราส่วนคอนทราสต์ 1500:1 เลือกอัตรารีเฟรชหน้าจอได้สูงสุดถึง 90 Hz สามารถมองเห็นคอนเทนท์ได้เต็มตา ไม่ว่าจะเป็นการท่องอินเตอร์เน็ตผ่านเบราเซอร์, ดูภาพยนตร์, เล่นเกม, เล่นแอปฯ โซเชียลมีเดีย หรือประชุมออนไลน์ก็ทำได้อย่างสะดวกบนหน้าจอขนาดใหญ่ มาพร้อมโหมดการอ่าน 3.0 ที่อัปเกรดใหม่ ทั้งยังมีโหมดคลาสสิกและกระดาษเพื่อเป็นตัวเลือกในการอ่านที่สบายตา
Redmi Pad SE ยังมีหน้าจอแสดงผล LCD มาตรฐาน TÜV Rheinland Flicker Free ที่ใช้ DC dimming เพื่อกำจัดการกะพริบทั้งที่มองเห็นได้และมองไม่เห็นได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วง 0 ถึง 3000Hz และยังลดแสงสีฟ้าเพื่อช่วยป้องกันความเมื่อยล้าทางสายตา ซึ่งตรงตามมาตรฐานของ TÜV Rheinland Low Blue Light ช่วยถนอมสายตาเมื่อต้องจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน
ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ มีพื้นที่การใช้งานค่อนข้างมาก ยังสามารถแบ่งหน้าจอออกเปิดใช้งานได้ 2 แอปฯ พร้อมกัน อาจจะดูคลิปวิดีโอครึ่งจอไปพร้อมๆ กับเปิดเวบไซต์ดูข้อมูลต่างๆ ไปพร้อมๆ กันได้ หรือจะเลือกให้เป็น Pop-up ลอยอยู่บนอีกแอปฯ ก็ได้เช่นกัน พร้อมทั้งเลื่อนไปทางซ้าย หรือขวาได้ตามต้องการ
ไม่ว่าจะทำงาน หรือบันเทิงก็จบในเครื่องเดียว
Redmi Pad SE ถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานในทุกๆ ด้าน ทั้งการทำงาน และความบันเทิง ด้วยระบบปฏิบัติการ MIUI Pad เวอร์ชั่น 14 บนพื้นฐาน Android เวอร์ชั่น 13
รองรับการใช้งาน และแอพพลิเคชั่นได้ทั้งหมด มาพร้อม Google Mobile Service ที่สามารถใช้งานได้เต็มรูปแบบ ทั้งแอพพลิเคชั่นบน Play Store และบริการต่างๆ จาก Google ไม่ว่าจะเป็นอีเมล์, Google Maps, Google Drive, YouTube, Google Chrome ฯลฯ ในด้านการทำงานเอกสารออฟฟิศก็มีทั้ง Google Doc, Google Sheets, Google Slide ที่ใช้งานร่วมกับโปรแกรม Office ของค่ายอื่นๆ หรือหากต้องการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ก็มีแอพฯ ให้ดาวน์โหลดทั้ง Google Meets, Zoom Cloud Meeting, Microsoft Team ฯลฯ โดยอาศัยกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ในการประชุม
จัดเต็มความบันเทิงด้วยระบบเสียง Dolby Atmos
ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 11 นิ้ว ทำให้การดูหนัง ดูคลิปวิดีโอ หรือดู YouTube ได้อย่างเต็มตา ส่วนการฟังเพลงตัวเครื่องก็ยังมีลำโพง 4 ตัวแบบสเตอริโอ ให้เสียงแยกซ้ายขวาได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีระบบเสียง Dolby Atmos ที่สามารถปรับเสียงได้ตามที่มีมาให้ หรือจะเลือกปรับได้เองตามใจชอบ นอกจากนี้ยังมีภาครับวิทยุ FM มาให้ในตัว โดยจำเป็นต้องเสียบหูฟังเป็นเสาอากาศรับสัญญาณ
แรงด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 680 เชื่อมอินเตอร์เน็ตผ่าน WiFi
สำหรับการใช้งานของรุ่นนี้ก็มีหน่วยประมวลผลที่มีความเร็วในระดับกลางๆ เพียงสำหรับการใช้งานทั่วไป โดยหน่วยประมวลผลของรุ่นนี้ใช้ชิพเซ็ต Qualcomm Snapdragon Octa-core ความเร็ว 2.4 GHz หน่วยประมวลผลภาพ 3D Adreno 610 มีหน่วยความจำ RAM 6 GB และ ROM 128 GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้อีกสูงสุด 1 TB หรือ 1024 GB
การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตของรุ่นนี้รองรับ WiFi ทั้งความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz เหมาะกับการใช้งานที่บ้าน ที่ทำงานที่มีสัญญาณ WiFi หรือหากอยู่นอกบ้านก็อาจจะใช้สมาร์ทโฟนปล่อย WiFi Hot Spot ก็ได้เช่นกันเมื่อ ไม่ว่าจะใช้งานที่ไหนก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไม่ได้
สำหรับการเล่นเกมก็มีชิพประมวลผลภาพ 3D Adreno 610 จากการทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile ที่เราใช้ทดสอบเป็นประจำ พบว่าสามารถตั้งค่ากราฟฟิคได้ในระดับกลางๆ เท่านั้น ซึ่งก็จะยังพอเล่นได้ในระดับหนึ่ง แต่ภาพกราฟฟิคอาจจะยังดูไม่ละเอียดนัก
ในการทดสอบความแรงของหน่วยประมวลผลด้วยแอพฯ Antutu Benchmark เวอร์ชั่น 10.0.7 สามารถทำคะแนนได้ที่ 301061 คะแนน ถือว่าทำได้ดีพอสมควร
ส่วนการทดสอบด้วยแอพฯ Geekbench 6 ทำคะแนน CPU Benchmark Single Core ได้ 416 คะแนน ส่วน Multi-Core ทำคะแนนได้ 1434 คะแนน และ GPU Benchmark ทำคะแนนได้ 344 ด้วยคะแนนระดับนี้สามารถรองรับการใช้งานได้ทุกแบบ ทั้งการแชท ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือใช้งานทั่วไป
ถ่ายภาพคมชัดด้วยกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
การถ่ายภาพของกล้องหลังก็มีมาให้ที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ AI และ HDR ที่เข้ามาช่วยปรับแต่งสี และความสว่างอัตโนมัติ สำหรับการถ่ายภาพของรุ่นนี้ไม่ได้มีฟังก์ชั่นอะไรมากมาย มีเพียงแค่ให้เลือกใส่ฟิลเตอร์สีแบบต่างๆ ให้เลือก 13 แบบ มีโหมดถ่ายเอกสาร, ถ่ายกลางคืนให้เลือกใช้งาน ส่วนการถ่ายวิดีโอก็ถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p และยังมีฟีเจอร์ถ่ายวิดีโอสั้น พร้อมเสียงดนตรีประกอบวิดีโอได้อีก 15 วินาที ส่วนกล้องหน้าก็มีความละเอียดมาให้ 5 ล้านพิกเซล เหมาะสำหรับนำไปใช้ในการเรียนออนไลน์ หรือประชุมวิดีโอคอลล์ หรือจะนำไปถ่ายภาพเซลฟี่ก็ได้เช่นกัน
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 8000 mAh รองรับ Fast charge 20 วัตต์ (อแดปเตอร์ในกล่อง 10 วัตต์)
แบตเตอรี่ของรุ่นนี้มีขนาดความจุที่ใหญ่มากถ้าเทียบกับแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ เพราะปกติแล้วจะมีความจุที่ 5000-6000 mAh แต่สำหรับรุ่นนี้มีมาให้ถึง 8000 mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ สำหรับการชาร์จภายในกล่องจะมีอแดปเตอร์มาให้เพียง 10 วัตต์เท่านั้น แต่ตัวเครื่องที่เราทดสอบสามารถชาร์จแบบ Fast charge ได้ถึง 20 วัตต์จากอแดปเตอร์ที่ทีมงานเรานำมาทดสอบ
จากการทดสอบชาร์จด้วยอแดปเตอร์ 10 วัตต์ที่มีมาให้ในกล่องโดยเริ่มชาร์จจาก 1% ไปจนถึง 100% ใช้เวลานานประมาณ 200 นาที หรือประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ เพราะแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่มาก จึงใช้เวลานาน และเมื่อนำอแดปเตอร์ Fast charge ที่ทีมงานเตรียมมา หน้าจอจะขึ้น “ชาร์จด่วน” ใช้เวลาประมาณ 130 นาที หรือประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น อย่างไรก็ดี หากไม่มีอแดปเตอร์ Fast charge ก็อาจจะต้องชาร์จทิ้งไว้ก่อนนอน ตื่นขึ้นมาพร้อมใช้งานเต็ม 100% แน่นอน
บทสรุป Redmi Pad SE จากความเห็นของ What Phone
ก่อนที่จะแกะกล่องทดสอบการใช้งาน เราทราบมาก่อนแล้วว่าแท็บเล็ตรุ่นนี้มีราคาเปิดตัวเพียง 5,999 บาท ซึ่งจากการคาดหวังก่อนใช้งานคิดว่าเครื่องต้องช้าแน่นอน แต่เมื่อเปิดเครื่องใช้งานมาสักระยะถือว่าใช้งานได้อย่างลื่นไหล เลื่อนเมนูไปมาไปไม่รู้สึกช้าอย่างที่คิด อีกทั้งหน้าจอยังมีอัตรารีเฟรชหน้าจอ 90 Hz ที่ทำให้การเลื่อนหน้าจอเป็นไปได้อย่างสมูทมาก ถือว่าเป็นแท็บเล็ตที่ตอบโจทย์การใช้งานทั้งการทำงาน การประชุมออนไลน์ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมได้อย่างครบครัน โดยรวมแล้วทำได้น่าประทับใจเกินความคาดหวังมากๆ แถมยังใช้งานได้นานสุดๆ อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งแท็บเล็ตราคาประหยัดท่ีเราขอแนะนำ!!!
Redmi Pad SE มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Lavender Purple, Graphite Gray และ Mint Green4 โดยวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยด้วยรุ่นความจุ 6GB+128GB ในราคา 5,999 บาท ทางช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม Lazada และ Shopee เท่านั้น
โปรโมชันพิเศษ!5 สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Redmi Pad SE รุ่นความจุ 6GB+128GB ในระหว่างวันที่ 9-15 กันยายน 2566 รับฟรีหูฟัง Redmi Bud 4 Lite มูลค่า 599 บาท!
สรุปสเป็ค Redmi Pad SE
- ขนาด 255.53 x 167.08 x 7.36 มม.
- เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน WiFi มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac, 2.4 GHz and 5 GHz
- หน้าจอ IPS ขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1200 พิกเซล 16.7 ล้านสี ความสว่าง 400 nits
- แสดงผล Refresh rate 90 Hz, Touch Sampling rate 180 Hz
- กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
- กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0
- ถ่ายวิดีโอความละเอียด 1920 x 1080p พิกเซล 30 fps, 1280 x 720 พิกเซล 30 fps
- หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 680 6nm Octa-core ความเร็ว 2.4 GHz
- ชิปประมวลผลภาพ 3D Adreno 610
- หน่วยความจำ RAM 6 GB LPDDR4X + ROM 128 GB eMMC 5.1
- รองรับ microSD Card สูงสุด 1 TB
- ระบบปฏิบัติการ MIUI Pad 14 บน Android เวอร์ชั่น 13
- มีวิทยุ FM ในตัว
- ลำโพง 4 ตัวรอบทิศทางแบบสเตอริโอ พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos, Hi-Res Audio
- แบตเตอรี่ 8000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 10 วัตต์ (อแดปเตอร์ในกล่อง 10 วัตต์)
- ตัวเครื่องรองรับ Fast charge 20 วัตต์ (ต้องซื้ออแดปเตอร์ Fast charge เพิ่ม)
- สี Mint Green, Graphite Gray, Lavender Purple
- ราคาเปิดตัว 5,999 บาท