สวัสดีครับ วันนี้ต้องบอกว่าน่าตื่นเต้นอีกแล้ว เพราะทางทีม WhatPhone ได้มีโอกาสนำสมาร์ทโฟนเกมมิ่งตัวแรงอย่าง ROG Phone II มารีวิวให้ทุกคนได้ชมกัน เราลองไปดูกันครับว่า ROG Phone 2 ตัวนี้จะกระตุ้นความอยากได้ของเหล่าเกมเมอร์ได้มากน้อยแค่ไหน
ROG Phone II คือแรร์ไอเท็มสุดเท่ของเหล่าเกมเมอร์
แน่นอนว่าเกมเมอร์หลายคนต้องอยากได้มาครอบครอง ด้วยดีไซน์สวยเฉี่ยว และเท่ไปในตัว บอกกับสเปคระดับเทพ ที่เล่นเกมไหน ลื่นเกมนั้น ก็คงปฏิเสธไม่ได้เลย ว่านี่จะเป็นสมาร์ทโฟนเกมมิ่งที่หลายคนต่างเฝ้ารอ และหลายคนคงเคลีย์กราะเป๋าสตางค์รอไว้แล้วแน่นอน
มาเปิดกล่องส่องดีไซน์กันหน่อย
ก่อนที่จะเปิดกล่องผมเองตื่นเต้น และประทับใจกับตัวกล่องมาก เพราะแค่กล่องที่ออกแบบมาเป็นทรงสูง 6 เหลี่ยมก็เท่กินขาดแล้ว ส่วนด้านในประกอบไปด้วยตัวเครื่อง ROG Phone II อุปกรณ์สำหรับการชาร์จ อะแดปเตอร์ และสายชาร์จ Type C เข็มสำหรับใช้งานกับซิม คู่มือ บัตรรับประกัน เคส ที่ดีไซน์ค่อนข้างจะแปลกตา และอุปกรณ์เสริม ซึ่งในส่วนของอุปกรณ์เสริมผมจะมาพูดถึงอีกทีนะครับ
มาดูกันที่ดีไซน์กัน ต้องบอกเลยว่าเป็นการผสมผสานของสมาร์ทโฟนเกมมิ่งแบบฮาร์ดคอร์ กับสมาร์ทโฟนแบบเรียบหรูได้อย่างลงตัว ดีไซน์ด้านหลังออกแบบมาให้รู้ว่านี่คือสมาร์ทโฟนเกมมิ่งแน่นอน แต่ผิวสัมผัสกับราบลื่นมือ ก็ถือว่าเป็นจุดที่น่าสนใจจุดนึง บวกกับน้ำหนักที่ไม่หนักมา พกพาสะดวกครับ
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของสมาร์ตโฟนเกมมิ่งตัวนี้คือแอบซ่อนด้านขวาของเครื่องครับ จะสังเกตเห็นว่ามีช่องสำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นๆ ว่าแต่อุปกรณ์อะไรหละ อย่างแรกคือสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ทางช่องนี้ได้ เรียกว่าเอาใจคอเกมจริงๆ เพราะการชาร์จแบตเตอรี่ทางจุดนี้จะสามารถทำให้เล่นเกมขณะชาร์จได้สะดวกมากขึ้น และทางผู้ผลิตอย่าง ASUS ก็ยืนยันมาแล้วว่า ถึงแม้ว่าจะมีแบตเตอรี่ถึง 6,000 มิลลิแอมป์ ซึ่งมากพอแล้ว แต่ก็ยังสามารถชาร์จไป เล่นเกมไปได้โดยไม่ส่งผลต่อตัวเครื่องอีกด้วย อีกทั้งส่วนนี้ยังสามารถใช้เป็นส่วนเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้อีกด้วยครับ
และทางด้านซ้ายของตัวเครื่อง หลายๆ คนอาจจะเห็นส่วนที่แปลกตาบางอย่าง ใช่แล้วครับนี่คือส่วนของปุ่ม L+R ที่เรียกว่า AirTriggers นั่นเอง โดยได้มีการปรับปรุงส่วนนี้ให้เหมือนปุ่ม L+R ของจอยเกมเลย คือเวลากดจะให้ความรู้สึกเหมือนใช้งานปุ่มบนจอยจริงๆ และยังสามารถใช้งานได้หลากหลาย เช่นการลากนิ้วบนปุ่มนี้ได้อีกด้วย
สเปก
- ระบบ : Android 9 Pie + ROG UI และ Asus UI (เลือกสลับได้)
- จอแสดงผล : AMOLED 6.59 นิ้ว Full HD+ อัตราส่วน 19.5:9 รีเฟรชเรท 120Hz, แสดงผล DCI-P3 108%, HDR 10-bit
- ชิปเช็ต : Snapdragon 855 Plus (7 nm) 1×2.96GHz + 3×2.4GHz Kryo Gold + 4×1.7GHz Kryo 485 Silver
- GPU : Adreno 640 675MHz
- ROM : 512GB UFS 3.0
- RAM : 12GB LPDDR4X
- ลำโพง : ลำโพงคู่สเตอริโอด้านหน้า รองรับ Hi-Res 192kHz / 24-bit DAC , ระบบเสียง DTS X Ultra
- ไมโครโฟน : ไมโครโฟน 4 ตัว รองรับการตัดเสียงและการสนทนาระหว่างเล่นเกม
- แบตเตอรี่ 6000 mAh รองรับชาร์จเร็ว Hypercharge 30W, QC4+ และ USB PD
- การเชื่อมต่อ : USB C 3.0 x 2 , ช่องหูฟัง 3.5
- ระบบไร้สาย : รองรับการใช้งาน 2 ซิม 4G , Bluetooth 5.0 , Wi-Fi 2.4/5GHz, WiGig, Wi-Fi, มีวิทยุ FM Radio
- ฟีเจอร์อื่นๆ : สแกนนิ้วมือใต้จอ, ปุ่ม AirTriggers สำหรับเล่นเกม, เชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม Twin View, Kunai Joy Stick และชุด Dock
ส่วนที่น่าจะถูกใจเกมเมอร์ก็คงไม่พ้น Armony Craft ซึ่งถือว่าเป็นศูนย์กลางของการเล่นเกม โดยคุณสามารถเข้ามาส่วนนี้ผ่านไอคอน Armony Craft ที่หน้าจอ ซึ่งที่นี่จะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ
- ส่วนของ Games Lobby ส่วนนี้จะเป็นศูนย์รวมทั้งหมด โดยจะแสดงเกมออกมาเป็นรูปแบบของการ์ด ซึ่งคุณสามารถเลื่อนซ้ายขวาเพื่อดูรายการเกมของคุณได้ หากคุณทำการบันทึกวีดีโอเกมนั้นๆ ไว้ก็สามารถเรียกดูจากตรงนี้ได้ครับ
คุณสามารถปรับแต่งคุณสมบัติของเกมนั้นๆ ได้โดยการเลือกไปที่ Scenrio Profile ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งการแสดงผลที่หน้าจอ ระบบการสัมผัสของเกมนั้นๆ การปรับแต่งเสียง การปรับในส่วนของการเชื่อมต่อเครือข่าย รวมถึงอุปกรณ์เสริมที่ใช้สำหรับการเล่นเกมต่างๆ นอกจากนี้คุณสามารถตรวจสอบ Performance ของเกมนั้นๆ ได้อีกด้วย -
- ส่วนที่สองคือส่วนของ Console โดยในส่วนนี้เป็นการควบคุมฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับเกม เช่น CPU, GPU หรือ Ram โดยคุณสามารถเปิด ปิด X Mode ได้ที่นี่เช่นกัน รวมถึงการตั้งค่าอุปกรณ์เสริมก็สามารถมาจัดการได้ตรงส่วนนี้ครับ
อีกอย่างนึงที่ ROG Phone II มีเพื่อเอาใจเกมเมอร์ทั้งหลาย คือรายการเกมที่คุณสามารถโหลดมาเล่นบน ROG Phone II เครื่องนี้ได้ ด้วยฟังก์ชั่น และการสนับสนุนของตัวเครื่องเองก็ดี หรืออุปกรณ์เสริมก็ดี จึงมีเกมแบ่งเป็นประเภทให้เลือกเล่นได้แบบจุใจ ใครชอบแนวไหน หรืออยากเล่นเกมแบบฮาร์ดคอร์จัดหนัก ROG Phone II ก็มีเกมไว้รองรับเช่นกันครับ เอ… ต้องบอกว่าเกมแนวไหน ROG Phone II ก็สามารถรับได้ทั้งนั้นเลยครับ
เมื่อคุณเล่นเกมแล้ว หากคุณปัดหน้าจอด้านซ้ายมือขึ้นมา คุณจะพบว่าจะขึ้นในส่วนของ Game Genie ซึ่งก็เป็นส่วนในการปรับแต่งเกมนั่นแหละครับ คุณสามารถบันทึกวีดีโอได้จากส่วนนี้ ปรับตั้งค่าต่างๆ ได้ ที่น่าสนใจคือ Speed Up ที่จะช่วยให้ ROG Phone II ของคุณสามารถบูสความเร็วได้ในระดับที่เหมาะสมกับเกมที่คุณกำลังเล่นอยู่ครับ
คุณสามารถปรับแต่ง Game Genie ของคุณให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยกดที่รูปฟันเฟืองนั่นเองครับ โดยการปรับแต่งนี้เป็นการปรับแต่งพื้นฐาน เน้นไปที่ Profile ของผู้ใช้งานซะมากกว่าครับ
นอกจาก ROG Phone 2 จะสนับสนุนทางด้านการเล่นเกมอย่างเต็มที่แล้ว ก็ยังสนับสนุนด้านการสตรีมอย่างเต็มที่เช่นกัน เพราะคุณสามารถสตรีมเกมโปรดได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้แอพพลิเคชั่นใดๆ ในการสตรีม คุณสามารถสตรีมผ่านต้ว Game Genie ได้เลย โดยคุณสามารถสตรีมผ่านทั้ง YouTube หรือ Twitch ได้ และคุณยังสามารถใช้งานกล้อง ใช้งานไมค์ในการสตรีมได้อย่างเต็มที่อีกด้วย
อีกหนึ่งความน่าสนใจคือ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณกำลังเล่นเกมอยู่ และเกิดคุณต้องการข้อมูลของเกมนั้นๆ คุณสามารถใช้ฟังก์ชั่น Serch ที่มีมาได้เลย นั่นหมายความว่าคุณสามารถหาข้อมูลของเกมนั้นๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องปิดเกมด้วย แหมช่างสะดวกสบายซะจริงๆ เลยนะครับ
ROG Phone 2 นั้นค่อนข้างตอบโจทย์ และถูกใจเหล่าเกมเมอร์ ด้วยทั้งหมดที่ผมบอกมาคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นี่อาจจะเป็นสมาร์ทโฟนในฝันของหลายๆ คน เรื่องราคา กับวันวางจำหน่ายคงต้องอดใจรออีกนิด รับรองไม่นานเกินรอแน่นอนครับ
พูดถึงเรื่องเกมมาซะเต็มที่แล้ว ขอเสริมเล็กๆ ด้วยเรื่องของกล้องละกันนะครับ ต้องบอกว่านอกจากเล่นเกมว้าวแล้ว เรื่องถ่ายรูปก็ว้าวไม่แพ้กัน ด้วยกล้องหลังแบบ Dual camera 48MP Sony IMX586 f1.79 + 13MP Ultra wide f2.4 กับกล้องหน้า 24MP f2.2 ก็การันตีได้เลยว่า คุณจะได้รูปสวยๆ มาไว้ในมือแน่นอนครับ
พูดมาขนาดนี้เราลองไปดูคะแนนการทดสอบจาก AnTuTu กันครับ โดยเมื่อลองเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นที่นิยมนำมาเล่นเกมเหมือนกัน ก็พบว่าคะแนนสูงลิ่วเลยทีเดียว เท่านี้เหล่าเกมเมอร์ก็น่าจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นแล้วนะครับ
จุดเด่น
- ความแรง และสเปคระดับเทพ ที่เล่นเกมไหนก็ื่นไม่มีสะดุด
- ดีไซน์เท่ ดูเป็นสมาร์ทโฟนเกมมิ่งอย่างแท้จริง
- แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นาน แม้เล่นเกมเป็นเวลายาวนานต่อเนื่อง
- มีระบบปรับแต่งที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับคนเล่นเกม
จุดด้อย
- หากต้องการอุปกร์เชื่อมต่อครบทั้งหมด ต้องซื้อแยก และรวมๆ แล้ว ราคาค่อนข้างสูง
- หาเคสที่เหมาะค่อนข้างยาก
