Samsung Galaxy S10 Lite สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ที่เปิดตัวออกมาเพื่อให้เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการสมาร์ตโฟนราคาไม่แรงแต่ได้รับสเปกของสมาร์ตโฟนระดับเรือธงอยู่ ซึ่งใครที่กำลังตัดสินใจหรือกำลังหาข้อมูลของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้อยู่ มาอ่านรีวิวสมาร์ตโฟนรุ่นนี้กันครับ
สเปก Samsung Galaxy S10 Lite
- ขนาดตัวเครื่อง 162.5 x 75.6 x 8.1 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 186 กรัม
- หน้าจอ Super AMOLED Plus ขนาด 6.7 นิ้ว แบบ Infinity-O ความละเอียด. FHD+ (1080 x 2400 พิกเซล) รองรับการแสดงผล HDR10+
- กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง 3 เลนส์
- เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0
- เลนส์มุมกว้าง Ultra wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
- เลนส์ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 855
- RAM 8GB
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายใน 128GB รองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card สูงสุด 1TB
- แบตเตอรี่ 4,500mAh รองรับ Super Fast Charging 25W
- ระบบปฏิบัติการ One UI 2.0 บนพื้นฐาน Android 10
- มี 3 สีให้เลือก Prism Black, Prism White และ Prism Blue
- ราคา 18,900 บาท
หน้าจอแบนราบ 6.7 นิ้ว ดีไซน์ฝาหลังขอบโค้ง
สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED Plus ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล แบบ Infinity-O เจาะรูฝังกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซลไว้ตรงกลางหน้าจอ ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 20:1 ความยาวของหน้าจอเหมาะสมสำหรับถือการเล่นเกม รองรับ HDR10+ แสดงสีใกล้เคียงตาเห็น ซึ่งดีไซน์นี้เราได้เห็นใน Samsung Galaxy Note10 Series และ Samsung Galaxy A71 ไปแล้วนั่นเอง แต่หน้าจอแบนราบไม่ได้ใช้งานขอบโค้งแบบรุ่นพี่อย่าง Galaxy S10+ และความละเอียดที่อาจจะไม่ได้ละเอียดมากเท่ากับรุ่นระดับเรือธง แต่ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
ฝาหลังดีไซน์ขอบโค้งเพื่อให้รับเข้ากับอุ้งมือเวลาหยิบจับใช้งานได้ถนัดมือมากขึ้น ฝาหลังไม่ได้ใช้วัสดุกระจกแล้ว แต่มาใช้พลาสติกมันวาวแทน ซึ่งสัมผัสแล้วยังให้ความหรูหราอยู่ และวัสดุพลาสติกมันวาวแบบนี้ก็จะเป็นรอยนิ้วมือได้ง่ายมากๆ สำหรับตำแหน่งปุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปุ่มปรับระดับเสียงสนทนา, ปุ่มล็อค/ปลดล็อคเครื่อง จะอยู่ทางด้านขวาของตัวเครื่อง ส่วนด้านซ้ายจะมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด และด้านล่างของตัวเครื่องจะมีพอร์ต USB Type-C และลำโพงสปีกเกอร์ ไม่มีช่องต่อชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
กล้องหลังมาพร้อมกับ Super Steady OIS
และรุ่นนี้มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 เลนส์ โดยจะใช้กล้องแบบใหม่ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 โดยจะมาพร้อมกับ Super Steady OIS ที่จะเป็นตัวกล้องที่มีการหมุนเพื่อลดการสั่นไหวในการถ่ายภาพ ซึ่งจะเป็นการใช้งานลดการสั่นไหวแบบฮาร์ดแวร์ ทำงานคล้ายกับ Gimball ในไม้กันสั่น และเปิดใช้งานได้ตลอด แต่ก็ยังมีโหมด Super Steady ให้เลือกเปิดใช้งานอยู่ นอกจากนี้ก็จะมีเลนส์มุมกว้าง Ultra wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 และเลนส์ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 สำหรับถ่ายภาพระยะใกล้ระยะประมาณ 4 เซ็นติเมตร เป็นแบบ Fix Focus จะต้องทำการกะระยะและความคมชัดเอาเอง แต่ก็ถือว่าทำให้เราสามารถถ่ายภาพระยะใกล้ๆ ได้
สำหรับรูปภาพที่ได้ก็มีความคมชัด สีสันสวยงาม คุณภาพของไฟล์ดี ยังคงใส่ Shot suggestion มาให้ เพื่อเป็นการแนะนำมุมมองการถ่ายรูปให้กับเรา ไม่มีซูม 2x แต่เพิ่มมาโครเข้ามา ส่วนตัวมองว่าซูม 2 เท่า มีโอกาสได้ใช้งานเยอะว่าโหมด มาโคร ซึ่งตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วย ส่วนเลนส์ Ultra-wide ของทางซัมซุงก็ยังทำได้ดี มุมกว้างมาก
ในส่วนวิดีโอ Super Steady OIS กันสั่นที่เป็นแบบฮาร์ดแวร์ก็อยู่ในระดับที่ดี นิ่งกว่ากล้องมือถือปกติทั่วไปพอสมควร ถ่ายตอนเดิน ใช้แพนกล้องก็ถือว่านิ่งอยู่ แถมยังใช้เลนส์มุมกว้างในการถ่ายวิดีโอได้ด้วย แต่ก็ยังมีโหมด Super Steady ที่เป็นแบบซอฟท์แวร์ใช้งานร่วมกับเลนส์มุมกว้างมาให้ใช้งานกันอยู่ แต่ถ้าหากเปิดโหมดนี้จะใช้เลนส์มุมกว้างไม่ได้
นอกจากนี้ เมื่อเราคว่ำมือถือ คำว่า OIS ที่บนกรอบชุดเลนส์ ก็จะกลายเป็น S10 ไปในตัว
กล้องหน้า
สำหรับกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซลนั้น มีโหมดบิวตี้ให้เลือกปรับใช้งานได้ 3 ระดับ หรือเลือกปรับเองก็ได้ ทำให้ผิวออกมาสีสวยเรียบเนียน รองรับการเซลฟี่มุมกว้าง และเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอ ไลฟ์โฟกัส ด้วยโหมดนี้จะสามารถเปลี่ยนเอฟเฟ็กต์พื้นหลังได้ และยังสามารถเลือกเซลฟี่ด้วยความละเอียดสูงสุด 32 ล้านพิกเซลได้ ซึ่งขนาดไฟล์ก็จะใหญ่ตามไปด้วย แต่สีที่ออกมาสีสันดูไม่ฟรุ่งฟริ้งเท่ากับ Samsung Galaxy A71 เท่าไรนัก แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่รับได้อยู่
ประสิทธิภาพระดับเรือธง เล่นเกมลื่นไหลด้วย Snapdragon 855
ในด้านขุมพลัง เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ตโฟน Galaxy S รุ่นแรกๆ ในช่วงหลายปีหลังที่ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon เลยก็ว่าได้ โดยรุ่นนี้จะใช้ Qualcomm Snapdragon 855 ถึงแม้อาจจะไม่ใช้รุ่นใหม่ล่าสุด แต่ก็ยังถือว่าใหม่อยู่ เพราะเป็นชิประดับเรือธงที่ใช้งานกันในปี 2019 ที่ผ่านมาเท่านั้นเอง และยังโดดเด่นในเรื่องการประมวลผลการเล่นเกมอีกด้วย ทำงานกับ RAM 8GB บนระบบปฏบัติการ One UI 2.0 บนพื้นฐาน Android 10 พื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายใน 128GB รองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุด 128GB
สำหรับการใช้งานทั่วไปลื่นไหล ไม่มีปัญหา ในการเล่นเกมก็มี Game Booster มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม อีกทั้งยังมีการตรวจจับความร้อน, แบตเตอรี่, RAM และความแรงของ Network ในขณะเล่นเกมด้วย จากทีไ่ด้ทดสอบเล่นเกม Call Of Duty ที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลาก็ยังทำได้ดี เมื่อเล่นไปนานๆ ตัวเครื่องก็ไม่ได้ร้อนจี๋ และยังเล่นได้ปกติ ไม่มีอาการกระตุกให้เห็น บวกกับหน้าจออัตราส่วน 20:9 ที่มีพื้นที่ไว้สำหรับการจับตัวเครื่องในแนวนอนก็ทำให้เล่นเกมได้ง่ายขึ้น ปุ่มบังคับต่างๆ ก็ไม่ชิดกันเกินไป
แบตเตอรี่ 4,500mAh ที่ให้มาก็ใช้งานได้เต็มวัน และยังรองรับ Super Fast Charging ชาร์จกลับไปได้เร็วอีกด้วย ซึ่งภายในชุดจัดจำหน่ายจะมีอะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 25W มาให้ใช้งายด้วย
สรุป
เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ตโฟนอีกรุ่นในช่วงราคาต่ำกว่า 20,000 บาท ที่น่าสนใจมากๆ ด้วยดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยงาม หน้าจอขนาดใหญ่ที่แสดงผลได้คมชัด สีสันใกล้เคียงตาเห็น ชิปประมวลผลที่แรง และกล้องหลังที่มาพร้อมระบบกันสั่นที่ดี ใครที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนถ่ายรูปถ่ายวิดีโอดีๆ สักเครื่อง เอา Samsung Galaxy S10 Lite ไปอยู่ในลิสต์อันดับต้นๆ ได้เลยครับ
จุดเด่น
- หน้าจอใหญ่ สะใจ คมชัด
- หน้าจออัตราส่วน 20:9 เหมาะสำหรับเล่นเกมจริงๆ จับด้านข้างของตัวเครื่องแล้วยังเหลือพื้นที่ตรงกลางจออีกเยอะ
- กล้องหลัง Super Steady OIS ลดการสั่นไหว
- ดีไซน์สวย ตัวเครื่องบาง
- แบตเตอรี่ 4,500mAh
จุดสังเกต
- ไม่มีช่องต่อชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
- ดีไซน์คล้ายกับ Samsung Galaxy A71
- กล้องหลังนูน หากใช้งานไม่ระวังอาจจะเป็นรอยได้ง่าย
Samsung Galaxy S10 Lite ราคา 18,900 บาท มี 3 สีให้เลือก Prism Black, Prism White และ Prism Blue วางจำหน่ายแล้วที่ ซัมซุง ออนไลน์ ชอป, ซัมซุง ออฟฟิเชียล สโตร์ ใน ลาซาด้า, ช้อปปี้, เจดี เซ็นทรัล และ วีมอลล์
สำหรับใครที่อยากติดตามรีวิว, บทความ, ทิป เทคนิค การใช้งานต่างๆ และข่าวสารใหม่ ๆ ก็สามารถกดไลค์ เพจ WhatPhone.net หรือเข้ามาพูดคุยกันได้ที่ WhatPhone – Commu ได้เลย