Samsung Galaxy Tab S 10.5
Samsung Galaxy Tab S 10.5 ถูกส่งออกมาลุยตลาดแท็บเล็ตระดับบน เป็นแท็บเล็ตระดับพรีเมี่ยมที่มาพร้อมดีไซน์เรียบหรูดูดีด้วยขอบตัวเครื่องโลหะ มี 2 สีให้เลือก ทั้ง แดซลิ่ง ไวท์ และไทเทเนียม บรอนซ์ สุดหรูซึ่งเป็นเครื่องที่ใช้รีวิวอยู่นั่นเอง โดยหน้าจอของมันก็มีขนาดตรงตามชื่อรุ่นคือ 10.5 นิ้ว สามารถแสดงผลได้อย่างคมชัด สีสันสดใส สมจริง ตามสไตล์ของหน้าจอ Super AMOLED แต่สำหรับใครที่กังวลว่าหน้าจอสีสันจัดจ้านแบบนี้จะทำให้การอ่าน E-Book หรือการใช้งานอื่นๆ ที่ต้องจับจ้องสายตาบนหน้าจอนานๆ จะทำให้ไม่สบายตา ก็หมดห่วงด้วยฟังก์ชั่น Adaptive Display ที่จะปรับปรุงการแสดงผลของหน้าจอ ทั้งในเรื่องของความคมชัด โทนสี เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของเรา
ทางด้านขุมพลังของ Samsung Galaxy Tab S 10.5 จะใช้หน่วยประมวลผล 8 แกน จากชิป Exynos™ 5 Octa (1.9 GHz Quad-core + 1.3 GHz Quad-core) และจัดเต็มด้วย RAM 3 GB รันระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2 ที่ถูกครอบทับด้วย TouchWiz UI เวอร์ชั่นใหม่ที่มาพร้อมไอคอนแบบ Flat ที่เรียบง่าย สำหรับฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ ก็จัดเต็มมาให้สมกับที่เป็นแท็บเล็ตเรือธงของทางค่าย มีการใส่ปุ่ม Home ที่มี Fingerprint Scanner สำหรับสแกนนิ้วมือเพื่อปลดล็อคหน้าจอ และยืนยันตนในการใช้งาน Samsung Account นอกจากนี้ยังให้เราใช้พื้นที่หน้าจอขนาดใหญ่ให้เป็นประโยชน์ด้วยการใช้งาน Multi Windows ที่ช่วยให้เราทำงานหลายอย่างได้บนหน้าจอเดียว พร้อม SideSync 3.0 เชื่อมต่อแท็บเล็ตของเรา กับสมาร์ทโฟนที่รองรับ (Samsung Galaxy Note 3, Galaxy S5, S4) เพื่อโอนถ่ายไฟล์, แสดงผลหน้าจอสมาร์ทโฟนบนแท็บเล็ต เพื่อให้เราสามารถควบคุมสมาร์ทโฟนของเราผ่านหน้าจอแท็บเล็ตได้ทันที
Physical Overview
Samsung Galaxy Tab S 10.5 แสดงผลด้วยสีสันจัดจ้านสดใจ ผ่านหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 10.5 นิ้ว มีความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์ปรับระดับแสง อัตโนมัติ และกล้องหน้าความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซล
ถัดลงมาใต้จอจะพบกับแผงปุ่มเมนูแบบสัมผัส เริ่มจากปุ่ม Recent App ที่ด้านซ้าย (แตะค้างไว้เพื่อเข้าสู่เมนู) และปุ่ม Back ที่ด้านขวา ซึ่งจะมีไฟส่องสว่างแสดงไอคอนขึ้นมาขณะใช้งาน ส่วนตรงกลางจะเป็นปุ่ม Home ที่ได้ติดตั้ง Fingerprint Scanner สำหรับสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคหน้าจอ และยืนยันตนเพื่อเข้าใช้งาน Samsung Account
Samsung Galaxy Tab S 10.5 เสริมความเรียบหรูด้วยขอบตัวเครื่องโลหะบางเฉียบเพียง 6.6 มิลลิเมตร โดยที่ขอบด้านขวา (วางตัวเครื่องในแนวนอน) จะเป็นตำแหน่งของช่องลำโพง, ช่องใส่ microSD, ช่อง Micro USB และช่องใส่ Micro SIM
ย้ายมาดูกันที่ด้านซ้ายจะพบกับช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ถัดลงไปคือตำแหน่งของช่องลำโพงฝั่งซ้าย สำหรับการถ่ายทอดเสียงแบบสเตอริโอนั่นเอง
ที่ขอบด้านบนจะเป็นตำแหน่งของพอร์ต Infrared สำหรับใช้งานเป็นรีโมทคอนโทรล ถัดไปบริเวณมุมของตัวเครื่องจะมีปุ่มปรับระดับเสียง (ขีดยาว) และปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง/ เปิด-ปิด หน้าจอจัดวางอยู่
พลิกมาดูกันที่ด้านหลังจะพบกับพื้นผิวที่คล้ายคลึงกับ Samsung Galaxy S5 แต่พิมพ์ลวดลายห่างกว่ากันพอสมควร โดยที่ด้านหลังจะเป็นตำแหน่งของกล้องถ่ายภาพความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมระบบออโต้โฟกัส และ LED แฟลช
ถ้าสังเกตกันดีๆ จะพบกับปุ่มวงกลม 2 จุด ประจำอยู่ที่มุมด้านล่างของฝาหลังทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งเจ้าปุ่มที่ว่านี้มันไม่ใช่ปุ่มกดฟังก์ชั่นพิเศษอะไรหรอก แต่มันคือจุดที่เอาไว้ยึดกับอุปกรณ์เสริมอย่าง Book Cover Case
8 Mega Pixel Camera
หลายคนอาจจะไม่ได้คาดหวังกับคุณภาพจากกล้องติดแท็บเล็ตกันสักเท่าไหร่ แต่อยากจะบอกว่ากล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซลของ Samsung Galaxy Tab S 10.5 นั้นทำผลงานออกมาได้ดีเกินคาด ในสภาพแสงปกติสามารถจับโฟกัสได้รวดเร็วแม่นยำ ให้ภาพคมชัดอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ไม่ใช่แค่ใส่มาเพื่อให้ได้ชื่อว่ามีกล้องกับเค้าเหมือนกัน สำหรับลูกเล่นในการถ่ายภาพก็มีมาให้เยอะพอสมควร ไม่ว่าจะเป็น Panorama, HDR, Dual Camera และ Shot & More ซึ่งจะถ่ายภาพต่อเนื่องเพื่อให้เรานำไปตกแต่งเพิ่มเติม ทั้งการเลือกภาพที่ดีที่สุด, ลบวัตถุส่วนเกินออกจากเฟรมภาพ, รวมภาพแอ็คชั่นการเคลื่อนไหวผ่าน Drama Shot ฯลฯ สำหรับการถ่ายวิดีโอจะทำได้ที่ความละเอียด Full HD 1080p พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซล ที่ขาดไม่ได้กับโหมดบิวตี้ เอาใจชาวเซลฟี่ที่พร้อมจะยก Samsung Galaxy Tab S 10.5 เครื่องนี้ขึ้นมาถ่ายหน้าตัวเอง (อิอิ)
Entertainment
เป็นที่แน่นอนว่า Samsung Galaxy Tab S 10.5 จะมาพร้อมความบันเทิงแบบจัดเต็ม สามารถหาวิดีโอความละเอียด 2K WQHD (2560 x 1440) มาเปิดดูกันแบบชัดเจน เต็มตา และลื่นไหลไม่มีสะดุด พร้อมเครื่องเล่นเพลงที่มาพร้อมระบบเสียง SoundAlive ที่มีการปรับแต่งเสียงให้เลือกใช้งานมากมายทั้งการปรับอีควอไลเซอร์ด้วยตัวเอง หรือเลือกจากรูปแบบโทนเสียงอัตโนมัติ และยังมีเอฟเฟ็คท์จำลองเสียงแอมป์หลอดที่นุ่มนวลคลาสสิค หรือจะเลือกจำลองเสียงเซอร์ราวด์รอบทิศทางแบบ 7.1 แชนแนลก็ได้
Connectivity
ในเรื่องของการเชื่อมต่อ Samsung Galaxy Tab S 10.5 ถือเป็นแท็บเล็ตที่จัดเต็ม มาครบ สมศักดิ์ศรีการเป็นแท็บเล็ตเรือธง ด้วยความสามารถในการใช้งานโทรศัพท์ (คุยผ่านสปีกเกอร์โฟน หรือสมอล์ทอล์ค) พร้อมรองรับทั้ง 4G LTE, 3G ทุกเครือข่าย, พอร์ต Infrared สำหรับใช้งานเป็นรีโมท, พอร์ต Micro USB 2.0 ที่รองรับการใช้งาน USB On-The-Go และ MHL, Bluetooth 4.0 พร้อมรองรับเทคโนโลยี ANT+ สำหรับรับ-ส่งข้อมูลร่วมกับอุปกรณ์ออกกำลังกายต่างๆ และขาดไม่ได้กับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11/AC ที่รองรับเทคโนโลยี MIMO (2×2) ซึ่งเพิ่มตัวรับสัญญาณเป็น 2 ตัว ช่วยให้ใช้งาน Wi-Fi ได้เร็วขึ้น (ขึ้นอยู่กับเร้าท์เตอร์ต้นทางด้วย) ที่รองรับฟังก์ชั่น Download booster ให้เราสามารถดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่ (30 MB ขึ้นไป) ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการใช้ LTE และ Wi-Fi ไปพร้อมกัน
Final Opinion & Conclusion
Samsung Galaxy Tab S 10.5 ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการแท็บเล็ตจอใหญ่ซึ่งมีประสิทธิภาพการใช้งานระดับสูง โดดเด่นด้วยหน้าจอ Super AMOLED สีสันสดใส พร้อมการดีไซน์ที่สวยงามลงตัว ดูหรูหราด้วยขอบตัวเครื่องโลหะ และมีความบางเพียงแค่ 6.6 มิลลิเมตร สำหรับฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ ก็มีมาให้ใช้งานกันอย่างเต็มที่ทั้งด้านการทำงานและความบันเทิง อีกทั้งยังมีการเชื่อมต่อที่ครบครันด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานโทรศัพท์ และการรองรับเครือข่าย LTE, 3G, Wi-Fi
Strength
– หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 10.5 นิ้ว
– ระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2, TouchWiz UI เวอร์ชั่นใหม่
– ดีไซน์บางเบา มีความบางเพียง 6.6 มิลลิเมตร
– CPU Exynos™ 5 Octa / RAM 3 GB
– หน่วยความจำภายใน 16 GB เพิ่ม microSD ได้สูงสุด 128 GB
– ลำโพงคู่ ให้เสียงสเตอริโอ
– เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
– รองรับ 3G ทุกคลื่นความถี่, 4G LTE, Wi-Fi, IR Blaster (ใช้เป็นรีโมท)
– โหลดไฟล์รวดเร็วด้วย Download Booster
– กล้อง 8 ล้านพิกเซล, ถ่ายวิดีโอ Full HD 1080p, กล้องหน้า 2.1 ล้าน
– ประหยัดแบตด้วยโหมด Ultra Power Saving
Weakness
– แอพฯ Video ที่ติดมาในเครื่องเล่นไฟล์ .MKV แล้วไม่มีเสียง (เครื่องทดสอบ)
– แท็บเล็ตระดับนี้น่าจะอัพหน่วยความจำภายในเป็น 32 GB
รูปตัวเครื่อง Samsung Galaxy Tab S 10.5
รูปหน้าจอ Samsung Galaxy Tab S 10.5