หลังจากที่ TCL กลับมาทำตลาดอีกครั้งในช่วงปลายปีก่อนก็มีทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตทะยอยออกมาให้เราได้เลือกซื้อกันหลายรุ่น และวันนี้ก็ถึงคราว TCL 30+ สมาร์ทโฟนระดับกลางที่ต้องบอกว่าเป็นรุ่นที่จอแสดงผลสวยที่สุดในสมาร์ทโฟนราคาระดับนี้ มาแกะกล่องดูกันว่าการใช้งานต่างๆ ของรุ่นนี้เป็นอย่างไร
แกะกล่องลองเล่น TCL 30+
อุปกรณ์ในกล่อง
- TCL 30+ สี Tech Black
- สายชาร์จแบบ USB-C
- อแดปเตอร์ชาร์จไฟ 18 วัตต์
- ชุดหูฟังแบบ In-ear
- เคส TPU แบบใส
- ฟิล์มกันรอย
- เอกสารรับประกัน, คู่มือการใช้งาน
เมื่อแกะกล่องออกมาสำรวจอุปกรณ์ต่างๆ จะพบกับสติ๊กเกอร์ติดกันรอยหน้าตัวเครื่องบอกจุดเด่นต่างๆ ของรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว, ตัวเครื่องบาง 7.74 มม., กล้อง 50 MP เป็นต้น อุปกรณ์ต่างๆ มีมาให้ให้อย่างครบครัน ไม่ต้องหาซื้ออะไรเพิ่มเติมอีก ทั้งอแดปเตอร์ สายชาร์จ หูฟัง เคสใส และฟิล์มกันรอย แต่ต้องทำการติดตั้งเอง หรือหากซื้อจากร้านก็อาจจะขอให้ทางร้านช่วยติดให้ก็ได้ เรียกได้ว่าซื้อทีเดียวได้อุปกรณ์ในกล่องครบจบ ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่ม
TCL 30+ ดีไซน์คมเข้ม ดุดันด้วยสี TECH Black
หากชอบสมาร์ทโฟนสีเข้มดูสวยตลอดกาลคงจะเป็นสีอื่นไปไม่ได้นอกจากสีดำ โดยรุ่นนี้มาในสีที่ชื่อว่า TECH Black ที่ดูคมเข้ม ดูดัน และดูเรียบหรูในเวลาเดียวกัน ขอบด้านข้างใช้วัสดุแบบเงา ส่วนด้านหลังเป็นแบบด้าน ไม่ติดรอยนิ้วมือง่ายๆ เมื่อสะท้อนกับแสงจะเห็นเป็นเกร็ดระยิบระยับเหมือนเม็ดทรายดูสวยงามมาก ตัวเครื่องมีขนาดกำลังดี จับถือได้ถนัดมือ
จอแสดงผลขนาดค่อนข้างใหญ่ที่ 6.7 นิ้ว และด้วยจอภาพแบบ AMOLED ที่ทาง TCL นำเอาเทคโนโลยีจากทีวีเข้ามาสู่หน้าจอสมาร์ทโฟนจึงทำให้รุ่นนี้แสดงสีสันสวยงาม มีโทนสีจัดจ้านสมจริง รองรับการแสดงผลแบบ Always on Display ที่สามารถแสดงนาฬิกา หรือการแจ้งเตือนบนหน้าจอได้ตลอด ไม่ต้องกดเข้าไปดูให้เสียเวลา สำหรับวัสดุด้านหน้าใช้กระจก Gorilla Glass 3 ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี แต่ในกล่องมีฟิล์มกันรอยมาให้ แนะนำให้ติดเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนไว้จะดีกว่า
ด้านหลังของตัวเครื่องใช้วัสดุพื้นผิบแบบด้าน ให้ผิวสัมผัสที่ไม่ติดรอยนิ้วมือได้ง่ายๆ จึงไม่ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ ที่โมดูลกล้องมีเลนส์หลักขนาดใหญ่ 50 ล้านพิกเซล มีวงแหวนที่สะท้อนแสงสีฟ้า-เขียวรอบเลนส์กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล และยังมาพร้อมเลนส์ Depth และเลนส์ Macro มีไฟแฟลชแบบ LED สำหรับการถ่ายภาพ หรือใช้งานเป็นไฟฉายก็ได้เช่นกัน
ถาดซิมการ์ดของรุ่นนี้อยู่ที่ด้านข้างซ้าย มีมาให้ 2 ช่อง นั่นก็คือ SIM1 และในช่องที่ 2 ต้องเลือกว่าจะใส่ SIM2 หรือการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD สามารถถอดออกมาได้โดยใช้เข็มจิ้มถาดซิมการ์ดที่มีมาให้ ตัวเครื่องมีขนาดค่อนข้างบางเพียง 7.74 มม. เท่านั้น
ส่วนที่ด้านข้างขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิดปิดเครื่อง ซึ่งทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไปด้วยในตัว สามารถสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคได้ 5 ลายนิ้วมือ และใช้สแกนลายนิ้วมือยืนยันตัวในร่วมกับแอพฯ ต่างๆ ได้อีกด้วย
ที่ด้านบนมีช่องลำโพงแบบสเตอริโอแยกเสียงซ้ายขวาเมื่อทำงานร่วมกับลำโพงด้านล่างตัวเครื่อง ส่วนที่ด้านล่างมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ใช้งานร่วมกับหูฟังที่แถมมาให้ในกล่อง ถัดมาเป็นช่องไมโครโฟนรับเสียงสนทนา, ช่องเสียบสาย USB-C และช่องลำโพงสปีกเกอร์โฟน
จอแสดงผล AMOLED พร้อมเทคโนโลยี NXTVISION
ต้องบอกว่าจอแสดงผลของรุ่นนี้ถือเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจที่สุด เพราะด้วยจอภาพแบบ AMOLED ที่นอกจากจะให้ให้สีสันสมจริง สวยงามแล้ว ยังมาพร้อมเทคโนโลยีจอภาพ NXTVISION ซึ่งเป็นนวัตกรรมในกลุ่ม TV ของ TCL ย่อขนาดลงมาอยู่ในหน้าจอมือถือ ช่วยปรับให้ภาพมีรายละเอียดความคมชัด ช่วยปรับปรุงสีของวิดีโอให้มีความลึกของรายละเอียดภาพเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังช่วยปรับปรุงคุณภาพของเกมอย่างเช่นรายละเอียดของแสงเงา และภาพกราฟฟิคให้สวยงามขึ้นด้วย ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่มีจอภาพสวยงามที่สุดในกลุ่มสมาร์ทโฟนราคาเดียวกัน
ในโหมดการแสดงผลก็มีให้เลือกเป็นโหมดอ่านหนังสือที่จะช่วยปรับลดแสงสีฟ้าลง หน้าจอจะออกโทนสีเหลืองเหมือนหน้ากระดาษจริงๆ ช่วยถนอมสายตา ไม่ทำให้ตาล้าเมื่อต้องจ้องมองหน้าจอเป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังสามารถปรับโหมดสี และอุณหภูมิสีของหน้าจอได้ตามต้องการ อีกทั้งยังได้การรับรองจาก TÜV Rheinland ในเรื่องของการช่วยถนอมสายตาด้วย
หากไม่ชอบติ่งกล้องเหนือจอแสดงผลสามารถปรับให้เป็นแถบสีดำบริเวณแถบแจ้งเตือนได้ ทำให้กล้องดูกลมกลืนไปกับแถบสีดำ ดูไม่รบกวนสายตา แบ่งการแสดงผลระหว่างหน้าจอหลัก และแถบแจ้งเตือนไปด้วยในตัว
จอแสดงผลแบบ AMOLED ยังมีคุณสมบัติเปล่งแสงเฉพาะพิกเซลที่ต้องการได้ ด้วยคุณสมบัตินี้จึงนำมาใช้กับฟีเจอร์ Always on Display ที่จะเปิดใช้งานเฉพาะส่วนที่ต้องการ อย่างเช่นแสดงนาฬิกา ภาพกราฟฟิค ข้อความแจ้งเตือนต่างๆ ได้โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่น้อยมาก อีกทั้งยังไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูบ่อยๆ ช่วยประหยัดพลังงานจากแบตเตอรี่ได้อีกทางหนึ่งด้วย
ชิพเซ็ต MediaTek Helio G37 รองรับการใช้งานทั่วไป
ชิปเซ็ต MediaTek Helio G37 ของรุ่นนี้มีความเร็วปานกลาง ถูกออกแบบมาสำหรับใช้งานทั่วไป ซึ่งข้อดีของหน่วยประมวลผลนี้จะใช้พลังงานค่อนข้างต่ำ สามารถใช้งานได้ยาวๆ หลายวัน ทำงานด้วยแกนประมวลผลแบบ Octa-core ทำงานที่ความเร็ว 2.3 GHz มาพร้อม RAM ขนาด 4 GB และพื้นที่หน่วยความจำขนาดใหญ่ถึง 128 GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำแบบ microSD ได้อีกในช่องใส่ SIM2 สูงสุดถึง 1 TB เก็บภาพ วิดีโอ หรือไฟล์งานต่างๆ ได้อย่างจุใจ
ระบบการทำงานของ TCL 30+ ใช้ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 12 ครอบทับด้วย TCL UI 4.0 พร้อมรองรับการอัพเดทในอนาคตยาวๆ ถึงปลายปี 2023 สามารถใช้งาน Google Service และแอพพลิเคชั่นต่างๆ บน Google Play Store ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นแอพฯ โซเชียล, แอพฯ แชทสามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ลื่นไหล ส่วนการเล่นเกมเราได้ทดสอบเล่นเกม 3D หนักๆ ที่เราใช้ทดสอบเป็นประจำอย่าง PUBG Mobile สามารถปรับความละเอียดกลาง นอกจากนี้ยังมีโหมด Game Mode ที่จะช่วยทำให้การเล่นเกมไม่ถูกขัดจังหวะจากการแจ้งเตือนต่างๆ และยังมีโหมด Game Turbo ช่วยจัดการทรัพยากรในเครื่อง รวมถึงการล้างแอพฯ ที่กำลังทำงานอยู่เบื้องหลัง ให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ไม่กระตุกให้เสียอารมณ์
ผลการทดสอบด้วยแอพฯ Antutu 3D Benchmark เวอร์ชั่น 9.3.9 สามารถทำคะแนนได้ค่อนข้างดีอยู่ที่ 129,401
ส่วนการทดสอบด้วยแอพฯ Geekbench 5 ก็ทำคะแนน Single core ได้ 174 และ Multi-core ทำได้ 1034 โดยจากการทดสอบประสิทธิภาพความแรงของหน่วยประมวลผลถือว่าทำคะแนนได้ในดีพอควร รองรับการใช้งานทั่วไป หากจะเล่นเกม 3D หนักๆ ก็พอจะเล่นได้ ควรจะปรับให้ภาพกราฟฟิคอยู่ในระดับกลางๆ
กล้องหลังความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ AI อัจฉริยะ
ในด้านการถ่ายภาพก็มีกล้องความละเอียดสูงมาให้ถึง 50 ล้านพิกเซล สามารถเลือกถ่ายภาพที่ต้องการความคมชัดสูงได้ แต่หากถ่ายภาพตามปกติ กล้องจะทำการปรับความละเอียดลงเหลือ 12.5 ล้านพิกเซล เพื่อไม่ให้ไฟล์ภาพมีขนาดจนเกินไป อีกทั้งยังเป็นการรวมเอา 4 พิกเซลรวมเป็น 1 พิกเซลเพื่อให้รับแสงได้ดียิ่งขึ้น จึงเป็นการใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ได้เต็มประสิทธิภาพ กล้องถ่ายภาพแบบ 3 เลนส์ พร้อมระบบ AI ที่จะเข้ามาช่วยปรับสีสันของภาพให้สวยงามให้เหมาะกับวัตถุที่จะถ่าย กล้องเลนส์หลักมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และยังมาพร้อมเลนส์ Macro สำหรับถ่ายภาพระยะใกล้ และเลนส์ Depth ที่จะเข้ามาช่วยในการถ่ายภาพ Portrait ช่วยละลายพื้นหลังได้อย่างสวยงาม สำหรับสเป็คกล้องทั้งด้านหน้า และด้านหลังของรุ่นนี้มีเลนส์อะไรให้เราได้ใช้บ้าง มาดูกันเลย
- กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.3
- กล้องหลัง 3 เลนส์
- กล้องเลนส์ Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.85 เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/2.76 นิ้ว มุมกว้าง 74.4 องศา
- กล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4 ระยะถ่ายใกล้สุด 4 ซม.
- กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
ในการถ่ายภาพของรุ่นนี้ก็มีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกใช้งานค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโหมด Portrait, Pano, Pro, Stop motion, Light Trace, Super Macro และ Art Effects และในโหมดการถ่ายคลิปวิดีโอก็สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 1080p ด้วยอัตรา 30 เฟรมต่อวินาที
นอกจากนี้กล้องของ TCL 30+ ที่ทำงานร่วมกับระบบ AI ช่วยจำแนกประเภทของภาพถ่ายได้ ซึ่งหากกำลังถ่ายภาพอาหารจะมี Popup บอกประเภทของอาหาร พร้อมทั้งบอกจำนวนแคลอรี่ เหมาะกับผู้ใช้ที่ควบคุมอาหาร และปริมาณแคลอรี่ในแต่ละวัน แต่จำนวนแคลอรี่ที่ปรากฎบนหน้าจอจะบอกเพียง
ตัวอย่างภาพถ่าย
ปลดล็อคตัวเครื่องสะดวกด้วยลายนิ้วมือ และระบบสแกนใบหน้า
ที่ด้านหลังตัวเครื่องมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ เมื่อหยิบเครื่องขึ้นมาแนะนำให้ใช้ใช้นิ้วชี้ได้ทั้งมือซ้าย หรือมือขวาปลดล็อคได้สะดวกที่สุด โดยตัวเครื่องสามารถจดจำลายนิ้วมือได้สูงสุด 5 ลายนิ้ว แต่หากไม่ถนัดที่จะปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือก็สามารถเลือกใช้ระบบสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคได้ แต่ก็มีจุดด้อยตรงที่ระบบจะสแกนใบหน้าในที่แสงน้อยไม่ได้ ซึ่งก็สามารถใช้สแกนลายนิ้วมือเป็นระบบสำรองได้เช่นกัน ดังนั้นผู้ใช้ควรตั้งค่าความปลอดภัยทั้ง 2 ระบบไว้จะสะดวก และดีที่สุด
บทสรุปรีวิว TCL 30+ ในความเห็นของ What Phone
ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะไม่ใช่สมาร์ทโฟนสเป็คโหด ราคาแพง แต่การใช้งานทั่วไปถือว่า TCL 30+ รุ่นนี้ทำได้ค่อนข้างดี ตอบสนองการสั่งงานทันใจ แต่อาจจะมีอาการหน่วงให้เห็นบ้างในบางครั้ง ตัวเครื่องมีดีไซน์สวยงามเรียบหรู ถ่ายภาพสวยด้วยกล้อง 50 ล้านพิกเซล แต่น่าเสียดายที่ไม่มีเลนส์ Ultra-wide มาให้ เราค่อนข้างประทับใจในเรื่องของจอแสดงผลที่มีสีสันจัดจ้านสวยงาม จะดูคอนเทนท์อะไรที่เป็นรูปภาพ หรือวิดีโอก็ให้สีสันสวยงามน่าดูไปหาด ถือเป็นสมาร์ทโฟนหน้าจอสวยในราคาที่จับต้องได้ ราคาเริ่มต้นเพียงห้าพันนิดๆ เท่านั้น ก็ได้มือถือสเป็คหน้าจอ AMOLED ที่หาไม่ได้แน่นอนในตลาดสมาร์ทโฟนในราคาระดับนี้ หากเน้นใช้งานมือถือจอสวยต้องรุ่นนี้เลย ไม่ผิดหวังแน่นอน
สรุปสเป็ค TCL 30+
- ขนาด 164.54 x 75.24 x 7.74 มม. นัำหนัก 184 กรัม
- รองรับเครือข่าย 4G LTE พร้อมช่องใส่ซิมการ์ด 2 ใบแบบ Hybrid
- หน้าจอ AMOLED FHD+ ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล
- แสดงผล Refresh rate 60 Hz
- หน่วยประมวลผล MediaTek Helio G37 Octa-core ความเร็ว 2.30 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพ 3D Mali-G57
- ระบบปฏิบัติการ Android 12, TCL UI 4.0
- หน่วยความจำ RAM 4 GB, ROM 128 GB
- รองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุด 1 TB
- ระบบปลดล็อคด้วยสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง และปลดล็อคด้วยใบหน้า
- กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.3
- กล้องหลัง 3 เลนส์
- กล้องเลนส์ Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.85 เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/2.76 นิ้ว มุมกว้าง 74.4 องศา
- กล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4 ระยะถ่ายใกล้สุด 4 ซม.
- กล้อง Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- แบตเตอรี่ 5010 mAh ชาร์จเร็ว 18 วัตต์
- การเชื่อมต่อ WiFi, Bluetooth 5.0, NFC
- ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ
- มีวิทยุ FM ในตัว
- ราคาเปิดตัว
- รุ่นหน่วยความจำ 4/64 GB 5,290 บาท
- รุ่นหน่วยความจำ 4/128 GB 5,790 บาท
