ไม่ว่าสมาร์ทโฟนจะมีราคาแพง สเป็คเทพแค่ไหน แต่หากใช้หูฟังที่ไม่มีคุณภาพ อรรถรสในการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมของคุณก็ไม่มีความหมาย แต่สำหรับ Vivo TWS Neo หูฟัง True Wireless รุ่นแรกจากค่าย Vivo ที่ซุ่มพัฒนาคุณภาพเสียงให้เต็มประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีต่างๆ พร้อมระบบ AI ที่จะช่วยตัดเสียงรบกวนเพื่อให้การสนทนามีคุณภาพมากยิ่งขึ้น เกริ่นมาขนาดนี้แล้ว เรามาแกะกล่องลองฟังคุณภาพเสียงกันเลยครับ
แกะกล่องลองฟังเสียง Vivo TWS Neo
กล่องขนาดเล็กกะทัดรัดตามขนาดของหูฟัง หน้ากล่องมีรูปชุดหูฟังสี Starry Blue เห็นจากหน้ากล่องก็ดูสวยงามแล้ว เรามาดูข้างในกล่องเลยว่ามีอะไรให้บ้าง
- ชุดหูฟัง True Wireless Vivo TWS Neo 2 ข้าง (หูฟังด้านซ้าย และขวา)
- Charging Case
- สายชาร์จแบบ USB-C ยาว 20 ซม.
- คู่มือการใช้งาน
เมื่อแกะกล่องมจะพบกับ Charging case พร้อมหูฟังทั้งสองข้างที่อยู่ด้านใน เมื่อเปิดออกมาก็พร้อมที่จะทำการ Paring กับสมาร์ทโฟนทันที ตัว Charging case มีขนาดที่เล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก เมื่ออยู่ในที่สว่างจะดูเงางาม พร้อมเผยให้เห็นสีน้ำเงินเข้ม กับสีเงินไล่เฉดสีดูเรียบหรูไม่เหมือนใคร
ด้านหน้าของ Charging case มีปุ่ม Function key สำหรับใช้งาน Paring กับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่น หรือทำการ Reset ชุดหูฟัง มีไฟ LED ดวงเล็กๆ บอกสถานะการทำงาน และบอกระดับแบตเตอรี่ โดยหากเป็นสีส้มแบตเตอรี่จะเหลือน้อยกว่า 50% และหากเป็นสีเขียวแบตเตอรี่จะเหลือมากกว่า 50%
ช่องชาร์จแบตเตอรี่อยู่ที่ด้านล่างเป็นพอร์ตแบบ USB-C สามารถชาร์จได้สะดวกไม่ต้องกังวลว่าจะเสียบผิดด้าน
เมื่อเปิดฝา Charging case จะพบกับชุดหูฟัง True Wireless เก็บอยู่ด้านในชาร์จแบตเตอรี่อยู่ สามารถดึงออกมาใช้งานได้ทันที และหากใช้งานเสร็จก็นำมาเก็บที่เดิม จะมีแม่เหล็กช่วยดูดเพื่อให้หน้าสัมผัสชาร์จกับแบตเตอรี่ได้อย่างเต็มที่
ชุดหูฟังเป็นแบบ Half in ear มีน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ไม่อึดอัด ตัวหูฟังแต่ละข้างมีก้านยื่นออกมาทำหน้าที่เป็นปุ่มสัมผัสแตะสั่งงานได้ ไม่ว่าจะเป็นแตะรับสาย วางสาย, เปลี่ยนเเพลง หรือใช้นิ้วรูดขึ้นลงเพื่อปรับระดับเสียงได้ แทบไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเลย
ไมโครโฟนรับเสียงแต่ละข้างจะมีอยู่ 2 ตัว ตัวแรกจะอยู่ที่ปลายหูฟังช่วยในการรับเสียงพูด อีกตัวอยู่ที่ด้านข้างหูฟังช่วยรับเสียงรอบข้างแล้วนำมาหักล้างเสียงรบกวนต่างๆ จะเหลือเพียงเสียงพูดของเราเท่านั้น ทำให้ได้เสียงสนทนาชัดเจน ไม่มีเสียงรบกวน
เชื่อมต่อง่ายดายด้วยเทคโนโลยี Bluetooth 5.2
การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนไม่ยุ่งยาก หากใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน Vivo จะทำให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพมากกว่า ในการเชื่อมต่อครั้งแรกให้เปิดฝา จากนั้นไปที่เมนู Bluetooth แล้วค้นหาอุปกรณ์จะพบกับชื่อ Vivo TWS Neo ให้กดเชื่อมต่อ จากนั้นก็จะพบกับ Pop-up แสดงการเชื่อมต่อสำเร็จ พร้อมแสดงระดับแบตเตอรี่ จากนั้นก็สามารถใช้งานดูหนัง ฟังเพลงได้อย่างอิสระทันที ไม่ต้องพะวงเรื่องสายที่จะมาพันกันให้รู้สึกเกะกะ
หากต้องการนำไปใช้งานกับสมาร์ทโฟนอื่นๆ ก็ทำได้ง่าย เพียงแค่เก็บหูฟังไว้ใน Charging case เปิดฝา แล้วกดปุ่ม Function key ค้างไว้ประมาณ 3 วินาทีจนไฟกระพริบสีขาว จากนั้นก็ใช้สมาร์ทโฟนค้นหา พร้อมกับเชื่อมต่อได้ทันที รองรับทั้งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และ iOS
หากต้องการใช้งานผ่านแอพฯ ก็สามารถดาวน์โหลดได้จาก Play Store ของแอนดรอยด์ ค้นหาชื่อ “Vivo Earphone” จะช่วยให้การตั้งค่าหูฟังทำได้ง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้น
ทดสอบใช้งาน ฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกม
การใช้งานยังมีระบบควบคุมอันชาญฉลาดอย่าง Qualcomm ที่พัฒนามาถึงรุ่นที่ 4 ทำให้ระบบเสียงมีความเสถียรมากขึ้น เทคโนโลยี Bluetooth 5.2 พร้อมระบบ AI ตัดเสียงรบกวนได้ฉลาดยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยปรับความคมชัดของเสียงตามสภาพแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีค่าความหน่วงต่ำเพียง 88 ms ทำให้การดูหนัง เล่นเกมไม่รู้สึกถึงความหน่วงของเสียง แต่อาจจะมีบ้างแต่ก็ไม่รู้สึกขัดใจแต่อย่างใด
สำหรับการฟังเพลง ตัวหูฟังจะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการใส่หูฟัง เพียงแค่ถอดหูฟังออก เพลง หรือวิดีโอก็จะหยุดทันที และพร้อมเล่นต่ออัตโนมัติเมื่อสวมใส่หูฟังกลับเข้าไป ทำให้ดูหนังฟังเพลงได้ต่อเนื่อง ไม่ต้องย้อนกลับไปช่วงที่ถอดหูฟังออก และเสียงเพลงของรุ่นนี้ก็ทำได้ดีทั้งเสียงทุ้ม เสียงกลาง เสียงแหลม ชอบแบบไหนก็สามารถเลือกปรับได้จากเมนูการตั้งค่า นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี DeepX ให้ได้เสียงคมชัดในทุกระดับเสียง
ฟีเจอร์อื่นๆ ของหูฟังรุ่นนี้สามารถเข้าไปปรับแต่งได้จากเมนู Bluetooth ไม่ว่าจะเป็นการแตะสั่งงานที่หูฟัง, ปรับเอฟเฟ็คท์ของเสียง, การค้นหาหูฟัง, หรือการอัพเกรดเวอร์ชั่นของหูฟัง ซึ่งจะช่วยให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ตั้งค่าการใช้งานแตะสัมผัส และตั้งค่าเสียงได้ 3 รูปแบบ
ค้นหาหูฟังได้ และสามารถอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ๆ ได้
บทสรุปการใช้งาน Vivo TWS Neo จากความเห็นของ What Phone
หลังจากใช้งานมาประมาณ 1 สัปดาห์ก็ทำให้เราประทับใจในทุกๆ ด้าน ทั้งดีไซน์ที่สวยงาม กะทัดรัด พกพาสะดวก หูฟังสวมใส่ได้สบาย ไม่อึดอัด เหมาะกับผู้ใช้ที่ไม่ชอบหูฟังแบบ In ear มีเทคโนโลยี Bluetooth 5.2 ที่ถือว่าใหม่ล่าสุด ทำให้การสนทนา ฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกมทำได้เทียบเท่าหูฟังแบบมีสาย สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานต่อเนื่องด้วย Charging case และที่สำคัญ ราคาเปิดตัวเพียง 2,999 บาท ถือว่าไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับสเป็คที่ทาง Vivo มอบให้ โดยรวมถือว่าเป็นหูฟัง True Wireless อีกรุ่นหนึ่งที่เราชื่นชอบ และแนะนำให้ซื้อใช้ เพราะคุ้มค่าจริงๆ เมื่อเทียบกับฟีเจอร์ คุณสมบัติที่ได้
สรุปสเป็ค
- ขนาดหูฟัง 33.9 x 18.6 x 16.5 มม. น้ำหนัก 4.7 กรัม
- ขนาด Charging case 58.1 x 51.6 x 24.0 มม. น้ำหนักรวม 45.7 กรัม
- มาตรฐานกันน้ำ กันฝุ่น IP54
- เทคโนโลยี Bluetooth 5.2
- ไมโครโฟนคู่ตัดเสียงรบกวน
- ขนาดไดร์ฟเวอร์ 14.2 มม.
- สั่งงานด้วยระบบสัมผัส พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่
- แบตเตอรี่หูฟังความจุ 25 mAh/ข้าง, แบตเตอรี่ Charging case 400 mAh
- หูฟังใช้งานได้นาน 4.5 ชั่วโมง
- ใช้งานต่อเนื่องเมื่อคู่กับเคส 22.5 ชั่วโมง
- มี 2 สีให้เลือก สี Starry Blue, Moonlight White
- ราคาเปิดตัว 2,999 บาท
