หลังจากเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G รุ่นแรกอย่าง Vivo X50 Pro 5G ก็ถึงคราวเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G สุดล้ำรุ่นต่อไปอย่าง Vivo V20 Pro 5G ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟน V20 Series ที่เปิดตัวไปพร้อมกับพรีเซ็นเตอร์คู่หูอย่างใบเฟิร์น พิมพ์ชนก และนาย ณภัทร หมาดๆ มาดูกันว่ารุ่นนี้มีดีอย่างไร
แกะกล่องลองเล่น Vivo V20 Pro 5G
- Vivo V20 Pro 5G สี Moonlight Sonata
- อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ Vivo FlashCharge 2.0 กำลังไฟ 33 วัตต์
- สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C
- เคสซิลิโคนแบบใส
- หูฟังสมอลล์ทอล์คขนาด 3.5 มม.
- สายแปลงแจ็ค 3.5 มม. เป็น USB-C
- ฟิล์มกันรอย (ติดมาจากโรงงาน)
- คู่มือการใช้งาน
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
จะเห็นได้ว่าอุปกรณ์ในกล่องมีมาให้อย่างครบครัน แกะกล่องมาพร้อมใช้งานได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกลัวเครื่องเป็นรอย เพราะมีทั้งฟิล์มกันรอยแบบติดมาเรียบร้อยในกล่อง มีเคสใสที่ยังคงเผยให้เห็นสีของตัวเครื่องอย่างชัดเจน และถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะไม่มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. แต่ก็มีสายแปลงจาก USB-C เป็นแจ็คขนาด 3.5 มม. มาให้สำหรับฟังเพลง หรือใช้หูฟังเป็นสมอลล์ทอล์คก็ได้เช่นกัน
ดีไซน์เรียบหรู ดูสะอาดตาด้วยสี Moonlight Sonata
เครื่องที่เราได้มาทดสอบเป็นสีขาว หรือสี Moonlight Sonata ดูเผินๆ อาจจะเห็นเป็นสีขาวธรรมดาๆ แต่ผิวด้านหลังเป็นแบบด้านที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วยเทคโนโลยี AG Matte Glass เมื่อสัมผัสจะรู้สึกถึงพื้นผิวที่ต่างออกไป และยังช่วยลดรอยนิ้วมือได้อีกด้วย นอกจากนี้พื้นผิวสีขาวยังให้เฉดสีที่ต่างออกไปเมื่อแสงตกกระทบในแต่ละมุมดูแปลกตาและสวยงาม ขอบด้านข้างเป็นแบบโค้ง 2.5D รับเข้ากับอุ้งมือ มาพร้อมกับความบางเพียง 7.39 มม. เท่านั้น จึงทำให้ Vivo V20 Pro 5G เป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่บางที่สุดในโลก
จอแสดงผลมีขนาดใหญ่ 6.44 นิ้ว เป็นจอภาพแบบ AMOLED ที่ให้สีสันสวยงาม สมจริง ความละเอียดสูงในระดับ FHD+ หรือที่ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล ใช้พื้นที่ด้านหน้าแสดงผลได้เกือบเต็มขอบ เหนือจอภาพจะมีเลนส์รับภาพกล้องดิจิตอลพร้อมด้วยเซ็นเซอร์ต่างๆ มากมาย ส่วนล่างของจอแสดงผลมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ฝังอยู่ใต้หน้าจอ
ด้านหลังสีขาวสะอาดตาเมื่อพลิกเครื่องในมุมต่างๆ ก็จะเผยให้เห็นความสวยงามของเฉดสีขาว บริเวณกรอบของเลนส์กล้องดีไซน์แบบ Dual Tone Step ที่ไล่เป็นขั้นบันใด 2 ชั้นสีเงินเป็นชั้นของไฟแฟลชแบบ LED และสีดำเป็นชั้นของเลนส์รับภาพ 3 เลนส์ ส่วนนี้กรอบเลนส์นี้จะถูกปกป้องด้วยเคส ทำให้เราวางบนพื้นโต๊ะได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวเป็นรอย ส่วนของโลโก้ยังมีคำว่า 5G ที่บ่งบอกถึงความสามารถในการเชื่อมต่อกับเครือข่าย 5G แห่งอนาคต
ที่ด้านข้างซ้ายของตัวเครื่องจะโล่ง ไม่มีปุ่มกดใดๆ แต่ที่ด้านข้างขวามีปุ่มปรับระดับเสียงสนทนา รวมถึงระดับเสียงเรียกเข้า, เสียงการเล่นเพลงต่างๆ ถัดลงมาเป็นปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง
ด้านบนของตัวเครื่องมีเพียงช่องไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา ส่วนที่ด้านล่างมีช่องใส่ถาดซิมการ์ด ถัดมาเป็นช่องไมโครโฟน ตรงกลางมีช่องเสียบสายแบบ USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ อีกทั้งยังเป็นช่องเสียบหูฟังแบบ USB-C มาให้ ถัดมาเป็นช่องลำโพงเสียงของตัวเครื่อง
กล้องหน้าคู่ 44 ล้านพิกเซล Eye Autofocus
ความพิเศษของกล้องหน้าที่นอกจากจะมีความละเอียดสูงถึง 44 ล้านพิกเซลแล้ว ยังมีระบบ Eye Autofocus ที่จะให้ความสำคัญกับความคมชัดของดวงตาเป็นอันดับแรก ซึ่งหากดวงตาชัด ส่วนอื่นๆ ของใบหน้าก็จะมีความคมชัดตามไปด้วย กล้องคู่ของรุ่นนี้ยังมาพร้อมเลนส์ Super Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่ให้มุมมองกว้างถึง 105 องศา จะ Selfie เดี่ยวๆ ก็ยังมองเห็นภาพวิวด้านหลัง หรือถ่ายเป็นกลุ่มก็เก็บภาพได้หมด โดยไม่ต้องถอยกล้องไปไกลๆ
สำหรับการเซลฟี่ด้วยกล้องหน้า หากกล้องโฟกัสที่ดวงตาได้แล้วจะมีสัญลักษณ์ปรากฎขึ้นบนดวงตา พร้อมกดถ่ายได้ทันที และด้วยรูรับแสงที่กว้างถึง f/2.0 จึงทำให้ใบหน้าออกมาดูสว่างใส อีกทั้งยังมาพร้อมโหมด Style ที่เหมือนกับเป็นการใส่ Filter สี มีให้เลือกถึง 9 แบบ, โหมด Beauty ที่แบ่งออกเป็น 3 หมวด คือ
- Face beauty สามารถปรับความเนียนของใบหน้า, ความเรียวของใบหน้า, ปรับรูปจมูก ปาก ตาโต หน้าผากได้หมด
- Makeup ด้วยโหมดนี้จะช่วยแต่งหน้าทาปากให้กับคุณผู้หญิง ไม่ว่าจะตื่นนอน หน้าสด ก็สวยได้โดยไม่ต้องแต่งหน้า โหมดนี้ระบบ AI สามารถแยกใบหน้าชาย หญิงได้ เพราะฉะนั้นระบบ AI จะแต่งหน้าให้เฉพาะผู้หญิงเท่านั้น
- Posture เป็นโหมดที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว โดยในโหมดนี้จะมีตัวอย่างการโพสท่าในแบบต่างๆ มีให้เลือกมากมาย
ในโหมด Bokeh ที่ถือว่าเป็นโหมดที่ทำให้การถ่ายภาพ Portrait สวยงามมากยิ่งขึ้น และยังทำให้ภาพบุคคลดูโดดเด่นขึ้นอีกด้วย สามารถปรับค่ารูรับแสงของภาพได้ตั้งแต่ค่า f/0.95 ไปจนถึง f/16 ยิ่งปรับค่า f ลงต่ำ ภาพพื้นหลังก็จะเบลอมากขี้น
ถ่ายภาพกลางคืนได้ง่าย และสนุกขึ้นด้วย Super Night Mode และ Night Selfie
สำหรับการถ่ายภาพตอนกลางคืนนั้นมีลูกเล่นให้เล่นมากมาย ประกอบกับกล้องที่มีรูรับแสงกว้าง จึงทำให้รับแสงได้มาก ถ่ายภาพตอนกลางคืนได้อย่างง่ายดาย มีลูกเล่นในการปรับแต่งอย่าง โดยเฉพาะในโหมด Bokeh ที่สามารถปรับฉากหลังที่มีไฟเป็นดวงๆ เปลี่ยนเป็นรูปดาว รูปหัวใจ รูปสี่เหลี่ยม หรือเป็นรูปกลมๆ ทำให้ภาพเซลฟี่ธรรมดาๆ ดูแตกต่างออกไป
ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมด Super Night Mode และ Night Selfie
นอกจากนี้แล้วยังมีโหมด Selfie Softlight Band ที่จะใช้หน้าจอแสดงผลช่วยส่องสว่าง ซึ่งนอกจากจะทำให้ใบหน้าดูสว่างแล้ว ยังทำให้ใบหน้าดูขาวนวลขึ้น หน้าไม่ขาววอกเหมือนกับการใช้ไฟแฟลชทั่วไป
ตัวอย่างภาพถ่ายที่ถ่ายด้วยโหมด Selfie Softlight Band
กล้องหลัง 3 เลนส์ ถ่ายภาพได้คมชัดทุกระยะ
กล้องหลังของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีมาให้ 3 เลนส์ ถ่ายภาพได้คมชัดทุกระยะ ไม่ว่าจะเป็นเลนส์ Wide ระยะปกติ เลนส์ Super Wide Angle และเลนส์ Super Macro สเป็คของเลนส์ทั้ง 3 มีดังนี้
- กล้องหลัก เลนส์ Wide ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.89
- กล้องเลนส์ Multifunction ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- Super Wide Angle เลนส์มุมกว้าง 120 องศา รูรับแสงกว้าง f/2.2
- Super Macro ระยะใกล้สุด 2.5 ซม.
- Light Speckle Bokeh
- กล้องเลนส์ Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
ในการถ่ายภาพด้วยกล้องหลังของ Vivo V20 Pro 5G ก็มีโหมดการถ่ายภาพมาให้ใช้งานค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโหมด Super Night Mode ที่สามารถถ่ายภาพกลางคืนให้สว่างชัดเจนได้โดยไม่ต้องอาศัยขาตั้งกล้อง
การถ่ายภาพ Portrait ก็สามามารถทำได้เหมือนกับการใช้กล้องหน้า มีฟังก์ชั่นต่างๆ ให้เลือกปรับแต่งมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Style หรือการเลือกปรับแต่งโทนสีในแบบต่างๆ, โหมด Beauty มีให้เลือกปรับแต่งความเนียนของใบหน้า, ความเรียวของใบหน้า, ปรับรูปจมูก ปาก ตาโต หน้าผาก ฯลฯ และยังเลือกปรับ Bokeh หรือความละลายของฉากหลัง และหากถ่ายตอนกลางคืนก็มีให้เลือกปรับไฟที่ฉากหลังให้เบลอเป็นรูปวงกลม รูปดาว หรือรูปหัวใจก็ได้เช่นกัน
ส่วนการถ่ายภาพในโหมดอื่นๆ ก็มีมาให้อย่างโหมด High resolution ที่สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล, โหมด Panorama, โหมด Pro, โหมด AR Sticker และโหมดใหม่ที่เพิ่มเข้ามานั่นก็คือ Double Exposure ที่จะใช้กล้องหน้ากล้องหลังถ่ายในคราวเดียวกัน เสร็จแล้วระบบ AI จะทำการซ้อนภาพเข้ามาอยู่ในภาพเดียว ให้ภาพที่ดูแปลกตา และดูอาร์ทมากเลยทีเดียว
ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูง 4K ได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง
ในด้านการถ่ายวิดีโอก็สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 4K ซึ่งสามารถถ่ายได้ที่เฟรมเรทสูงสุด 60 เฟรมต่อวินาที ได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง นับเป็นสมาร์ทโฟนเพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้นที่ทำได้ และในการถ่ายวิดีโอของรุ่นนี้ก็มีลูกเล่นต่างๆ มาให้ใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโหมด Dual View Video การถ่ายที่ใช้กล้องหน้า และกล้องหลังพร้อมๆ กัน เหมาะสำหรับสาย VLOG ที่ชื่นชอบการรีวิวอาหาร หรือสินค้าต่างๆ โดยในคลิปจะแบ่งออกเป็น 2 หน้าจอเท่าๆ กัน หรือจะแบ่งแบ่งออกเป็นจอใหญ่ และจอเล็กในโหมด Picture in Picture ทำให้เห็นภาพคนรีวิว และภาพอาหาร หรือสินค้าไปในคราวเดียวกัน ไม่ต้องมาตัดต่อวิดีโอให้วุ่นวาย หรือจะใช้กล้องหลังทั้งเลนส์ระยะปกติ และเลนส์ Super Wide Angle ทำให้เห็น 2 มุมมองได้ในคราวเดียวกัน
สำหรับการถ่ายวิดีโอเซลฟี่ก็มีโหมด Steadiface โดยกล้องจะทำการจับใบหน้าเป็นหลัก ไม่ว่าภาพจะสั่นมากแค่ไหน ใบหน้าก็จะยังคงนิ่ง ไม่ส่ายไปมาตามกล้อง นอกจากนี้ยังมี Art Portrait Mode ที่จะทำให้ฉากหลังเป็นขาวดำ โดยที่ภาพคนยังคงเป็นสีตามปกติ ทำให้ภาพคนดูโดดเด่นขึ้น
กล้องหน้ายังสามารถถ่ายวิดีโอ Slo-mo Selfie Video หรือการถ่ายภาพช้าด้วยกล้องหน้า ทำให้เห็นภาพเคลื่อนไหวในแบบช้าในมุมมองที่แตกต่างจากที่เคยเห็น
ปรับแต่งภาพได้สมจริงด้วยระบบ AI
ด้วยฟังก์ชั่น AI Image Matting ทำให้เราสามารถแต่งภาพได้อย่างง่ายดายบนมือถือ ด้วยระบบ AI ที่สามารถมองภาพออกว่าส่วนไหนคือบุคคล ฉากหลัง ท้องฟ้า อาคารบ้านเรือน ซึ่งระบบ AI จะทำการแยกภาพออกจากกัน ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนภาพพื้นหลังอย่างเช่นท้องฟ้า เปลี่ยนกลางคืนเป็นกลางวันได้เพียงไม่กี่คลิก
หรือจะเป็นภาพบุคคลระบบ AI ก็แยกออกว่าส่วนไหนคือบุคคล ส่วนไหนคือฉากหลัง จากนั้นเราก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ง่ายๆ ทันที
และด้วยฟีเจอร์ Memory Recaller ที่สามารถปรับภาพถ่ายเก่าๆ ที่อัดลงบนกระดาษแล้วเก็บไว้เป็นระยะเวลานาน ทำให้ภาพขาดความคมชัด สีสันจืดจาง และเมื่อใช้ระบบ AI แต่งภาพในโหมดนี้ ภาพก็จะถูกตกแต่งให้มีความคมชัดขึ้น เหมาะกับการปรับแต่งภาพของเราเอง หรือคุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณย่าที่มีรูปเก่าๆ มาปรับให้มีความคมชัดขึ้นมาได้
รองรับเครือข่าย 5G พร้อมชิพ Snapdragon 765G สุดแรง
แม้ว่าจะไม่ได้ใช้ CPU ชิพเซ็ตที่แรงที่สุด แต่ด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 765G ก็มีประสิทธิภาพแรงตอลโจทย์การใช้งานทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป ดูคลิปวิดีโอ หรือแม้กระทั่งการเล่นเกมก็ปรับความละเอียดได้สูงไม่แพ้ชิพเซ็ตในระดับ Flagship อีกทั้งชิพเซ็ตรุ่นนี้ยังรองรับเครือข่าย 5G ที่สามารถใช้งานได้ทันทีเมื่อแกะกล่องโดยไม่ต้องรออัพเดทใดๆ จากการทดสอบ 5G พบว่ามีความแรงกว่า 4G อย่างเห็นได้ชัด และยังมาพร้อมค่าความหน่วงที่ต่ำ เหมาะกับการเล่นเกมที่ต้องการความเร็วในการเชื่อมต่อ เพียงแค่วินาทีก็อาจจะแพ้ไปเลยก็ได้
หน่วยความจำของรุ่นนี้มี RAM มาให้ขนาด 8 GB และ ROM ขนาดใหญ่ 128 GB ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน สามารถเก็บแอพพลิเคชั่น ภาพถ่าย คลิปวิดีโอได้อย่างเพียงพอ แต่สำหรับรุ่นนี้ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ ซึ่งก็ถือว่าไม่เป็นอุปสรรค เพราะยังมีบริการ Cloud service สำหรับเก็บข้อมูลให้เลือกมากมายอย่างเช่น Google drive เป็นต้น
ในการทดสอบความเร็วด้วยแอพฯ Antutu Benchmark ที่เราใช้ทดสอบความแรง และความเร็วของสมาร์ทโฟนอยู่เป็นประจำ สามารถทำคะแนนได้สูงถึง 316,831 คะแนนเลยทีเดียว ต้องยกความดีให้ Snapdragon 765G , หน่วยความจำที่อ่านเขียนได้รวดเร็ว และชิพประมวล ผลภาพ 3D ที่ขับเคลื่อนความแรงได้ในระดับนี้
ดังนั้นการเล่นเกมที่ใช้ CPU และการประมวลผลภาพ 3D หนักๆ อย่าง PUBG Mobile, Call of Duty Mobile, Asphalt 9 ก็สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล ไม่มีปัญหา และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Liquid Chamber Cooling ที่เป็นการระบายความร้อนด้วยของเหลว ทำให้เครื่องไม่ร้อน และไม่ทำให้เฟรมเรทตกอีกด้วย
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ทำงานควบคู่ไปกับระบบระบายความร้อนคือ Ultra Game Mode และ Multi-Turbo 3.0 ที่ช่วยให้การเล่นเกมสนุกมากยิ่งขึ้น โดยฟีเจอร์เหล่านี้จะช่วยจัดสรรทรัพยากรที่มีในเครื่องมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ และยังช่วยให้การแจ้งเตือน หรือโทรเข้าขัดจังหวะการเล่นเกมอีกด้วย และสำหรับนักกีฬา Esports ก็ยังมี Esports mode ที่จะช่วยปิดกั้นการแจ้งเตือนทั้งหมด รวมไปถึงจัดการเฟรมเรทไม่ให้มีอาการสะดุด ซึ่งจะช่วยให้ผู้เล่นมีสมาธิจดจ่ออยู่กับการเล่นเกมโดยปราศจากสิ่งรบกวนด้วย
FuntouchOS 11 บนระบบปฏิบัติการ Android 10 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด
มาถึงรุ่นนี้ที่มาพร้อมเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดอย่าง FuntouchOS 11 และ Android 10 พร้อมอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดเมื่อพร้อม สำหรับโหมดอื่นๆ ที่น่าสนใจก็มีให้ใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Dark mode ที่ปรับหน้าจอเมนูเป็นสีดำ นอกจากจะถนอมสายตาแล้ว ยังช่วยประหยัดพลังงานด้วย, Jovi ผู้ช่วยอัจฉริยะที่จะมาช่วยอัพเดทข้อมูลข่าวสารต่างๆ รวมไปถึงการแจ้งเตือนการออกกำลังกาย, การทำงาน, การดื่มน้ำ และแจ้งเตือนการจำกัดการใช้งานสมาร์ทโฟน เพื่อไม่ใช้งานมากเกินไป
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4000 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว 33 วัตต์ด้วย Vivo FlashCharge 2.0
ถึงแม้ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่บางที่สุดในโลก แต่แบตเตอรี่ก็มีความจุสูงถึง 4000 mAh เลยทีเดียว ทำงานผสานกับระบบ Vivo Energy Guardian (VEG) ซึ่งเป็นระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะ สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องยาวนานทั้งวัน หรือหากเล่นเกมจนแบตหมดก็สามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็วด้วยอแดปเตอร์ Vivo FlashCharge 2.0 ที่มีกำลังไฟถึง 33 วัตต์
บทสรุป Vivo V20 Pro 5G จากความเห็นของ What Phone
จากที่เคยประทับใจกับสมาร์ทโฟน Flagship อย่าง Vivo X50 Pro 5G เราได้สัมผัสความประทับใจนั้นอีกครั้งกับ Vivo V20 Pro 5G รุ่นนี้ในราคาที่ย่อมเยากว่าเพียง 14,999 บาทเท่านั้น ทั้งวัสดุ ดีไซน์ ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ถอดแบบกันมา อาจจะตัดฟังก์ชั่นบางอย่างเพื่อให้ราคาเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ซึ่งจากการใช้งานมาสักพักพบว่าไม่ได้มีความแตกต่างกันขนาดนั้น โดยยังคงความแรงของชิพประมวลผล และการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G ที่เร็วที่สุดในเวลานี้ สามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องรออัพเกรด กล้องถ่ายภาพที่ไม่มี Gimbal ก็ไม่ได้ทำให้การถ่ายภาพ หรือถ่ายวิดีโอแตกต่างกันมากนัก ยังคงความคมชัด ได้อย่างดีเยี่ยม ระบบ AI ที่ชาญฉลาด ช่วยให้เราแต่งภาพได้อย่างง่ายดาย ทั้งก่อนถ่าย และหลังถ่าย ด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานทั้งหมดในราคาหมื่นกลางแบบนี้ หาไม่ได้ง่ายๆ เลยในตลาดตอนนี้ และหากซื้อกับ Operator ก็จะยิ่งได้ราคาถูกลงไปอีกเหลือเพียง 4,989 บาทเท่านั้น สามารถสัมผัสเทคโนโลยีแห่งอนาคตจาก Vivo V20 Pro 5G ได้แล้ววันนี้
สรุปสเป็ค และจุดเด่นของ Vivo V20 Pro 5G
- ขนาด 158.82 x74.20 x 7.39 มม. บางสุดเพียง 7.39 มม.
- หน้าจอ AMOLED FHD+ ขนาด 6.4 นิ้ว รองรับ HDR10
- หน่วยประมวลผล Snapdragon 765G Octa-core ความเร็ว 2.4 GHz
- หน่วยความจำ RAM 8 GB, ROM 128 GB
- รองรับเครือข่าย 4G LTE และ 5G
- กล้องหน้าคู่ 44 ล้านพิกเซล
- กล้องหลักความละเอียด 44 ล้านพิกเซล f/2.0
- กล้องเลนส์ Super Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 105 องศา f/2.28
- กล้องหลัง 3 ตัว
- กล้องเลนส์หลัก 64 ล้านพิกเซล f/1.8
- กล้องเลนส์ Multifunction ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- Super Wide Angle เลนส์มุมกว้าง 120 องศา รูรับแสงกว้าง f/2.2
- Super Macro ระยะใกล้สุด 2.5 ซม.
- Light Speckle Bokeh
- กล้องเลนส์ Mono ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ 4,000 mAh ชาร์จเร็ว FlashCharge 2.0 กำลังไฟ 33 วัตต์
- มีให้เลือก 3 สี Sunset Melody, Moonlight Sonata, Midnight Jazz
- ราคาเปิดตัว14,999 บาท
- ราคาพร้อมเปิดแพ็คเก็จกับ AIS, True Move H เริ่มต้น 4,989 บาท
ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพจากกล้องหลัง
ภาพจากกล้องเลนส์ระยะต่างๆ