Vivo V20 SE สมาร์ทโฟนรุ่นที่ 3 ในตระกูล V20 Series หลังจากเปิดตัว V20 Pro 5G, V20 และรุ่นนี้ที่มีราคาย่อมเยากว่า โดยเปิดตัวในราคาเพียง 8,699 บาท แต่ยังมาพร้อมดีไซน์ที่สวยงาม กับความบางเช่นเดียวกับ V20 Series รุ่นก่อนๆ มาดูกันว่าคราวนี้ V20 SE รุ่นนี้ จะมีจุดเด่นอะไรมาให้เราได้ใช้งานกันบ้าง
แกะกล่องลองเล่น Vivo V20 SE
- Vivo V20 สี Gravity Black
- อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ Vivo FlashCharge 2.0 กำลังไฟ 33 วัตต์
- สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C
- เคสซิลิโคนแบบใส
- หูฟังแบบ Earbuds ขนาด 3.5 มม.
- ฟิล์มกันรอย (ติดมาจากโรงงาน)
- คู่มือการใช้งาน
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
เหมือนเช่นเคย Vivo ตอบโจทย์ผู้ใช้งานในด้านของอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่มีมาให้ครบครัน แกะกล่องออกมา พร้อมใช้งานทันที ไม่ต้องไปหาซื้อฟิล์ม ซื้อเคสให้เสียเงินเสียเวลา ใส่ซิมเปิดเครื่อง ตั้งค่าอีเมล์ก็ใช้งานได้เลย ส่วนอแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ก็มีมาให้ครบ มาพร้อมระบบชาร์จเร็ว FlashCharge 2.0 กำลังไฟ 33 วัตต์มาให้ในกล่อง ไม่ต้องซื้อเพิ่ม
Vivo V20 SE สี Gravity Black ดีไซน์ 3D Slim body บางเฉียบเพียง 7.83 มม.
ตัวเครื่อง V20 SE ที่เราได้มาทดสอบเป็นสี Gravity Black ด้านหลังไล่เฉดสีเงินไปดำจากบนลงล่าง ดูคมเข้มน่าค้นหา เปรียบเสมือนแสงสว่างที่เจิดจรัสอยู่ท่ามกลางความมืดมิด โดยฟิล์มด้านในยังสะท้อนแสงในมุมมอง และมีมิติต่างๆ ไม่เหมือนกัน และถึงแม้ว่าจะใส่เคสที่มีมาให้ในกล่องก็ไม่ทำให้สีสันของตัวเครื่องดูน้อยลงไปแต่อย่างใด อีกทั้งยังช่วยปกป้องตัวเครื่อง และช่วยลดรอยนิ้วมือที่จะทำให้สีสันของตัวเครื่องดูหม่นหมองด้วย นอกจากนี้ยังมีสี Oxygen blue ให้เลือกอีกด้วย
อีกความโดดเด่นที่ V20 Series ยังส่งต่อมาสู่รุ่นนี้นั่นก็คือความบางเฉียบเพียง 7.83 มม. ขอบด้านข้างโค้งมนแบบ 3D จับถือได้ถนัดมือ ตัวเครื่องขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 171 กรัมเท่านั้น ถือเป็นสมาร์ทโฟนดีไซน์สวยบางเฉียบ เบาบาง พกพาได้สะดวก เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่ทรงประสิทธิภาพในขนาดที่นำไปใช้งานได้ทุกที่
มาดูที่จอแสดผลกันบ้าง กับหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ที่ให้สีสันสมจริง มีขนาดใหญ่ถึง 6.44 นิ้ว แสดงผลได้เกือบเต็มขอ มุมจอแสดงผลทั้ง 4 มุมยังโค้งรับกับดีไซน์ของตัวเครื่อง เหนือจอแสดผลมีกล้องหน้าแบบหยดน้ำ พร้อมทั้งมีลำโพงสนทนา และเซ็นเซอร์ต่างๆ อยู่บริเวณนี้ และส่วนล่างก็ยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ซ่อนไว้ใต้จอแสดงผล สามารถสแกนปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว
ที่ด้านหลังสี Gravity Black ที่ไล่เฉดสีเงินไปสีดำ วัสดุที่ใช้เป็นแบบเงางาม บริเวณกล้องเป็นกรอบสี่เหลี่ยมที่มีเลนส์รับภาพมาให้ 3 เลนส์ พร้อมไฟแฟลชแบบ Dual LED
ด้านข้างของตัวเครื่องดีไซน์โค้งมนแบบ 3D ไม่รู้สึกถึงความคมบาดมือขณะใช้งาน ที่ด้านข้างซ้ายดีไซน์แบบโล่งๆ ไม่มีปุ่มกดใดๆ แต่ที่ด้านข้างขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิดปิดเครื่องรวมไว้ด้านข้างนี้ทั้งหมด
ที่ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา ถัดมาเป็นช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบ 3 ช่อง แบ่งออกเป็นช่องใส่ SIM1, SIM2 และการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD
ส่วนที่ด้านล่างมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ช่องไมโครโฟนรับเสียง, ช่องเสียบสายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C และช่องลำโพงของตัวเครื่อง และด้วยไมโครโฟน 2 ตัวที่อยู่ด้านบน และด้านล่างจะทำงานด้วยกันในระบบ Dual Mic Noise Cancelling ที่จะเข้ามาช่วยในการคุยสนทนาคมชัด ปราศจากเสียงรบกวนด้านข้าง ทำให้การคุยโทรศัพท์ชัดเจนยิ่งขึ้น
กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ถ่ายสวยแม้แสงน้อยด้วย Super Night Selfie
Vivo V20 SE มาพร้อมกล้องหน้าแบบเดี่ยวความละเอียดสูงถึง 32 ล้านพิกเซล แต่สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ด้วยซอฟท์แวร์ และระบบ AI อัจฉริยะ อีกทั้งยังมีค่ารูรับแสงที่กว้างถึง f/2.0 ช่วยให้เก็บแสงได้สว่างกว่าเดิม โดยเฉพาะในที่มืดนอกจากนี้ยังมีโหมดการถ่ายภาพให้เลือกในโหมดสไตล์ เป็นเหมือน Filter ให้เลือก 2 แบบ และยังมีโหมด Beauty ที่สาวๆ ชื่นชอบ มีให้เลือกใช้งานถึง 2 โหมดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น
- โหมดความงาม (Face beauty) เลือกปรับความเนียนของใบหน้า, ปรับโทนสีผิว, ปรับความเรียวของใบหน้า หรือเลือกปรับส่วนต่างๆ ของใบหน้าไม่ว่าจะเป็น ตา จมูก ปาก แก้ม หน้าผาก ฯลฯ
- โหมดท่าทาง (Posture) ในโหมดนี้เหมาะกับสาวๆ ที่ไม่รู้ว่าจะโพสท่าไหนให้ดูดี สามารถเลือกใช้โหมดนี้เป็นตัวช่วยในการโพสท่าในแบบต่างๆ มีให้เลือกหลากหลายแบบ และยังมีตัวอย่างการโพสท่าแบบคู่ โพสท่าแบบหมู่กับเพื่อนๆ, แบบสปอร์ต แบบท่องเที่ยว ฯลฯ
สำหรับการถ่าย Portrait ด้วยกล้องหน้าก็มีโหมด ฺBokeh มาให้ ซึ่งจะช่วยเบลอฉากหลังด้วยระบบ AI ทำให้ภาพบุคคลดูโดดเด่น ไม่ถูกดึงดูดสายตาจากฉากหลัง และระบบการเบลอฉากหลังก็ทำได้
และการถ่ายภาพในเซลฟี่ในตอนกลางคืนก็ยังคงมี Selfie Softlight band ซึ่งจะใช้หน้าจอเปล่งแสงสีขาวนวล ซึ่งจะช่วยให้ใบหน้าสว่างใสมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า
กล้องหลัง 3 เลนส์ 48 ล้านพิกเซล ระบบ AI ไม่หวั่นแม้แสงน้อยด้วย Super night mode
ด้วยเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ของ Vivo V20 SE ที่มาพร้อมความละเอียดของกล้องสูงถึง 48 ล้านพิกเซล จึงทำให้การถ่ายภาพในที่มืดทำได้อย่างคมชัด และยังมีกล้องเลนส์ระยะต่างๆ ด้วย โดยสเป็คของกล้องทั้ง 3 มีดังนี้
- กล้องเลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8
- กล้องเลนส์ Multifunction ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
- Super Wide Angle
- Super Macro
- กล้องเลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
ถึงแม้ว่าจะมี 3 เลนส์ แต่จะมีเลนส์ Multifunction ที่ทำให้ถ่ายภาพได้ครบทุกระยะ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพมุมกว้าง และถ่ายภาพระยะใกล้ และยังมีเลนส์ Bokeh ที่จะช่วยให้การถ่ายภาพ Portrait ละลายฉากหลังได้สมจริงมากยิ่งขึ้น
ในการถ่ายภาพตอนกลางคืนก็มี Super Night Mode ที่จะช่วยให้การถ่ายภาพตอนกลางคืนง่ายยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง เพียงแค่ถ่ายด้วยมือนิ่งๆ เพียง 1-3 วินาทีก็จะได้ภาพที่คมชัด ไม่เบลอ อีกทั้งยังมีโหมด HDR ที่จะช่วยให้เห็นรายละเอียดในจุดที่มืด และสว่างได้อย่างคมชัด
ตัวอย่างภาพถ่ายเปรียบเทียบ Super Night Mode
และในการถ่ายภาพ Portrait ก็มีให้เลือกปรับเหมือนกับการด้วยกล้องหน้า ก็มีโหมด Face beauty และโหมด Posture เหมือนกับการถ่ายด้วยกล้องหน้า ช่วยปรับใบหน้าให้เนียนใสโดยไม่ต้องพึ่งแอพฯ แต่งภาพอีกต่อไป สำหรับโหมดถ่ายภาพอื่นๆ ก็มีทั้ง Panorama, Live Photo, Slow-mo, Time-lapse, AR Sticker
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Portrait Framing ที่จะช่วยจัดองค์ประกอบการถ่ายภาพบุคคลโดยระบบจะแนะนำให้ขยับกล้องไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อให้ได้องค์ประกอบที่ดีที่สุด จากนั้นกล้องจะถ่ายภาพโดยอัตโนมัติ
สำหรับการถ่ายคลิปวิดีโอด้วยกล้องหลังก็สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที ส่วนกล้องหน้าถ่ายได้ที่ความละเอียด FullHD 1080p
แต่งภาพด้วยระบบ AI Image Matting และ Memory Recaller
หลังจากถ่ายภาพเสร็จแล้ว ก็ยังมีฟังก์ชั่นการแต่งภาพที่มีระบบ AI Image Matting ช่วยให้เราตัดต่อภาพถ่ายได้ง่ายขึ้น โดยระบบ AI จะทำการวิเคราะห์ภาพถ่ายแยกระหว่างภาพบุคคล ฉากหลัง ท้องฟ้า จากนั้นเราสามารถปรับเปลี่ยนฉากหลังได้ง่ายๆ เพียงแค่เลือกภาพที่จะเปลี่ยนได้ตามต้องการ
ในด้านการแต่งภาพถ่ายเก่าๆ ก็ยังคงมีมาให้เหมือนกับ V20 Series รุ่นก่อนๆ โดยฟีเจอร์ Memory Recaller เป็นการตกแต่งภาพถ่ายเก่าๆ โดยระบบ AI จะทำการปรับแต่งภาพให้คมชัดขึ้น ช่วยให้ภาพถ่ายเก่าๆ กลับมาคมชัด มีชีวิตชีวา พร้อมเก็บในรูปแบบของดิจิตอลได้โดยไม่มีวันจางหายเหมือนกับภาพที่อัดออกมาแล้ว
ระบบปฏิบัติการ Funtouch 11 พร้อมอัพเดท Android 11 เวอร์ชั่นล่าสุด
สำหรับ V20 SE ทำงานบน Funtouch 11 บนระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 10 แต่ก็พร้อมที่จะอัพเดทเวอร์ชั่น 11 เร็วๆ นี้ตามรุ่นพี่ V20 Series ทั้งสองรุ่น โดยขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 665 แบบ Octa-core เร็ว แรง เสถียร ประหยัดพลังงาน มีความร้อนต่ำ และยังมาพร้อมหน่วยความจำ RAM 8 GB และ ROM หรือพื้นที่หน่วยความจำจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ 128 GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำแบบ microSD ได้อีกด้วย
ส่วนหน่วยประมวลผลภาพ 3D ใช้ชิพ Adreno 610 ที่จะเข้ามาช่วยในการเล่นเกม จากการทดสอบเล่นเกมต่างๆ ก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี โดยเกมที่เราทดสอบเป็นประจำอย่าง PUBG Mobile สามารถปรับภาพไปที่ความละเอียดสูง หรือจะเป็นเกม Call of Duty Mobile หรือเกมอื่นๆ ก็สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Ultra Game Mode ที่จะช่วยจัดสรรทรัพยากรต่างๆ ในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่หน่วยความจำ RAM, จัดลำดับความสำคัญของ CPU ให้ประมวลผลเกมเป็นอันดับแรก เพิ่มประสิทธิภาพให้กับการเล่นเกมได้อย่างลงตัว
ในการทดสอบประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลด้วยแอพฯ Antutu Benchmark ที่เราใช้ทดสอบเป็นประจำก็ทำคะแนนได้ 189900 คะแนน และการทดสอบด้วยแอพฯ Geekbench 5 ทำคะแนน Single core ได้ 313 แลพ Multi-core ได้ 1353 คะแนน ถือว่าทำคะแนนได้ดีเมื่อเทียบสเป็คกับกับราคา
ชาร์จเร็วด้วย Vivo FlashCharge 2.0 ไฟแรง 33 วัตต์
หากเทียบความบาง กับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 4100 mAh ถือว่าแบตเตอรี่ที่มีมาให้มีความจุค่อนข้างสูง ปลอดภัยด้วยระบบ Vivo Energy Guardian (VEG) ซึ่งเป็นระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะ ช่วยให้ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน นอกจากนี้ยังมีระบบ Vivo FlashCharge 2.0 ที่สามารถชาร์จด้วยกำลังไฟ 33 วัตต์ ไม่ต้องรอนาน เสียบชาร์จเพียง 30 นาทีก็ได้แบตเตอรี่ถึง 62% และภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง แบตเตอรี่ก็จะเต็ม 100% พร้อมใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
บทสรุป Vivo V20 SE จากความเห็นของ What Phone
จากที่ได้ทดสอบ Vivo V20 Series มาครบทั้ง 3 รุ่น ในเรื่องของดีไซน์ภายนอก และความสวยงามถือว่าสวยทุกรุ่น แต่ละรุ่นก็มีความสวย ความแตกต่างกันไม่มากนัก แต่ในเรื่องของสเป็คภายใน แม้ว่า V20 SE จะเป็นรุ่นน้องสุด แต่กลับทำงานได้รวดเร็วไม่แพ้กัน จะต่างกันก็แค่การเล่นเกมที่ 2 รุ่นก่อนหน้านั้นจะมีประสิทธิภาพทีดีกว่า กล้องมีความละเอียดมากกว่า และการเชื่อมต่อ 5G แต่ถ้าตัดฟังก์ชั่นที่ว่ามา ปรับลดสเป็คลงมาหน่อย กับราคาเพียง 8,699 บาท กับสมาร์ทโฟนดีไซน์หรูหราสวยงาม พกพาสะดวก ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้ดีเลยล่ะครับ
สรุปสเป็ค และจุดเด่นของ Vivo V20 SE
- ขนาด 161 x 74.08 x 7.83 มม. นัำหนัก 171 กรัม
- หน้าจอ AMOLED FHD+ ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล
- หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 665 Octa-core
- หน่วยความจำ RAM 8 GB, ROM 128 GB
- เพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ได้สูงสุด 1 TB
- รองรับเครือข่าย 4G LTE
- กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล f/2.0
- กล้องหลัง 3 ตัว
- กล้องเลนส์หลัก 38 ล้านพิกเซล f/1.8
- กล้องเลนส์ Multifunction ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- Super Wide Angle รูรับแสงกว้าง f/2.2
- Super Macro ระยะใกล้สุด 2.5 ซม.
- กล้องเลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
- แบตเตอรี่ 4,100 mAh ชาร์จเร็ว Vivo FlashCharge 2.0 กำลังไฟ 33 วัตต์
- รองรับ WiFi ความถี่ 2.4 และ 5 GHz
- เชื่อมต่อ Bluetooth 5.0
- มีวิทยุ FM ในตัว
- มีให้เลือก 3 สี Gravity Black, Oxygen Blue
- ราคาเปิดตัว 8,699 บาท