หลังจาก vivo V23 ได้เปิดตัวไปแล้วเมื่อต้นปี คราวนี้ถือเป็นการเปิดตัว vivo V Series รุ่นใหม่อย่าง vivo V25 Series 5G โดยในช่วงแรกจะวางจำหน่าย vivo V25 5G ก่อน และทีมงาน What Phone ก็ได้เครื่องมาทดสอบเรียบร้อยแล้ว มาแกะกล่องดูกันเลยว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดนี้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
แกะกล่องลองเล่น vivo V25 5G
ถ้ายังจำกันได้ กล่องของสมาร์ทโฟน vivo V Series จะมาในแนวสีน้ำเงิน แต่คราวนี้เปลี่ยนใหม่เป็นสีเทาที่ดูแปลกตากว่าเดิม ด้านข้างกล่องยังมีโลโก้ vivo ซึ่งเป็นผู้สนับสนุน FIFA World Cup ปี 2022 อย่างเป็นทางการที่จะมีการแข่งขันที่การ์ต้าในช่วงเดือนพฤษจิกายนปีนี้ด้วย รอชมกันได้เลย และเมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีมาให้เต็มกล่องดังนี้
- สมาร์ทโฟน vivo V25 5G สี Sunrise Gold
- อแดปเตอร์ชาร์จไฟ vivo FlashCharge 44 วัตต์
- สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C
- เคสซิลิโคนแบบใส
- หูฟังสมอลล์ทอล์คแบบ On-ear ขนาด 3.5 มม.
- สายอแดปเตอร์แปลง USB-C เป็นพอร์ต 3.5 มม.
- ฟิล์มกันรอย (ติดมาจากโรงงาน)
- คู่มือการใช้งาน+ใบรับประกันสินค้า
- เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
ในขณะที่บางแบรนด์เริ่มตัดอุปกรณ์ต่างๆ ออกเหลือเพียงสายชาร์จ แต่ vivo ยังแถมอุปกรณ์ที่จำเป็นในการใช้งานมาให้จนแน่นกล่อง ทั้งสายชาร์จ อแดปเตอร์ หูฟัง เคสใส ฟิล์มกันรอยที่ติดบนหน้าจออย่างเรียบร้อยจากโรงงาน เรียกได้ว่าอุปกรณ์ทุกอย่างในกล่องสามารถนำมาใช้งานได้เลย ไม่ต้องหาซื้ออะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว
vivo V25 5G สี Sunrise Gold เปลี่ยนสีฝาหลังด้วย Color Changing Glass
อีกหนึ่งความโดดเด่นของ vivo V25 ในรุ่นสี Sunrise Gold คือการเปลี่ยนสีของฝาหลังตาแสงที่ตกกระทบ และทำปฏิกิริยาเปลี่ยนสีเมื่อกระทบกับแสง UV ซึ่งเป็นผลจากกระบวนการผลิตด้วย Fluorite AG Glass ออกมาเป็นเทคโนโลยีที่ผสานกับศิลปะแห่งสีสัน โดยจะเห็นเป็น 2 สี นั่นก็คือสีทอง และสีส้ม สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเพียงแค่บิดข้อมือเปลี่ยนองศาให้แสงตกกระทบในมุมที่ต่างกัน เปรียบเสมือนแสงอาทิตย์ยามเช้าช่วงพระอาทิตย์ขึ้นที่จะเปลี่ยนจากเฉดสีส้มไปเป็นสีทอง ทำให้สมาร์ทโฟนดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร
vivo V25 ยังถูกออกแบบด้วยดีไซน์แบบเหลี่ยมที่เบา และบางเพียง 7.79 มม. สามารถจับถือได้ถนัดมือทั้งแนวตั้งและแนวนอน พื้นผิวกระจกด้านหลังเป็นแบบด้าน เมื่อสัมผัสจะไม่ติดรอยนิ้วมือ จึงไม่ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ นอกจากนี้ยังมีเคสใสแถมมาให้ในกล่อง ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนและการตกกระแทกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังไม่บดบังความสวยงามของตัวเครื่องด้วย
จอแสดงผล AMOLED Ultra Vision 90 Hz
จอแสดงผลของรุ่นนี้มีขนาด 6.44 นิ้ว ใช้จอภาพแบบ AMOLED ที่ให้ความสว่าง และสีสันสมจริง สามารถมองเห็นได้ชัดเจนเมื่ออยู่กลางแจ้ง มีความละเอียดระดับ FHD+ หรือ 1080 x 2404 พิกเซล แสดงผลอย่างลื่นไหลด้วยอัตรารีเฟรชสูงสุด 90 Hz และยังมีโหมดอัจฉริยะที่ปรับเปลี่ยนตามคอนเทนท์ที่แสดงผล สามารถปรับลงได้ต่ำสุด 60 Hz เพื่อประหยัดพลังงาน ในด้านความเร็วในการแตะสั่งงาน หรือ Touch Sampling Rate สูงถึง 180 Hz ทำให้แตะสั่งงานได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเล่นเกมที่ความเร็วเป็นสิ่งสำคัญ
เหนือจอแสดงผลมีกล้องฝังไว้ใต้หน้าจอเป็นรูปหยดน้ำ และยังมีมีลำโพงสนทนา เซ็นเซอร์ต่างๆ ที่ซ่อนอยู่อย่างแนบเนียน ส่วนล่างของจอยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ฝังไว้ใต้หน้าจอ สามารถใช้นิ้วมือวางบนหน้าจอเพื่อปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว พร้อมบันทึกลายนิ้วมือได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ
จอภาพแบบ AMOLED รองรับการแสดงผลแบบ Always on Display ที่สามารถแสดงเวลา และการแจ้งเตือนต่างๆ ได้ตลอด จึงไม่ต้องหยิบขึ้นมาเปิดดูบ่อยๆ และยังสามารถแสดงผลเป็นภาพกราฟฟิคต่างๆ ที่มีให้เลือกมากมาย สำหรับการแสดผล Always on Display นี้จะแสดงผลเฉพาะส่วน จึงใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพียงน้อยนิดเท่านั้น
50 MP Eye Auto Focus Selfie Camera
หนุ่มๆ สาวๆ ที่ให้ความสำคัญกับการเซลฟี่ vivo V25 5G ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยกล้องหน้าความละเอียดถึง 50 ล้านพิกเซล พร้อมฟังก์ชั่น Human eye tracking ที่จะเข้ามาช่วยโฟกัสดวงตา และใบหน้าให้โดยอัตโนมัติ ผสานการทำงานกับระบบ AI HD Portrait ที่มาจากการอ้างอิงใบหน้าจากภาพถ่ายบุคคลจำนวนมาก ช่วยปรับความเนียนใส และรายละเอียดของใบหน้าให้ดูสวยงามสมจริง
ฟังก์ชั่นในการถ่ายภาพด้วยกล้องหน้าก็มีมาให้ใช้งานอย่างหลากหลาย ไมว่าจะเป็นโหมดความงามที่สามารถปรับความเนียนของใบหน้า โทนสีผิว ความขาวใสของใบหน้า และยังเลือกปรับตาโต จมูกเรียว รูปปากเล็กใหญ่ และช่วงความห่างของดวงตาได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีโหมดคลาสสิคอย่างท่าทางที่เป็นเหมือนไกด์รูปแบบการโพสท่า ซึ่งโหมดการถ่ายภาพนี้มีเพียงสมาร์ทโฟนของ vivo เท่านั้น
สำหรับการถ่ายเซลฟี่ตอนกลางคืนก็มี Soft light band ที่ใช้จอแสดงผลเปล่งแสงสีขาวนวลออกมาเพื่อให้ใบหน้าสว่างใส หมดกังวลถึงแม้ว่าจะเซลฟี่ในที่มืดก็ตาม
ถ่ายวิดีโอคมชัดด้วยกล้องความละเอียด 4K ทั้งหน้าและหลัง
ในด้านการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้า และกล้องหลังก็สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที สำหรับกล้องหน้ายังมาพร้อมฟีเจอร์ Steadiface กล้องจะทำการโฟกัสที่ใบหน้าโดยเฉพาะ จึงทำให้ใบหน้าดูนิ่ง คมชัดตลอดเวลา ไม่สั่นไหว แต่การถ่ายด้วยฟีเจอร์ Steadiface นี้จะถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุดที่ Full HD 1080p เท่านั้น และสำหรับการถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหลังก็ถ่ายได้ที่ความละเอียด 4K 30 เฟรมต่อวินาทีเช่นกัน แต่จะมีระบบกันสั่นระดับ Hardware คือระบบกันสั่น OIS ไม่ทำให้ภาพสั่นไหว
นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นในการถ่ายวิดีโอสนุกๆ มาให้ใช้งานในโหมด Dual View สามารถถ่ายด้วยกล้องหน้า และกล้องหลังพร้อมกับนำภาพมาซ้อนกันให้โดยอัตโนมัติ เหมาะกับการถ่ายรีวิวสถานที่ หรือสินค้าสำหรับ YouTuber หรือ Video Content Creator
และยังมีโหมดการถ่าย Vlog Movie หรือวิดีโอสั้น ที่สามารถถ่ายเลือกธีมการถ่ายวิดีโอ แล้วถ่ายเป็นช็อต ช็อตละ 3-4 วินาที โดยกล้องจะทำการตัดต่อภาพ เสียงเพลง และเอฟเฟ็คท์วิดีโอให้โดยอัตโนมัติ สามารถถ่ายสนุกๆ แชร์ให้เพื่อนๆ ผ่านโซเชียลได้ทันที
กล้องหลัง 64 MP AI Triple Camera พร้อมกันสั่น OIS
กล้องหลังของ vivo V25 ก็มีมาให้เลือกถ่ายถึง 3 เลนส์ โดยกล้องหลักมีความละเอียดมาให้สูงถึง 64 ล้านพิกเซล ส่วนเลนส์อื่นๆ ก็มีคุณสมบัติในการถ่ายภาพแตกต่างกันออกไป โดยกล้องทั้ง 3 เลนส์ก็มีสเป็คดังต่อไปนี้
- เลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.79
- เลนส์ Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 120 องศา รูรับแสงกว้าง f/2.2
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
กล้องความละเอียด 64 ล้านพิกเซลเมื่อถ่ายในโหมดปกติ กล้องจะทำการปรับความละเอียดลงเหลือ 16 ล้านพิกเซล แต่ยังคงใช้เซ็นเซอร์รับภาพเต็มพื้นที่ด้วยการนำเอา 4 พิกเซลรวมเหลือ 1 พิกเซล เพื่อให้การรับภาพ การรวมแสงทำได้ดีมากยิ่งขึ้น และข้อดีอีกอย่างของการรวมพิกเซลคือการทำให้ไฟล์รูปภาพมีขนาดเล็กลง แต่ยังมีขนาดใหญ่พอสำหรับการนำไปใช้งานอย่างเช่นการอัพภาพลงโซเชียล หรือการอัดภาพขนาดใหญ่ได้โดยไม่สูญเสียรายละเอียด แต่หากต้องการปรับความละเอียดไปที่สูงสุดที่ 64 ล้านพิกเซลก็ทำได้ในโหมด High resolution ได้เช่นกัน
โหมดการถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลายรูปแบบ มีโหมดให้เลือกถ่ายแบบกลางคืน, การถ่ายภาพบุคคล, พาโนรามา, ไลฟ์โฟโต้, สโลโม, ไทม์แลปส์, โปร, สติ๊กเกอร์ AR, เอกสาร, การรับแสงสองเท่า (Double Exposure)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
และสำหรับการถ่าย Portrait หรือการถ่ายภาพบุคคลก็สามารถเบลอฉากหลังเพื่อให้บุคคลดูโดดเด่นได้อย่างสมจริง สามารถปรับรูรับแสงได้กว้างถึง f/0.95 ไปจนถึง f/16 (ตัวเลขน้อย ฉากหลังยิ่งเบลอมากขึ้น) นอกจากนี้ยังสามารถนำภาพที่ถ่ายเสร็จแล้วมาเลือกปรับความคมชัดเฉพาะจุดได้อีกด้วย
Super Night Portrait Night ถ่ายตอนกลางคืนไม่หวั่นแสงน้อย
การถ่ายภาพ Portrait อาจจะเป็นปัญหาสำหรับกล้องรุ่นอื่น แต่สำหรับ vivo V25 รุ่นนี้กลับทำได้น่าประทับใจ และยังมีลูกเล่นต่างๆ ให้เลือกถ่ายได้สนุกยิ่งขึ้นด้วยโหมด Bokeh Flare Portrait ที่นอกจากจะถ่ายภาพละลายฉากหลังได้อย่างสวยงาม ทำให้ภาพบุคคลดูโดดเด่นแล้ว ยังสามารถปรับเปลี่ยนดวงไฟเล็กๆ ที่อยู่ด้านหลังให้กลายเป็นรูปอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นรูปหัวใจ, รูปดวงดาว, รูปผีเสื้อ หรือรูปดอกซากุระ ทำให้ภาพออกมาดูแปลกตาไม่เหมือนใคร
แรงเต็มประสิทธิภาพด้วยชิป Dimensity 900 เพิ่ม RAM ได้สูงสุด 8+8 GB
ชิปประมวลผลจาก MediaTek ได้พิสูจน์ความเร็ว แรง มีเสถียรภาพในการทำงานสูงมาแล้วหลายต่อหลายรุ่น มาถึงรุ่นนี้ vivo ยังได้เลือกชิปประมวลผลใหม่ล่าสุดอย่าง MediaTek Dimensity 900 ที่พัฒนาต่อยอดจากชิปรุ่นก่อน ใช้พลังงานต่ำ ให้ประสิทธิภาพในการทำงานที่สูง มีหน่วยประมวลผล 8 แกนความเร็ว 2.4 GHz มีหน่วยความจำ RAM ขนาด 8 GB และสามารถเพิ่มได้จาก ROM อีกสูงสุดถึง 8 GB รวมเป็น 16 GB เลยทีเดียว เพียงพอสำหรับการเปิดใช้งานหลายแอพฯ พร้อมกันโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาโหลดแอพฯ ใหม่ ส่วนหน่วยความจำหลักก็มีให้เลือกทั้งขนาด 128 GB และ 256 GB แต่ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำได้ หากคุณเป็นสายถ่ายวิดีโอ แนะนำเป็นรุ่น 256 GB ไปเลยทีเดียวจบ
การทำงานของ vivo V25 ใช้ระบบปฏิบัติการพื้นฐานเป็น Android เวอร์ชั่น 12 พร้อมเสริมการทำงานด้วย FunTouchOS เวอร์ชั่น 12 ที่มาพร้อม UX/UI ที่สวยกว่าเดิม เมนูการใช้งานไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย รองรับ Google Mobile Service เต็มรูปแบบ ทั้งแอพพลิเคชั่น, บริการต่างๆ จาก Google ไม่ว่าจะเป็นอีเมล์, ระบบนำทาง, บริการเก็บข้อมูล Google Drive, Google Photo ฯลฯ
รองรับการเล่นเกมเต็มรูปแบบ พร้อมระบบระบายความร้อน Liquid Cooling System
ปัญหาสำหรับเหล่าเกมเมอร์ที่ใช้สมาร์ทโฟนเป็นหลักคือการระบายความร้อน ซึ่งหากสมาร์ทโฟนที่ระบายความร้อนได้ไม่ดี เกิดความร้อนสะสมในตัวเครื่องก็จะทำให้เฟรมเรทในการเล่นเกมลดลง ภาพกระตุกจนอาจจะแพ้เกมนั้นไปเลยก็ได้ แต่สำหรับ vivo V25 มาพร้อมระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว หรือ Liquid Cooling Syetem ที่นำพาความร้อนได้ดี มีพื้นผิวระบายความร้อนมากถึง 9718.17 ตร.มม. ช่วยกระจายความร้อนได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากระบบ Hardware ที่ดีแล้ว ระบบซอฟท์แวร์ หรือการจัดการระบบของรุ่นนี้ก็ดีไม่แพ้กันด้วยฟีเจอร์ Ultra Game Mode และ Multi-Turbo ที่จะช่วยจัดสรรทรัพยากรต่างๆ ในเครื่อง สามารถเลือกได้ว่าจะใช้ Performance mode เพื่อประสิทธิภาพในการเล่นเกมสูงสุด มีการจัดพื้นที่หน่วยความจำ RAM, การประมวลผลของ CPU มีระบบปิดการแจ้งเตือนต่างๆ โดยเฉพาะใน Esports Mode ที่จะปิดการแจ้งเตือนทั้งหมด รวมไปถึงสายโทรเข้าต่างๆ ไม่ให้รบกวนการเล่นเกม
และในการทดสอบเล่นเกม 3D แบบหนักๆ อย่างเช่นเกม PUBG Mobile ที่เราใช้ทดสอบเป็นประจำก็สามารถปรับภาพกราฟฟิคไปได้สูงสุดที่ระดับ HDR HD และสามารถปรับเฟรมเรทได้ที่ระดับสูงสุด Ultra ซึ่งหากปรับได้ในระดับนี้ก็สามารถเล่นเกม 3D อื่นๆ ได้อย่างสบายๆ
จากการทดสอบประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลด้วยแอพพลิเคชั่น Antutu 3D Benchmark เวอร์ชั่น 9.4.4 สามารถทำคะแนนได้ 451,317 คะแนน
มาถึงการทดสอบด้วยแอพฯ Geekbench 5 ก็สามารถทคะแนน Single-core ได้ 667 คะแนน และ Multi-core ได้ 2014 คะแนน โดยจากการทดสอบประสิทธิภาพความแรงถือว่าทำได้ค่อนข้างดี สามารถใช้ทำงานทั่วไป หรือจะเล่นเกม 3D แบบหนักๆ ก็ยังเล่นได้สบายๆ
ชาร์จเร็วด้วย vivo FlashCharge 44 วัตต์
การชาร์จเร็วของรุ่นนี้ก็มีอแดปเตอร์ vivo FlashCharge 44 วัตต์มาให้ในกล่อง มีระบบรักษาความปลอดภัยในด้านการปล่อยกระแสไฟฟ้า จึงสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็ว และมั่นใจ มีระบบ Smart Charging Engine ที่ช่วยจัดสรรปริมาณกระแสไฟฟ้าให้เหมาะสม ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ให้ใช้ได้ยาวนาน สำหรับแบตเตอรี่ของรุ่นนี้ก็มีความจุถึง 4500 mAh ถือว่ามีขนาดความจุมากเมื่อเทียบกับความบางของตัวเครื่อง จากการทดสอบชาร์จจากแบตเตอรี่เหลือ 1% ใช้เวลา 10 นาทีก็ได้แบตเตอรี่มาถึง 20% และเมื่อชาร์จต่อไป 45 นาทีก็ได้ไฟมาถึง 80% และหากปล่อยให้ชาร์จจนเต็ม 100% ก็ใช้เวลาเพียงชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น โดยเมื่อแบตเตอรี่ใกล้เต็ม ระบบจะทำการปรับกระแสให้ต่ำลงโดยอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย และช่วยลดความร้อน พร้อมกับถนอมแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นานขึ้น
บทสรุปรีวิว vivo V25 5G จากความเห็นของ What Phone
ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้งานสนุกด้วยการปรับเปลี่ยนสีฝาหลังด้วยแสงที่ตกกระทบในมุมต่างๆ เผยให้เห็นเฉดสีที่สวยงามเสมือนท้องฟ้ายามพระอาทิตย์ขึ้น การใช้งานก็จับได้ถนัดขึ้นด้วยดีไซน์แบบเหลี่ยมที่เข้ากับอุ้งมือ ถือได้อย่างมั่นใจไม่ต้องกังวลว่าจะลื่นหลุดมือ สำหรับประสิทธิภาพการทำงานของรุ่นนี้ถือว่าทำได้ดี เล่นเกม 3D ปรับความละเอียดสูงๆ ได้อย่างลื่นไหล ไม่กระตุก ในด้านการถ่ายภาพก็ยังคงทำได้น่าประทับใจเหมือนเคย ถ่ายสนุกทั้งภาพนิ่ง และวิดีโอความละเอียดสูง พร้อมลูกเล่นการถ่ายภาพที่ไม่เหมือนใคร ส่วนราคาเปิดตัวนั้นถูกกว่า vivo V23 5G รุ่นก่อนพอสมควร โดยเปิดราคารุ่นหน่วยความจำ 128 GB อยู่ที่ 13,999 บาทเท่านั้น และเพิ่มอีก 1 พันบาทก็จะได้รุ่นหน่วยความจำ 256 GB ในราคาเพียง 14,999 บาท
ส่วนใครที่รอรุ่น vivo V25 Pro แว่วว่าอีกไม่นานก็เข้ามาวางจำหน่ายในบ้านเรา อดใจรอกันได้เลยครับ
สรุปสเป็ค และจุดเด่นของ vivo V25 5G
- ขนาด 159.20 × 74.20 × 7.79 มม., น้ำหนัก 186 กรัม
- หน้าจอ AMOLED FHD+ ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2404 พิกเซล
- ปรับรูปแบบการแสดงผลอัตโนมัติด้วย Refresh rate สูงสุด 90 Hz
- หน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 900 Octa-core 2.4 GHz
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch 12 บนพื้นฐาน Android เวอร์ชั่น 12
- หน่วยความจำ RAM 8 GB, ROM 128/256 GB
- สามารถดึงหน่วยความจำ ROM มาเพิ่มหน่วยความจำ RAM ได้อีก 8 GB
- เพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ด้วย microSD
- หน่วยประมวลผลภาพ 3D Mali-G68 MC4
- รองรับเครือข่าย 4G LTE และ 5G แบบ Dual Mode
- กล้องหน้าความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0
- กล้องหลัง 3 เลนส์
- กล้องเลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.79
- กล้องเลนส์ Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
- กล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- แบตเตอรี่ 4500 mAh ชาร์จเร็ว FlashCharge กำลังไฟ 44 วัตต์
- รองรับการเชื่อมต่อ WiFi ความถี่ 2.4/5 GHz และ Bluetooth 5.2
- มีให้เลือก 2 สี Sunshine Gold (ฝาหลังเปลี่ยนสีได้) และ Diamond Black
- ราคาเปิดตัว
- รุ่นความจุ 128 GB ราคา 13,999 บาท
- รุ่นความจุ 256 GB ราคา 17,999 บาท
ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง