Vivo Y30 สมาร์ทโฟนสเป็คสุดคุ้มที่เปิดตัวไปพร้อมๆ กับ Vivo Y50 ถือเป็น Y Series 2 รุ่นแรกในปีนี้ที่ทาง Vivo เข้ามาทำตลาด สำหรับ Vivo Y30 มาพร้อมดีไซน์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และยังเลือกใช้สีสันที่สวยงามมีโทนสีให้เลือกเหมาะกับทุกวัย ด้วยราคาสุดคุ้มเพียง 6,999 บาท แต่ฟังก์ชั่นภายในเครื่องจะคุ้มค่าขนาดไหน เรามาดูกันครับ
แกะกล่องลองเล่น Vivo Y30
รูปแบบของกล่องที่เราได้มาทดสอบจะดูเหมือนกับสมาร์ทโฟน Y Series ที่เคยได้มา ตัวกล่องด้านหน้าจะมีชื่อรุ่นบ่งบอกชัดเจน ส่วนที่หลังกล่องก็จะมีบอกคุณสมบัติเด่นๆ ของรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอขนาดใหญ่ 6.47 นิ้วที่มีคุณสมบัติถนอมสายตา, กล้องหลัง 4 ตัวพร้อมระบบ AI และความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึงขนาด 5,000 mAh และเมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์มาตรฐานต่างๆ ดังนี้
- สมาร์ทโฟน Vivo Y30 สี Dazzle Blue
- สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C
- อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่กำลังไฟ 10 วัตต์
- เคสใสแบบ TPU
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
- ฟิล์มกันรอย (ติดมาจากโรงงานเรียบร้อย)
- คู่มือการใช้งานและใบรับประกัน
สำหรับอุปกรณ์ในกล่องสมาร์ทโฟน Y Series ปกติจะไม่มีชุดหูฟังสมอลล์ทอล์คมาให้ แต่สำหรับผู้ใช้ที่ชื่นชอบการฟังเพลงมักจะมีหูฟังประจำตัวอยู่แล้ว สามารถนำมาใช้งานร่วมกับรุ่นนี้ได้ทันที และในรุ่นนี้ยังได้เปลี่ยนพอร์ตการชาร์จเป็นแบบ USB-C ที่สามารถเสียบชาร์จด้านไหนก็ได้ และยังเป็นพอร์ตมาตรฐานใช้งานร่วมกับรุ่นอื่นๆ ได้อีก ภายในกล่องยังมีเคสใสแบบ TPU ที่สามารถยืดหยุ่นได้ ตัวเคสปกป้องปกป้องที่ด้านหลังแบบเต็มตัว ทั้งฝาหลังและเลนส์รับภาพ ส่วนด้านหน้ามีฟิล์มกันรอยที่ติดมาจากโรงงานเรียบร้อย พร้อมใช้งานทันที นั่นก็หมายความว่าเมื่อแกะกล่องออกมา ใส่ซิมการ์ด ชาร์จแบตเตอรี่ เปิดเครื่องก็ใช้งานได้เลย ไม่ต้องไปร้านซื้ออุปกรณ์เสริมใดๆ เพิ่มเติม
ดีไซน์หรูหรา ฝาหลังสีสันสวยงามแบบ Dazzling 3D Colours
สีที่เราได้มาทดสอบเป็นสี Dazzle Blue เป็นสีน้ำเงิน-ฟ้าแบบเรียบๆ สีสันเป็นถูกแบบ Dazzling 3D Colours เมื่อกระทบแสงจะเผยให้เห็นสีสัน และการกระจายของแสงเป็นเส้นสีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสีฟ้า น้ำเงิน ซึ่งหากมองดีๆ ก็จะเห็นสีฟ้าอมเขียว ดูสวยงามมาก ฝาหลังใช้วัสดุคล้ายกระจกเงางาม แต่ก็เป็นรอยนิ้วมือง่ายเช่นกัน ขอบของตัวเครื่องดีไซน์โค้งแบบ 3D เข้ากับอุ้งมือพอดี และหากใส่เคสใสที่มีมาให้ในกล่องแล้วก็จะยังคงเห็นสีสันของตัวเครื่องได้อย่างเด่นชัด อีกทั้งยังช่วยให้การจับถือใช้งานกระชับ ไม่ลื่นหลุดมือด้วย
ด้านหน้าเป็นจอแสดงผล Ultra O Screen ขนาด 6.47 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ (1560 x 720 พิกเซล) มีกล้องหน้าแบบเจาะรูฝังไว้ที่มุมบนซ้ายของหน้าจอ แต่ก็ถือว่าไม่ได้กินพื้นที่ และไม่ได้รบกวนสายตามากนัก สีสันของจอภาพถือว่าทำได้สวยงามสมจริง ให้แสงสว่างสู้แดดได้ดี อัตราส่วนหน้าจอแสดงผลอยู่ที่ 90.77% ถือว่าแสดงผลได้เกือบเต็มพื้นที่ด้านหน้า จะเหลือขอบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ฝาหลังสี Dazzle Blue ที่ให้ประกายไล่เฉดสีสวยงามเมื่อกระทบแสง เลนส์รับภาพทั้งหาดอยู่ในกรอบสีดำทั้งหมด เรียงตัวกันเป็นรูป L ใกล้ๆ กันเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
ถาดใส่ช่องซิมการ์ดอยู่ที่ด้านข้างซ้าย เป็นถาดแบบ 3 ช่องแบ่งระหว่าง SIM1, SIM2 และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำ microSD จึงไม่ต้องสลับ SIM2 และการ์ดหน่วยความจำให้วุ่นวายเหมือนรุ่นอื่น สามารถใส่ได้พร้อมกันทั้งหมด ส่วนด้านข้างขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิดปิดเครื่อง
ส่วนบนของตัวเครื่องเป็นแบบโล่งๆ ไม่มีอุปกรณ์ใดๆ อยู่บนนี้ ส่วนด้านล่างมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. รองรับชุดหูฟังที่ใช้แจ็คแบบนี้ ถัดมาเป็นช่องไมโครโฟนรับเสียงสนทนา, พอร์ต USB-C และช่องลำโพงของตัวเครื่อง
หน่วยประมวลผลแรง แต่ประหยัดพลังงาน หน่วยความจำเยอะสะใจ
การใช้งานของ Vivo Y30 จะเน้นใช้งานทั่วไปเป็นหลัก แต่ก็ยังรองรับการเล่นเกม 2D ได้บ้าง จุดเด่นของหน่วยประมวลผล MediaTek MT6765 Octa-core ที่นอกจากจะพัฒนาให้เร็วแรงกว่ารุ่นก่อนๆ แล้ว ยังมีระบบประหยัดพลังงานที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน ในขณะเดียวกันก็ให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลที่ดี ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่มีอาการค้างให้เห็น สำหรับหน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB ที่รองรับการเปิดแอพฯ ได้พร้อมกันหลายแอพฯ และ ROM ขนาดใหญ่ถึง 128 GB เก็บภาพถ่าย คลิปวิดีโอ หรือแอพฯ ต่างๆ ได้อย่างเหลือเฟือ และยังเพิ่มหน่วยความจำ microSD ได้อีกต่างหาก
ในด้านการทำงานยังคงใช้ FuntouchOS 10 บนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android 10 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด และยังสามารถอัพเดทเป็นเวอร์ชั่นต่อไปได้ จากที่แกะกล่องเปิดเครื่องก็มีเวอร์ชั่นใหม่ให้เราได้อัพเดทกันแล้ว สำหรับการใช้งานก็มีฟีเจอร์เด่นๆ ที่น่าสนใจอย่างฟังก์ชั่นหลายหน้าจออัจฉริยะ ที่สามารถแบ่งการทำงานได้ 2 แอพฯ พร้อมกันในหน้าจอเดียว อาจจะแบ่งจอแรกเป็น YouTube จอที่ 2 เป็น Facebook สามารถดู Feed ไปพร้อมๆ กันการเปิดคลิปวิดีโอดูได้ สำหรับโหมดอื่นๆ ที่น่าสนใจก็มีให้ใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Dark mode ที่ปรับหน้าจอเมนูเป็นสีดำ นอกจากจะถนอมสายตาแล้ว ยังช่วยประหยัดพลังงานด้วย, Jovi ผู้ช่วยอัจฉริยะที่จะมาช่วยอัพเดทข้อมูลข่าวสารต่างๆ รวมไปถึงการแจ้งเตือนการออกกำลังกาย, การทำงาน, การดื่มน้ำ และแจ้งเตือนการจำกัดการใช้งานสมาร์ทโฟน เพื่อไม่ใช้งานมากเกินไป
สำหรับการทดสอบความเร็วด้วยแอพฯ Antutu Benchmark ที่เราใช้ทดสอบเป็นประจำก็ทำคะแนนได้ 108,021 ถึงแม้ว่าจะไม่สูง แต่ก็ถือว่ามีความเร็วเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป รองรับการเล่นเกมทั้ง 2D และ 3D ที่อาจจะต้องปรับความละเอียดลงมาในระดับกลางๆ เพื่อให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Multi-Turbo 3.0 ที่จะช่วยจัดการทรัพยากรในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นหน่วยความจำ หรือหน่วยประมวลผลเพื่อนำมาใช้ในการเล่นเกมโดยเฉพาะ ซึ่งจะยิ่งช่วยให้การเล่นเกมลื่นไหลมากยิ่งขึ้น
จากการทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile พบว่าหน่วยประมวลผลระดับนี้ก็ยังสามารถเล่นได้โดยการปรับความละเอียดไปที่ระดับกลาง แม้ว่าภาพจะไม่ค่อยละเอียดแต่ก็ยังคงลื่นไหล ไม่สะดุด ด้วยสเป็คระดับนี้ กับการเล่นเกม 3D ได้ขนาดนี้เราถือว่าผ่านการทดสอบ
4 กล้องหลัง พร้อมระบบ AI อัฉริยะ
Vivo Y30 ยังมาพร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์ ซึ่งถือเป็นมาตรฐานกล้องที่มีมาให้ครบทุกระยะเทียบชั้นกับรุ่นใหญ่ในราคาหลักหมื่นบาท ทำให้การถ่ายภาพได้มุมมองที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร ถ่ายภาพได้คมชัดทั้งระยะใกล้ด้วยเลนส์ Macro และระยะปกติด้วยเลนส์หลัก ระยะไกลด้วยการซูมภาพแบบดิจิตอลได้ 2 เท่า และการถ่ายภาพมุมกว้างด้วยเลนส์ Wide Angle ที่สามารถถ่ายภาพมุมกว้างได้เหมือนกับการถ่ายด้วยกล้องระดับมืออาชีพ สำหรับรายละเอียดเลนส์ทั้ง 4 และกล้องหน้าทั้งหมดมีดังนี้
- เลนส์ Wide ระยะปกติความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/2.2
- เลนส์ Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2
- เลนส์ Super Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
- เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.05
สำหรับโหมดการถ่ายภาพด้วยกล้องหลังก็ยังคงมีให้ใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพพาโนรามา, ถ่ายภาพบุคคล, ถ่าย Live Photo, ถ่าย Time-lapse แต่โหมดที่เราถ่ายกันบ่อยที่สุดเห็นจะเป็นโหมดถ่ายภาพคน หรือถ่ายภาพ Bokeh หน้าชัดหลังละลาย เมื่อถ่ายภาพในโหมดนี้เสร็จเรียบร้อย เราสามารถนำภาพมาเลือกปรับ f หรือรูรับแสงภายหลังได้ตามต้องการ และในการถ่ายภาพโหมดใบหน้าสวยก็มีให้เลือกปรับผิวนวล, โทนสีผิว, ปรับขาว, หน้าบาง, ปรับรูปหน้า, กราม, ตาโต ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีโหมดท่าทางที่จะมีภาพตัวอย่างให้เราเลือกโพสตามได้ มีให้เลือกเป็นร้อยแบบ ส่วนการถ่ายภาพวิดีโอสามารถเลือกถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 1080p
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ใช้งานได้ทั้งวัน แบ่งปันชาร์จแบตให้เพื่อนได้ด้วย
จุดเด่นของ Vivo Y Series จะเน้นเรื่องของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ใช้งานได้ทั้งวันมาตั้งแต่รุ่นก่อนๆ แล้ว และในรุ่นนี้ก็มีแบตเตอรี่มาให้มากถึง 5,000 mAh สามารถใช้งานแบบปกติทั่วไปได้ยาวๆ 2 วันได้แบบสบายๆ แต่หากใช้เล่นเกมนานๆ ระยะเวลาก็อาจจะลดลงไปตามการใช้งาน ในกล่องยังมาพร้อมกับอแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่กำลังไฟ 10 วัตต์ อาจจะใช้เวลาชาร์จนานหน่อย แต่ถ้าชาร์จทิ้งไว้ก่อนนอนรับรองว่าเต็มพร้อมใช้งานได้ทั้งวันอย่างแน่นอน นอกจากนี้แล้วเรายังแชร์แบตเตอรี่ผ่านสาย USB ให้กับอุปกรณ์อื่นๆ อย่างเช่นชุดหูฟังบลูทูธ, สมาร์ทวอช หรือแม้กระทั่งชาร์จแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นได้ ซึ่งฟีเจอร์นี้ปกติแล้วจะมีเฉพาะในรุ่นที่มีราคาค่อนข้างสูง แต่สำหรับการชาร์จไฟให้อุปกรณ์อื่นอาจจะต้องอาศัยตัวแปลงพอร์ตเพื่อที่จะแปลงจาก USB-A เป็น USB-C หรือ Micro USB และสามารถจ่ายไฟได้ที่ 1 แอมป์ หรือ 5 วัตต์เท่านั้น
บทสรุป Vivo Y30 จากความคิดเห็นของ What Phone
จากการทดสอบใช้งานมาสักระยะหนึ่งพบว่าตัวเครื่องมีขนาดเหมาะมือมาก ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ดีไซน์ตัวเครื่องดูสวยงามด้วยสี Dazzle Blue ยิ่งอยู่ในสถานที่สว่างๆ หรือออกแดดจะยิ่งสะท้อนแสงสวยงามมาก กล้องถ่ายภาพคมชัดทั้งหน้าและหลัง มีเลนส์ให้เลือกถ่ายหลายระยะ ให้ภาพคมชัด สีสันสดใส หน่วยประมวลผลแม้ว่าจะไม่ได้แรงเท่ากับรุ่นแพงๆ แต่การใช้งานโดยทั่วไปแทบจะไม่แตกต่างกันเลย จะต่างกันตรงที่การเล่นเกม 3D หนักๆ เท่านั้น ซึ่งหากซื้อไปใช้งานปกติแบบไม่เล่นเกมถือว่าเหมาะมากกับราคา 6,999 บาท กับราคานี้บอกได้เลยว่าคุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอน
สรุปสเป็ค รีวิว Vivo Y30
- หน้าจอแบบUltra O Screen ขนาด 6.47 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1560 x 720 พิกเซล)
- ระบบสแกนลายนิ้วมือด้านหลังตัวเครื่อง
- หน่วยประมวล MediaTek MT6757 Octa-core ความเร็ว 2.3 GHz
- หน่วยความจำ RAM 4 GB, ROM 128 GB
- เพิ่มหน่วยความจำแบบ microSD ได้
- กล้องหลัง 4 เลนส์
- เลนส์ Wide ความละเอียด 13 MP f/2.2
- เลนส์ Wide Angle ความละเอียด 8 MP f/2.2
- เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 MP f/2.4
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2 MP f/2.4
- กล้องหน้าความละเอียด 8 MP
- ถ่ายวิดีโอความละเอียด Full HD
- ระบบชาร์จไฟ กำลังไฟ 10 วัตต์
- แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh
- Funtouch OS 10 บนระบบปฏิบัติการ Android 10
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพจากกล้องหลัง