เรียกเสียงฮือฮาได้อีกครั้งกับการเปิดตัวพร้อมราคาของ Xiaomi 13T Series ที่มาพร้อมกัน 2 รุ่น โดยในรุ่น Xiaomi 13T ราคาเปิดตัวเริ่มต้นเพียง 15,990 บาท และ Xiaomi 13T Pro เปิดตัวเริ่มต้นในราคา 19,990 บาทเท่านั้น แถมยังได้ส่วนลดจากโอเปอร์เรเตอร์เมื่อเปิดแพ็คสัญญาใช้งานเริ่มต้นเพียง 9,690 บาทเท่านั้นก็ได้สมาร์ทโฟนกล้อง Leica แล้ว ส่วนประสิทธิภาพการใช้งานเป็นอย่างไร เรามาแกะกล่องดูกันเลยครับ
แกะกล่องลองเล่น Xiaomi 13T
กล่องของ Xiami 13T เป็นสีขาวสะอาดตา มีเพียงชื่อรุ่นที่อยู่กลางกล่องพร้อมโลโก้ Leica อยู่ที่ด้านหน้ากล่อง เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบกับพลาสติกป้องกันเครื่องที่สกรีนจุดเด่นต่างๆ ของเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นกล้องระดับมืออาชีพของจาก Leica, ระบบชาร์จเร็ว 67 วัตต์, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000 mAh, กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68, จอแสดงผล CrystalRes AMOLED 144 Hz และหน่วยประมวลผล 4 นาโนเมตรระดับ Flagship เมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้
กล่องของ Xiaomi 13T
- Xiaomi 13T สี Alpine Blue
- สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C
- เคสซิลิโคนแบบใส
- ฟิล์มกันรอย (ติดจากโรงงาน)
- คู่มือการใช้งาน
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
แกะกล่องลองเล่น Xiaomi 13T Pro
- Xiaomi 13T Pro สี Meadow Green
- สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C
- เคสซิลิโคนแบบใส
- ฟิล์มกันรอย (ติดจากโรงงาน)
- คู่มือการใช้งาน
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 รุ่นนั้นไม่ได้มีอแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่มาให้ ซึ่งก็เป็นไปตามเทรนด์กระแสโลกที่ทาง Xiaomi ต้องการที่จะช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ แต่ในช่วงโปรโมชั่นจองเครื่องทั้ง 2 รุ่นจะมีอแดปเตอร์ 120 วัตต์ และ 67 วัตต์แถมมาให้นอกกล่องตามรุ่นที่รองรับ สามารถนำมาใช้กับทั้ง 2 รุ่นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
Xiaomi 13T Series มี 3 สี Meadow Green และ Black ใช้กระจก ส่วนสี Alpine Blue ฝาหลังวัสดุหนังวีแกน
Xiaomi 13T Series ทั้งสองรุ่นนั้นมีขนาดเท่ากันเป๊ะๆ อยู่ที่ 162.2 x 75.7 x 8.49 มม. เท่ากัน แต่มีน้ำหนักต่างกันเล็กน้อย สำหรับ Xiaomi 13T ที่เราได้มาทดสอบเป็นสี Alpine Blue ซึ่งเป็นสีพิเศษที่จะใช้วัสดุเป็นหนัง BioComfort Vegan Leather ซึ่งเป็นวัสดุที่เคลือบสารหลายชั้น ให้ความรู้สึกนุ่มสบายเมื่อสัมผัส อีกทั้งยังเคลือบสารต่างๆ ซึ่งมีคุณสมบัติกันน้ำอีกด้วย
ส่วน Xiaomi 13T Pro สีที่เรานำมาทดสอบเป็นสี Meadow Green เป็นสีเขียวอ่อน โดยฝาหลังของสีนี้ใช้วัสดุเป็นกระจกที่ดูเงางาม รวมไปถึงสีดำด้วย
จอแสดงผลของทั้งสองรุ่นเป็นจอภาพแบบ AMOLED DotDisplay ขนาดใหญ่ 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2712 x 1220 พิกเซล ให้สีสันสวยงามกว่าจอ IPS ของรุ่นอื่นๆ มีอัตรารีเฟรชเรทที่ 144 Hz และอัตรา Touch Sampling rate สูงถึง 480 Hz ให้ค่าความสว่างสูงสุดถึง 2600 nits เหนือจอแสดงผลนอกจากจะกล้องหน้าแบบเจาะรูแล้ว ยังมีลำโพงสนทนา เซ็นเซอร์ต่างที่ซ่อนไว้อยู่บริเวณนี้โดยที่ไม่เกะกะสายตา และหากอยู่ในโหมดสแตนด์บายก็มีโหมด Always on Display ที่จะแสดงผลตลอดเวลาขณะปิดหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกา หรือการแจ้งเตือนต่างๆ จึงไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูบ่อยๆ
ที่ด้านหลังของทั้ง 2 รุ่นหากเป็นสีเดียวกันจะแยกกันไม่ออกเลยทีเดียว บอกได้เลยว่าเหมือนกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นขนาดของตัวเครื่อง โมดูกล้องที่มีดีไซน์เหมือนกัน มี 3 เลนส์เหมือนกัน ไม่มีอะไรบ่งบอกว่าเป็นรุ่นธรรมดา หรือรุ่น Pro เลย
ที่ด้านข้างซ้ายดีไซน์แบบโล่งๆ ไม่มีปุ่มดกดใดๆ อยู่ด้านนี้ ปุ่มกดทั้งหมดจะไปอยู่ที่ด้านข้างขวาแทน มีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิดปิดเครื่อง
ด้านบนของตัวเครื่องทั้งสองดีไซน์มาเหมือนกัน มีช่องไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน ถัดมาเป็นพอร์ตอินฟราเรดสำหรับสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ร่วมกับแอพฯ Mi Remote ถัดมาเป็นขณะสนทนา มีลำโพงแยกซ้ายขวาเมื่อทำงานร่วมกับลำโพงที่อยู่ด้านล่างเครื่อง
ส่วนที่ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องใส่ถาดซิมการ์ด 2 ช่อง เป็นแบบถาดประกบบน และล่าง ถัดมาเป็นช่องไมโครโฟนรับเสียงสนทนา, ช่องเสียบสายชาร์จแบบ USB-C, และลำโพงของตัวเครื่อง
เทคโนโลยีการถ่ายภาพจาก Leica จากผู้ผลิตกล้องและเลนส์ระดับมืออาชีพ
Xiaomi 13T Series มาพร้อมความโดดเด่นในการถ่ายภาพด้วย Leica Authentic Look และ Leica Vibrant Look ซึ่งเป็นเลนส์ Leica แบบดั้งเดิมสองสไตล์คือ ปรับภาพตามสภาพแสงอัตโนมัติ และการถ่ายภาพในสิ่งแวดล้อมต่างๆ ซึ่งเป็น คุณลักษณะที่โดดเด่นของ Leica และยังมีตัวเลือกลายน้ำ Leica ใหม่ 4 ตัวเลือก เพื่อให้ผู้ใช้งานมีทางเลือกในการจัดองค์ประกอบภาพและขนาดเฟรมได้มากยิ่งขึ้น
และยังมีฟังก์ชันสไตล์การถ่ายภาพแบบกำหนดเองได้ในโหมด Pro ชุดเลนส์ที่ออกแบบร่วมกับ Leica ไม่ว่าจะเป็นกล้องเลนส์ไวด์ 50 ล้านพิกเซล ความยาวโฟกัสเทียบเท่า 24 มม. ประกอบไปด้วยชิ้นเลนส์ Aspherical 7 ชิ้น ตัวเลนส์เคลือบ ALD ช่วยลดแสงสะท้อน และแสงแฟลร์เมื่อถ่ายย้อนแสง เลนส์ Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ความยาวโฟกัสเทียบเท่า 50 มม. และกล้องเลนส์ Ultra wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลความยาวโฟกัสเทียบเท่า 15 มม. สำหรับสเป็คกล้องของทั้ง 2 รุ่นมีดังนี้
สเป็คกล้อง Xiaomi 13T และ Xiaomi 13T Pro
- กล้องหลัง 3 เลนส์
- กล้อง Leica ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล 7 ชิ้นเลนส์ ระบบกันสั่น OIS รูรับแสงกว้าง f/1.9 เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.28 นิ้ว
- กล้อง Leica Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล 5 ชิ้นเลนส์ รูรับแสงกว้าง f/1.9 เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.28 นิ้ว, Digital Zoom 20x
- กล้องเ Leica Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล 5 ชิ้นเลนส์ รูรับแสงกว้าง f/2.2
- กล้องหน้า
- กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล 5 ชิ้นเลนส์ รูรับแสงกว้าง f/2.2
ในการถ่ายภาพ Portrait ก็จะมีระยะ และรูปแบบการถ่ายภาพให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น Doucumentary ระยะ 35 มม., Swirly bokey ระยะ 50 มม. และแบบ Soft focus ที่ระยะ 90 มม. สามารถเลือกรูปแบบ และระยะได้ตามต้องการ
สำหรับจุดต่างของทั้ง 2 รุ่นเห็นจะเป็นเรื่องของการถ่ายวิดีโอ โดยในรุ่น Pro สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 8K เฟรมเรท 24 เฟรมต่อวินาที ส่วนในรุ่นธรรมดาจะถ่ายได้ที่ความละเอียด 4K เฟรมเรท 60 เฟรมต่อวินาที จะเห็นได้ว่าในรุ่น Pro นั้นเหมาะกับการถ่ายวิดีโอแบบมืออาชีพมากกว่า ด้วยความละเอียดที่สูงกว่า
ตัวอย่างภาพถ่ายเพิ่มเติมเลื่อนลงไปดูได้ที่ท้ายรีวิว
แรงระดับ Pro ด้วยหน่วยประมวลผล Dimensity 9200+ กับคะแนน Antutu ทะลุ 1.4 ล้าน
สิ่งหนึ่งที่ต่างกันของทั้ง 2 รุ่นคือหน่วยประมวลผล โดยในรุ่น 13T Pro ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9200+ Octa-core ความเร็วสูงสุด 3.35 GHz พ่วงด้วยชิปประมวลผลภาพ 3D Immortalis-G715 ส่วนรุ่น 13T ใช้ชิปประมวลผลที่รองลงมาอย่าง MediaTek Dimensity 8200 Ultra ความเร็วสูงสุด 3.1 GHz ชิปประมวลผลภาพ 3D Mali-G610 ทั้ง 2 รุ่นใช้ระบบปฏิบัติการ MIUI 14 บนพื้นฐาน Android เวอร์ชั่น 13
สำหรับหน่วยความจำของทั้ง 2 รุ่นที่มีวางจำหน่ายในบ้านเรามีดังนี้
Xiaomi 13T Pro
- รุ่นหน่วยความจำ RAM 12 GB, ROM 512 GB
- รุ่นหน่วยความจำ RAM 16 GB, ROM 1 TB
Xiaomi 13T
- รุ่นหน่วยความจำ RAM 12 GB, ROM 256 GB
การทดสอบประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลเราได้ทำการทดสอบด้วยแอปฯ Antutu เวอร์ชั่น 10.0.10 ซึ่งเป็นแอปฯ ที่เราใช้ทดสอบเป็นประจำ ผลการทดสอบของทั้ง 2 รุ่นต่างกันพอสมควร โดยในรุ่น 13T Pro สามารถทำคะแนนเทียบชั้นสมาร์ทโฟนระดับ Flagship ได้เลยที่ 1,451,159 คะแนน เลยทีเดียว ส่วนในรุ่น 13T ทำคะแนนได้ 891,757 คะแนน ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี สามารถใช้งานได้ครบทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป หรือการเล่นเกมที่มีกราฟฟิคหนักๆ ก็รองรับได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
Xiaomi 13T Pro ชาร์จเร็ว HyperCharge 120W และ Xiaomi 13T รองรับ Turbo Charge 67W
แบตเตอรี่ของทั้ง 2 รุ่นมีขนาดเท่ากันที่ 5000 mAh ทำให้การใช้งานต่างๆ ทำได้อย่างยาวนาน ส่วนการชาร์จแบตเตอรี่นั้นในรุ่น 13T Pro จะรองรับ HyperCharge ถึง 120 วัตต์ ส่วน 13T รองรับ TurboCharge 67 วัตต์ แต่ทั้ง 2 รุ่นจะไม่มีอแดปเตอร์มาให้ในกล่อง ซึ่งเป็นผลมาจากที่ Xiaomi ต้องการที่จะลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นไปตามกระแสโลก แต่ Xiaomi ไทยยังแถมอแดปเตอร์มาให้นอกกล่องในช่วง Pre-order นี้
สำหรับอแดปเตอร์ที่เรานำมาทดสอบได้มาจาก Redmi Note 12 Pro+ ที่เราเคยรีวิวก่อนหน้านี้ เมื่อนำมาชาร์จกับ 13T Pro ก็สามารถชาร์จได้เร็ว 120 วัตต์ ตามสเป็คชาร์จเต็มได้ในเเวลา 24 นาที และนำไปชาร์จกับรุ่น 13T ก็สามารถชาร์จได้ที่ 67 วัตต์ ตามสเป็คชาร์จเต็มได้ในเวลา 42 นาที
บทสรุป Xiaomi 13T Series ในความเห็นของ What Phone
ถึงแม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนกัน กล้องตัวเดียวกัน แต่ภายในนั้นก็มีความต่างอยู่เล็กน้อย ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการประมวลผลใน Xiaomi 13T Pro นั้นแรงเทียบเท่าสมาร์ทโฟน Flagship เลยทีเดียว ส่วน Xiami 13T นั้นก็มีความแรงที่ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่ติดขัด มีความเร็วในการชาร์จที่ต่างกัน และหน่วยความจำที่ไม่เท่ากัน สามารถเลือกใช้งานได้ตามการใช้งาน หากต้องการสมาร์ทโฟนที่เร็วแรง ถ่ายภาพด้วยเทคโนโลยีจาก Leica ก็สามารถเลือกรุ่น Pro ได้เลย แต่หากต้องการสมาร์ทโฟนเร็วแรง ราคาประหยัด พร้อมเทคโนโลยีการถ่ายภาพจาก Leica ก็เลือก Xiaomi 13T ได้เลย ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าที่สุดในเวลานี้
สรุปสเป็ค Xiaomi 13T Pro
- ขนาด 162.2 x 75.7 x 8.49 มม. น้ำหนัก 206 กรัม
- รองรับเครือข่าย 4G LTE, 5G พร้อมช่องใส่ซิมการ์ด 2 ใบ
- หน้าจอ AMOLED FHD+ ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1220 x 2712 พิกเซล
- รองรับ Pro HDR display, Dolby Vision®, HDR10+, HDR10
- Refresh rate 144 Hz, Touch sampling 480 Hz
- หน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 9200+ Octa-core ความเร็ว 3.35 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพ 3D Immortalis-G715
- ระบบปฏิบัติการ Android 13, MIUI 14
- หน่วยความจำ
- RAM 12 GB LPDDR5X, ROM 512 GB UFS 4.0
- RAM 16 GB LPDDR5X, ROM 1 TB UFS 4.0
- ระบบปลดล็อคด้วยสแกนลายนิ้วบนหน้าจอ และปลดล็อคด้วยใบหน้า
- กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้องหลัง 3 เลนส์
- กล้อง Leica ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล 7 ชิ้นเลนส์ ระบบกันสั่น OIS รูรับแสงกว้าง f/1.9 เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.28 นิ้ว
- กล้อง Leica Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล 5 ชิ้นเลนส์ รูรับแสงกว้าง f/1.9 เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.28 นิ้ว, Digital Zoom 20x
- กล้องเ Leica Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล 5 ชิ้นเลนส์ รูรับแสงกว้าง f/2.2
- ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 8K 23 เฟรมต่อวินาที, 4K 60 เฟรมต่อวินาที
- แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จเร็วด้วยอแดปเตอร์ HyperCharge 120 วัตต์
- ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ รองรับ Dolby Atmos
- การเชื่อมต่อ WiFi 6 ความถี่ 2.4 GHz, 5 GHz 2×2 MIMO, Bluetooth 5.4
- มีให้เลือก 3 สี Black, Meadown Green, Alpine Blue
- ราคาเปิดตัว
- หน่วยความจำ 12 + 512 GB ราคา 19,990 บาท
- หน่วยความจำ 16 + 1 TB ราคา 23,990 บาท
สรุปสเป็ค Xiaomi 13T
- ขนาด 162.2 x 75.7 x 8.49 มม. น้ำหนัก 197 กรัม
- รองรับเครือข่าย 4G LTE, 5G พร้อมช่องใส่ซิมการ์ด 2 ใบ
- หน้าจอ AMOLED FHD+ ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1220 x 2712 พิกเซล
- รองรับ Pro HDR display, Dolby Vision®, HDR10+, HDR10
- Refresh rate 144 Hz, Touch sampling 480 Hz
- หน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 8200 Ultra Octa-core ความเร็ว 3.1 GHz
- หน่วยประมวลผลภาพ 3D Mali-G610
- ระบบปฏิบัติการ Android 13, MIUI 14
- หน่วยความจำ RAM 12 GB LPDDR5, ROM 256 GB UFS 3.1
- ระบบปลดล็อคด้วยสแกนลายนิ้วบนหน้าจอ และปลดล็อคด้วยใบหน้า
- กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้องหลัง 3 เลนส์
- กล้อง Leica ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล 7 ชิ้นเลนส์ ระบบกันสั่น OIS รูรับแสงกว้าง f/1.9 เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.28 นิ้ว
- กล้อง Leica Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล 5 ชิ้นเลนส์ รูรับแสงกว้าง f/1.9 เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.28 นิ้ว, Digital Zoom 20x
- กล้องเ Leica Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล 5 ชิ้นเลนส์ รูรับแสงกว้าง f/2.2
- ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K 30 เฟรมต่อวินาที
- แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จเร็วด้วยอแดปเตอร์ TurboCharge 67 วัตต์
- ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ รองรับ Dolby Atmos
- การเชื่อมต่อ WiFi 6 ความถี่ 2.4 GHz, 5 GHz 2×2 MIMO, Bluetooth 5.4
- มีให้เลือก 3 สี Black, Meadown Green, Alpine Blue
- ราคาเปิดตัว 15,990 บาท
ตัวอย่างภาพจากกล้อง