เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว สิ่งที่มาพร้อมกับลมหนาวทุกๆ ปีนั่นก็คือฝุ่น PM 2.5 ที่เป็นอันทราบกันดีว่ามีอันตรายต่อร่างกาย แต่สิ่งหนึ่งที่จะช่วยเราได้นั่นก็คือเครื่องกรองอากาศอย่าง Xiaomi Smart Air Purifier 4 Pro ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นที่โปรกว่าเดิม มีระบบปล่อยไอออนประจุลบ และสามารถถอดตระแกรงด้านบนออกมาทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น มาแกะกล่องดูกันเลยว่าการใช้งานของรุ่นนี้เป็นอย่างไร
แกะกล่อง Xiaomi Smart Air Purifier 4 Pro มีอะไรให้บ้าง
ด้วยกล้องขนาดค่อนข้างใหญ่กว่ารุ่นธรรมดา หากไปซื้อที่ร้านอาจจะต้องอาศัยแรงผู้ชายช่วยยกขึ้นรถ แต่เอาจริงๆ ผู้หญิงก็พอจะยกคนเดียวได้ เพราะไม่ได้มีน้ำหนักมากนัก เพียงแต่ขนาดของกล่องจะใหญ่ตามเครื่องไปนิดนึง
สำหรับหน้ากล่อง และหลังกล่องก็จะมีจุดเด่นต่างๆ บ่งบอกอย่างเช่นการรองรับการสั่งงานผ่าน OK Google, Alexa, อัตราการกรองอากาศบริสุทธิ์ได้ 500 ลบ.ม./ชม., สามารถกรองกลิ่น ควันบุหรี่ ขนสัตว์, มีระบบการสร้างไอออนประจุลบ, การควบคุมผ่านแอพฯ เป็นต้น และเมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้
- Xiaomi Smart Air Purifier4 Pro
- ไส้กรองอากาศ Xiaomi Air Purifier Filter HEPA (บรรจุอยู่ในเครื่อง)
- สายไฟยาว 1.5 เมตร
- คู่มือการใช้งาน
เครื่องฟอกอากาศดีไซน์เรียบง่าย เข้ากับทุกเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน
เป็นที่คุ้นตากันดีอยู่แล้วกับผลิตภัณฑ์จาก Xiaomi ที่จะมีดีไซน์ค่อนข้างเรียบ พร้อมกับใช้โทนสีขาวกับทุกผลิตภัณฑ์ ทำให้ตัวสินค้าดูพรีเมี่ยม เรียบหรู และมาถึงเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ก็ก็ยังคงมีดีไซน์ไม่ต่างจากรุ่นก่อน แต่ยังมีดีไซน์ที่ดูแล้วไม่ล้าสมัย สามารถวางไว้ได้ทุกมุมบ้าน หรือในอาคารสำนักงาน เข้ากันได้กับทุกเฟอร์นิเจอร์ซึ่งดูแล้วไม่ขัดสายตา และยังดูกลมกลืนไปกับเฟอร์นิเจอรฺ์ของบ้านด้วย
มาดูที่ด้านหน้าจะมีหน้าจอแสดงผลแบบ OLED บอกสถานะฝุ่นในอากาศ, อุณหภูมิ, ความชื้น, และบอกสถานะการทำงานต่างๆ ของเครื่อง ถัดลงมาเป็นแถบไฟสีต่างๆ บอกสถานะของฝุ่นในขณะนั้น ซึ่งโดยปกติหากปริมาณฝุ่นในอากาศมีน้อยจะมีไฟเป็นสีเขียว หากมีฝุ่นมากก็จะเป็นสีส้ม และสีแดงตามลำดับ ถัดลงมาเป็นปุ่มแบบสัมผัส ปุ่มแรกเป็นปุ่มเปิดปิดเครื่อง ปุ่มที่ 2 ปุ่มสลับโหมดการทำงาน ปรับเพิ่มความแรงของพัดลม และหากกดค้างไว้ 7 วินาทีจะเป็นการล็อคปุ่มทั้งหมด
ที่ด้านหลังมีเซ็นเซอร์ตรวจต่างๆ มากมาย ไล่จากด้านบนเป็นปุ่มปรับความสว่างของหน้าจอแสดงผลด้านหน้า หรือเลือกปิดหน้าจอก็ได้ หรือหากกดค้างไว้ 7 วินาทีเป็นการีเซ็ตการเชื่อมต่อ WiFi ถัดลงมามีเซ็นเซอร์วัดอนุภาคของฝุ่นด้วยเลเซอร์, เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ, ความชื้น
และที่ด้านหลังก็ยังมีฝาครอบชุดกรองอากาศ สามารถถอดเปลี่ยนได้ง่ายๆ เพียงแค่ดึงแผ่นฝาครอบด้านหลัง จากนั้นก็ดึงแถบผ้าของชุดกรองอากาศออกมา แล้วใส่ชุดกรองอากาศชุดใหม่เข้าไป ปิดฝาให้เรียบร้อย เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย
ชุดกรองอากาศของรุ่นนี้เป็นสีเทา มีคุณสมบัติกรองฝุ่นที่มีอนุภาคขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอน และสิ่งสกปรกต่างๆ ที่จะก่อให้เกิดภูมิแพ้ และที่ใต้ชุดกรองอากาศจะมี RFID ที่จะใช้สื่อสารกับเครื่องเพื่อบ่งบอกว่าเป็นชุดกรองอากาศของแท้ ซึ่งหากเป็นของเทียมอาจจะกรองอากาศได้ไม่มีประสิทธิภาพเท่าของแท้
ที่ด้านบนเป็นช่องปล่อยลมบริสุทธิ์ออกมา มีตะแกรงป้องกันสิ่งของตกหล่นลงไป ซึ่งในรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกที่สามารถถอดออกมาเช็ดล้างทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่กดเปิดฝาครอบ แล้วใช้ไขควงขันน็อตออกมา ตรงนี้ให้ระวังนิดนึง เพราะน็อตอาจจะหล่นลงไปในช่องพัดลมได้ และเมื่อทำความสะอาดเสร็จก็ปิดแล้วใช้ไขควงขันน็อตให้แน่น เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ช่องเสียบสายไฟอยู่ที่ข้างหลังส่วนล่าง ซึ่งเป็นจุดที่บังสายตาไม่ให้เห็นสายไฟได้เป็นอย่างดี
กรองอากาศบริสุทธิ์ระดับโปร พร้อมปล่อยประจุไอออนลบ ประสิทธิภาพการกรองสูงถึง 99.97%
Xiaomi Smart Air Purifier4 Pro มีความเร็วในการกรองอากาศด้วยความเร็วถึง 500 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง และมีประสิทธิภาพในการกรองสูงถึง 99.97% ช่วยกรอง และขจัดสิ่งสกปรกที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ไม่ว่าจะเป็นขนสัตว์ ฝุ่น เกสรดอกไม้ ควันบุหรี่ รวมทั้งสามารถกรองสิ่งแปลกปลอมอนุภาคละเอียดที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอนอีกด้วย สามารถกรองสิ่งสกปรกภายในห้องขนาด 165 ตารางเมตร โดยใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ไส้กรองอากาศ HEPA มีการกรองถึง 3 ชั้น มีส่วนผสมของคาร์บอน ช่วยกรองกลิ่นไม่พึงประสงค์ และยังมีถ่านกัมมนต์ช่วยดูดซับก๊าซที่เป็นอันตราย ทำงานด้วยความเงียบเพียง 33.7 เดซิเบลในโหมด Sleep มีระบบปรับความเร็วพัดลมอัตโนมัติเมื่อมีฝุ่นมาก
ความพิเศษของรุ่นนี้คือมีระบบการปล่อยประจุไอออนลบ ทำให้อากาศสะอาดสดชื่นเหมือนกับมีป่าธรรมชาติ หรือน้ำตกอยู่ใกล้ๆ ที่นอกจากจะช่วยทำความสะอาดอากาศให้บริสุทธิ์แล้ว ยังช่วยยกระดับความสุขทางอารมณ์อีกด้วย
สำหรับการสั่งงานก็ทำได้อย่างง่ายดายด้วยหน้าจอแสดงผลที่อยู่ด้านหน้า บอกระดับฝุ่น PM2.5 แบบเรียลไทม์ด้วยเซ็นเซอร์วัดอากาศที่แม่นยำด้วยแสงเลเซอร์ มีบอกอุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ และบอกอายุของไส้กรองเมื่อเปิดเครื่องครั้งแรก ตามสเป็คแล้วไส้กรองสามารถใช้งานได้ยาวนาน 3-6 เดือน หรือ 4,000 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับพื้นที่ว่ามีฝุ่นมากแค่ไหน ระบบจะคำนวนอายุการใช้งานของไส้กรอง และแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนบนหน้าจอ
สั่งเปิดเครื่อง ดูสถานะการทำงานได้บนหน้าจอสมาร์ทโฟนได้จากทุกมุมโลก
จุดเด่นของเครื่องกรองอากาศจาก Xiaomi คือการเชื่อมต่อกับ WiFi ที่บ้าน พร้อมกับการสั่งเปิดปิดการใช้งาน และดูสถานะการทำงานผ่านแอพฯ Mi Home ได้ทุกที่บนโลก รองรับทั้ง Android และ iOS จะสั่งเปิดเครื่องฟอกอากาศให้กับสมาชิกภายในบ้าน หรือสั่งเปิดเครื่องฟอกอากาศให้กับสัตว์เลี้ยงตัวโปรดก็ได้เช่นกัน
สำหรับการใช้งานครั้งแรกให้เปิดเครื่องฟอกอากาศ แล้วดาวน์โหลดแอพฯ Mi Home หรือ Log in ให้เรียบร้อย แล้วทำการเพิ่มอุปกรณ์ เมื่อพบอุปกรณ์แล้วให้ทำการเชื่อมต่อ WiFi จากนั้นรอสักครู่ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เราจะเห็นอุปกรณ์ใหม่อยู่บนหน้าจอ Dashboard รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่เราได้เพิ่มไปก่อนหน้านี้ โดยในการใช้งานครั้งแรกแนะนำให้เช็ค และอัพเดท Firmware เครื่องฟอกอากาศ เพื่อปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เมนูการสั่งงานในแอพฯ Mi Home ก็สามารถตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น
- การเปิด/ปิดเครื่องฟอกอากาศ
- การปรับแรงลม 3 ระดับ, ปรับ Auto, Sleep, Manual
- เปิดระบบปล่อยประจุลบไอออน (Negative Ion)
- ตั้งเวลาเปิดปิดเครื่องอัตโนมัติ
- เปิดระบบล็อคปุ่มกด (Child lock)
- เปิดปิดเสียงปุ่มกดบนเครื่องฟอกอากาศ
- ตั้งการทำงานอัตโนมัติแบบ Smart scenes
นอกจากนี้ในเมนูการตั้งค่ายังเลือกปรับเปลี่ยนการแสดงชื่อของเครื่องฟอกอากาศ, ตั้งค่า Automation และอัพเดท Firmware ใหม่ให้กับเครื่องได้ด้วย
สรุปการใช้งาน Xiaomi Smart Air Purifier 4 Pro จากความเห็นของ What Phone
จากการใช้งานมาสักระยะมีหลายสิ่งที่เราประทับใจ นั่นก็คือดีไซน์แบบมินิมอลที่เข้ากันได้กับทุกเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน ไม่ว่าจะวางจุดไหนก็ไม่เป็นสุดสังเกตให้รกสายตา ในเรื่องของการฟอกอากาศก็เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าประสิทธิภาพการกรองอากาศของ Xiaomi เป็นอย่างไร มาถึงรุ่นนี้ก็ยังทำได้ดีเช่นเคย แต่เพิ่มเติมมาในเรื่องของการบำรุงรักษาที่สามารถถอดตะแกรงด้านบนออกมาทำความสะอาดได้ มีระบบปล่อยประจุไอออนลบเพิ่มเข้ามา ถามว่าดีขึ้นไหม ส่วนตัวยังไม่รู้สึกว่าดีขึ้นจนสังเกตได้ แต่การปล่อยประจุลบไอออนนี้น่าจะมีผลต่อสุขภาพระยะยาว ซึ่งก็ดีกว่าไม่มี สำหรับราคาในรุ่น Pro นี้ เปิดตัวที่ราคา 8,490 บาท อาจจะดูแพงไปหน่อย แต่สามารถใช้กับห้องขนาดใหญ่ได้ และมีฟังก์ชั่นต่างๆ เพิ่มเข้ามาพอสมควร สำหรับราคานี้ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อสุขภาพของตัวเอง และเพื่อสุขภาพของคนในครอบครัวในระยะยาวด้วยครับ
สเป็คของ Xiaomi Smart Air Purifier4 Pro
- ขนาด 275 × 275 × 680 มม.
- น้ำหนัก 6.8 กก.
- หน้าจอแสดงผล OLED พร้อมปุ่มแบบสัมผัส
- มีเซ็นเซอร์ตรวจวัดระดับฝุ่น, อุณหภูมิ และความชื้นสัมพันธ์
- เหมาะกับห้องขนาด 35-60 ตารางเมตร
- มีระบบปล่อยประจุไอออนลบ
- ไส้กรองอากาศ HEPA กรองฝุ่นขนาด PM2.5 กรองกลิ่น, ละอองเกสร, ขนสัตว์
- รองรับการสั่งงานด้วย Google Assistant และ Amazon Alexa
- ทำงานด้วยเสียงเบาเพียง 33.7 เดซิเบล (ในโหมด Sleep)
- ราคา 8,490 บาท