รีวิว ZTE Blade A31 Plus 2023 สมาร์ทโฟนราคาสุดประหยัดในราคาไม่ถึง 2 พันบาท แต่ได้สมาร์ทโฟนจอใหญ่ ดีไซน์สวย กล้องถ่ายภาพ AI หน่วยประมวลผลระดับ Octa-core ที่มาพร้อม 8 แกนประมวลผล มาดูกันว่าสมาร์ทโฟนราคา 1,999 บาทรุ่นนี้มีดีตรงไหน คุ้มค่าคุ้มราคาหรือไม่ มาแกะกล่องดูกันครับ
แกะกล่องลองเล่น ZTE Blade A31 Plus 2023
กล่องของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาในแนวสีส้มสดใส มีเลขรุ่น 31 บนหน้ากล่องอย่างชัดเจน พร้อมทั้งบอกจุดเด่นของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยความจำ 32GB, หน่วยประมวลผล Octa-core, กล้อง Auto focus รองรับเครือข่าย 4G ส่วนอุปกรณ์ในกล่องจะมีอะไรบ้างนั้น เรามาแกะกล่องดูกันเลย
- สมาร์ทโฟน ZTE Blade A31 Plus 2023
- แบตเตอรี่ Li-Ion ขนาด 3000 mAh
- สายชาร์จแบบ Micro USB
- อแดปเตอร์ กำลังไฟ 5 วัตต์
- เคสซิลิโคนแบบใส
- ฟิล์มกันรอย (ติดมาจากโรงงาน)
- เอกสารคู่มือการใช้งาน
สำหรับอุปกรณ์ในกล่องนั้นถือว่าให้มาอย่างครบครัน จะขาดก็เพียงแค่หูฟังเท่านั้น ส่วนอุปกรณ์ป้องกันตัวเครื่องก็มีฟิล์มกันรอยติดมาพร้อมจากโรงงาน มีเคสซิลิโคนแบบใสมาให้ ใส่แบต ใส่ซิม ใส่เคสใสก็พร้อมใช้งานทันที ไม่ต้องกลัวเครื่องเป็นรอย
ตัวเครื่องที่เราได้มาทดสอบเป็นสีเขียว มีดีไซน์แบบเรียบๆ ที่สวยงาม ฝาหลังมี Texture ให้ผิวสัมผัสที่ไม่ลื่นหลุดมือได้ง่ายๆ มีแถบผิวเรียบคาดยาวจากกล้องด้านบนลงล่าง พร้อมโลโก้ ZTE อยู่ที่ด้านท้ายของตัวเครื่อง สำหรับเคสใสที่มีมาให้ในกล่องเมื่อใส่เข้ากับตัวเครื่องก็ไม่ทำให้บดบังความสวยงามของตัวเครื่องด้วย
หน้าจอแสดงผลขนาด 6 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ เป็นจอภาพแบบ IPS LCD ที่ให้สีสันสวยงาม มองเห็นได้ชัดเจนในที่แจ้ง แถบด้านบนของตัวเครื่องมีกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ถัดมาเป็นช่องลำโพงสนทนา และยังมีไฟกระพริบสีขาวแจ้งเตือนเมื่อมีข้อความ หรือ Notification ต่างๆ รวมไปถึงการชาร์จแบตเตอรี่ด้วย
ฝาหลังของรุ่นนี้สามารถถอดออกเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ ส่วนกล้องดิจิตอลก็มีกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซลมาให้ 1 เลนส์ พร้อมไฟแฟลชแบบ LED และยังมาพร้อมระบบ AI ที่เข้ามาช่วยในการถ่ายภาพให้สวยงามมากยิ่งขึ้น
เมื่อเปิดฝาหลังออกมาจะพบกับช่องใส่แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ช่องใส่ซิมการ์ด 2 ช่อง และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ได้สูงสุด 128 GB และเมื่อใส่ซิมการ์ดเรียบร้อยแล้วก็ใส่แบตเตอรี่ ปิดฝาหลัง และสามารถเปิดเครื่องใช้งานได้ทันที ถือว่ามีเพียงไม่กี่รุ่นในท้องตลาดที่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้
ที่ด้านข้างซ้ายของตัวเครื่องมีช่องเสียบสายชาร์จแบบ Micro USB ส่วนที่ด้านข้างขวามีปุ่มปรับระดับเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่มเปิดปิดเครื่อง
ส่วนที่ด้านบนของตัวเครื่องมีข่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. ส่วนที่ด้านล่างมีเพียงช่องไมโครโฟนสำหรับสนทนา
Android 11 Go Edition พร้อมใช้งาน Google Mobile Service เต็มรูปแบบ
ด้วยระบบปฏิบัติการ Android 11 Go Edition ที่ใช้ทรัพยากรเครื่องน้อย เหมาะกับสมาร์ทโฟนในระดับเริ่มต้น ทำให้ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่อืด ไม่ค้าง และยังสามารถอัพเดทเป็นเวอร์ชั่นใหม่ๆ ได้โดยตรงจาก Google จะใช้งานเป็นเครื่องหลัก เครื่องสำรอง หรือซื้อให้ญาติผู้ใหญ่ที่ไม่ต้องการใช้งานอะไรมาก แต่อยากใช้งานแอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้เหมือนรุ่นอื่นๆ นอกจากนี้ยังเหมาะกับร้านค้าที่ต้องใช้งานสแกน QR Code รับเงินจากลูกค้าด้วย เพราะตัวเครื่องราคาเพียง 1,999 บาท เท่านั้น และตัวเครื่องก็ยังมีความแข็งแรงทนทาน ใช้งานได้อย่างสมบุกสมบัน
สำหรับสเป็คหน่วยประมวลผลของรุ่นนี้ก็ใช้ชิพเซ็ต Unisoc SC9863a แบบ Octa-core ความเร็ว 1.6 GHz มีหน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB และ ROM ขนาด 16 GB พร้อมช่องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ได้อีกสูงสุด 128 GB และนอกจากนี้ยังใช้ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 11 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นพิเศษคือ Go Edition รองรับการใช้งาน Google Mobile Service เต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Gmail, Google Maps, Google Drive ฯลฯ หรือจะดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นจาก Play Store ก็ใช้งานได้อย่างครบครัน
จากการทดสอบความเร็วของตัวเครื่องด้วยแอปฯ Antutu ที่เราใช้ทดสอบสมาร์ทโฟนเป็นมาตรฐานประจำแล้วสามารถทำได้ 96,542 คะแนน จากผลการทดสอบอาจจะยังไม่เหมาะกับการเล่นเกมภาพ 3D หนักๆ เหมาะกับการใช้งานพื้นฐานทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมที่มีภาพกราฟฟิคเบาๆ ได้
กล้องหน้า 5MP และกล้องหลัง 8MP พร้อมระบบ AI
กล้องหน้าของรุ่นนี้มีความละเอียดที่ 5 ล้านพิกเซล และกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมค่ารูรับแสงกว้างถึง f/2.4 พร้อมระบบ AI ที่จะช่วยให้การถ่ายภาพสวยขึ้นได้ มีโหมดการถ่ายภาพแบบพื้นฐานมาให้ ไม่ว่าจะเป็นโหมดอัตโนมัติ, โหมดพาโนรามา, โหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง, โหมดไทม์แลปส์, โหมดกลางคืน ส่วนการถ่ายวิดีโอก็สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียด FullHD 1080p
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง
บทสรุป รีวิว ZTE Blade A31 Plus 2023 จากความเห็นของ What Phone
สมาร์ทโฟนสุดคุ้มรุ่นนี้ถือว่าทำให้เราประหลาดใจกับการอัพเกรดสเป็คจากปีที่แล้ว มาในรุ่นนี้ของปี 2023 แต่กลับทำราคาได้ถูกลงไปอีก จาก 2,190 บาทในรุ่นก่อน และในรุ่นนี้ทำราคาได้ดีมากๆ เพียงแค่ 1,999 บาทเท่านั้น แต่ได้สเป็คที่น่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็นซีพียูแบบ Octa-core หน่วยความจำขนาดใหญ่ 32 GB หน้าจอขนาดใหญ่ 6 นิ้ว ใช้งานได้เต็มตา ดูหนัง ฟังเพลง เปิดวิทยุ FM ฟังได้เพลินๆ อีกทั้งยังสามารถใช้บริการต่างๆ พร้อมลงแอปฯ ใหม่ๆ จาก Google ได้อย่างครบถ้วน สำหรับเรทราคาไม่ถึง 2 พันบาทนี้ เรากล้าฟันธงได้เลยว่าไม่มีสมาร์ทโฟนรุ่นไหนในตลาดจะคุ้มค่ากว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
สรุปสเป็ค ZTE Blade A31 Plus 2023
- ขนาด 159.2 x 77.5 x 9.58 มม.
- รองรับเครือข่าย 3G, 4G LTE
- หน้าจอ IPS HD+ ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด 480 x 960 พิกเซล
- หน่วยประมวลผล Unisoc SC9863a Octa-core ความเร็ว 1.6 GHz, PowerVR Rogue GE8322 GPU
- ระบบปฏิบัติการ Android 11 Go Edition
- หน่วยความจำ RAM 2 GB, ROM 32 GB
- เพิ่มหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD สูงสุด 128 GB
- กล้องหลัง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.4
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.8
- แบตเตอรี่ 3000 mAh, อแดปเตอร์ 5 วัตต์
- รองรับวิทยุ FM ในตัว
- เชื่อมต่อ WiFi ความถี่ 2.4 GHz, Bluetooth 4.2
- ราคาเปิดตัว 1,999 บาท
