• Facebook
• X
• Line

หลังจากที่ได้ปล่อย Redmi Note 10 ไปแล้วเมื่อช่วงต้นปี ก็ถึงคราวปล่อยสมาร์ทโฟน Redmi Note 10 Series เพิ่มเติมอีก 2 รุ่น นั่นก็คือ Redmi Note 10S และ Redmi Note 10 5G โดยทั้งสองรุ่นมีจุดเด่นแตกต่างกันออกไปตามความต้องการของผู้ใช้ มาดู รีวิว กันว่าทั้งสองรุ่นมีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกันอย่างไร

แกะกล่อง รีวิว Redmi Note 10S

สำหรับกล่องของรุ่นนี้ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ มีเพียงรูปสมาร์ทโฟนรุ่นนี้อยู่ที่หน้ากล่อง และที่ด้านข้างก็มีชื่อรุ่นสกรีนบอกเท่านั้น และเมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้

• Redmi Note 10S สี Onyx Gray
• อแดปเตอร์ 33 วัตต์
• สายชาร์จแบบ USB-C
• เคสใสแบบซิลิโคน
• ฟิล์มกันรอยหน้าจอ (ติดมาจากโรงงาน)
• เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
• คู่มือการใช้งาน

ในกล่องก็มีอุปกรณ์ต่างๆ มาให้อย่างครบครัน ขาดก็แต่เพียงหูฟังเท่านั้น ซึ่งก็หาซื้อได้ไม่ยาก และราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิด โดยเฉพาะหูฟัง True Wireless ของ Xiaomi ก็มีราคาเพียงหลักร้อยเท่านั้น หรือจะซื้อแบบมีสายก็มีช่องเสียบ 3.5 มม. มาให้ที่ตัวเครื่องอยู่แล้ว นอกนั้นก็มีอุปกรณ์มาให้อย่างครบครันไม่ต้องซื้อเพิ่ม

จอแสดงผลขนาด 6.43 นิ้ว เป็นจอภาพแบบ Dot Display ความละเอียด FHD+ มีกล้องหน้าแบบเจาะรูอยู่ตรงกลาง ส่วนจอแสดงผลเป็นแบบ AMOLED ที่ให้สีสันสวยงาม สว่าง สดใส ซึ่งจอแสดผลของรุ่นนี้นอกจากจะให้สีสันสวยงามแล้ว ยังรองรับการแสดงผลแบบ Always On Display ที่สามารถเปิดหน้าจอแสดงผลนาฬิกา และการแจ้งเตือนต่างๆ ขนาดเล็ก มองเห็นได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องกดเปิดเครื่อง ส่วนการแสดงผล Refresh rate จะอยู่ที่ 60 Hz

เครื่องที่เราได้มาทดสอบเป็นสี Onyx Black สีเทาไล่เฉดสีเป็นสีเทาเข้ม เมื่อส่องกับแสงจะเห็นเป็นมิติเฉดสีเทาดำ สำหรับกล้องของรุ่นนี้มีมาให้ถึง 4 เลนส์ ประกอบไปด้วยเลนส์หลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล, เลนส์ Ultra-wide, เลนส์ Macro และเลนส์ Depth

ด้านข้างซ้ายมีช่องใส่ซิมการ์ดมาให้ 3 ช่อง สามารถใส่ซิมการ์ด 2 ใบ และการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ได้พร้อมกัน ส่วนที่ด้านข้างขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิดปิดเครื่องที่ทำหน้าที่เป็นปุ่มสแกนลายนิ้วมือไปด้วยในตัว

ที่ด้านบนของ Redmi Note 10S ไล่จากด้าซ้ายจะเห็นช่องไมโครโฟนเป็นรูเล็กๆ ติดๆ กันเป็นพอร์ตอินฟราเรดสำหรับสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ด้วยแอพฯ Mi Remote ถัดมาเป็นช่องลำโพงแบบสเตอริโอ โดยทำงานร่วมกับลำโพงอีก 1 ตัวด้านล่าง

ส่วนที่ด้านล่างมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. ถัดมาเป็นช่องไมโครโฟนรับเสียง, ช่องเสียบสาย USB-C และช่องลำโพงสปีกเกอร์แบบสเตอริโอ

แกะกล่อง รีวิว Redmi Note 10 5G

ดีไซน์ของกล่อง Redmi Note 10 5G รุ่นนี้ดูเหมือนกับ บางทีก็แยกกันไม่ออก ต้องดูที่ชื่อรุ่นด้านข้างกล่องที่มี 5G สกรีนอยู่ มาแกะกล่องดูข้างในกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

• Redmi Note 10 5G สี Graphite Gray
• อแดปเตอร์ชาร์จไฟ 22.5 วัตต์ (เครื่องรับได้สูงสุด 18 วัตต์)
• สายชาร์จแบบ USB-C
• เคสใสแบบซิลิโคน
• ฟิล์มกันรอยหน้าจอ (ติดมาจากโรงงาน)
• เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
• คู่มือการใช้งาน

หากใครใช้งานสมาร์ทโฟน 4G อยู่ และอยากสัมผัสประสบการณ์การเชื่อมต่อเครือข่าย 5G ต้องรุ่นนี้เลย เป็นสมาร์ทโฟน 5G ในราคาประหยัด เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพความเร็วในการเชื่อมต่อ หรือดาวน์โหลดข้อมูลต่างๆ ส่วนภายในกล่องก็ไม่มีหูฟังมาให้เช่นเคย นอกนั้นก็มีให้ครบทั้งฟิล์มกันรอย เคสซิลิโคน และอแดปเตอร์ชาร์จไฟ 22.5 วัตต์ แต่เครื่องรุ่นนี้สามารถรับได้สูงสุด 18 วัตต์เท่านั้น

จอแสดงผลของรุ่นนี้มีขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+ แสดงผลได้ถึง 90 Hz ที่มุมบนซ้ายมีกล้องหน้าแบบเจาะรู ไม่บดบังสายตาขณะใช้งาน ส่วนจอแสดงผลรุ่นนี้เป็นจอภาพแบบ IPS ให้สีสันที่สวยงามพอสมควร แต่หากเทียบกับ Redmi Note 10S แล้ว อาจจะยังสู้ความสดของสีไม่ได้ แต่รุ่นนี้จะได้การแสดงผลที่ 90 Hz มาแทน

ด้านหลังดีไซน์แบบเรียบๆ โดยสีของเครื่องที่เราได้มาทดสอบเป็นสี Graphite Gray ฝาหลังของรุ่นนี้เป็นแบบด้าน ไม่ติดรอยนิ้วมือง่ายๆ ส่วนกล้องของรุ่นนี้มีมาให้ 3 เลนส์ ประกอบไปด้วยเลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, เลนส์ Macro และเลนส์ Depth นอกจากนี้ยังมีสัญลักษณ์ 5G บ่งบอกการรองรับเครือข่าย 5G อยู่ที่แบรนด์ Redmi ด้วย

ด้านข้างซ้ายมีช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบ 2 ช่อง ต้องเลือกว่าจะใส่ SIM2 หรือใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD ส่วนที่ด้านข้างขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิดปิดเครื่อง พร้อมกับทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไปด้วยในตัว

ที่ด้านบนมีช่องไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน ติดกันเป็นพอร์ตอินฟราเรดสำหรับสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยใช้งานร่วมกับแอพฯ Mi Remote ถัดมาเป็นช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.

ส่วนด้านล่างก็มีช่องไมโครโฟนรับเสียงเป็นรูขนาดเล็ก ถัดมาเป็นช่องเสียบสายชาร์จแบบ USB-C และสุดท้ายกับช่องลำโพงสปีกเกอร์โฟน

เน้นบันเทิงเลือก Redmi Note 10S อยากสัมผัส 5G เลือก Redmi Note 10 5G 

เปิดตัวคราวนี้ Redmi Note 10 Series มีมาให้เลือกพร้อมกัน 2 รุ่น นั่นก็คือรุ่น 4G และรุ่น 5G โดยในรุ่น 5G นั้นสามารถใช้งานบนเครือข่าย 5G ในไทยได้ทันทีเมื่ออยู่ในพื้นที่ให้บริการ รองรับการใช้งาน 5G แบบ Dual SIM แต่หากไม่ได้อยู่ในพื้นที่ให้บริการเครือข่าย 5G หรือเน้นการใช้สมาร์ทโฟนเพื่อความบันเทิง ก็สามารถเลือก Redmi Note 10S ที่รองรับเครือข่าย 4G ก็ได้ โดยในรุ่นนี้จะให้สีสันของหน้าจอที่สวยกว่า สว่างกว่า มีลำโพงแบบสเตอริโอแยกเสียงซ้ายขวา ทำให้การดูหนัง ฟังเพลงได้อรรถรสกว่า

จากการทดสอบความเร็วในการเชื่อมต่อ 5G ด้วย Redmi Note 10 5G สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 318 Mbps แต่ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ให้บริการ และความหนาแน่นในการใช้งานเครือข่ายในขณะนั้น 

Redmi Note 10S และ Redmi Note 10 5G หน่วยประมวลผลแรงพอๆ กัน

สำหรับหน่วยประมวลผลแล้ว ทั้งสองรุ่นมีประสิทธิภาพความแรงที่พอๆ กัน สำหรับรุ่น Redmi Note 10 5G ใช้ชิพเซ็ต MediaTek Dimensity 700 5G Octa-core ความเร็ว 2.2 GHz หน่วยประมวลผลภาพ 3D Mali-G57 โดยเครื่องที่เราได้มาทดสอบเป็นรุ่นหน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB และ ROM ความจุ 128 GB และยังเพิ่มหน่วยความจำแบบ microSD ได้อีก จากการทดสอบด้วยแอพฯ Antutu สามารถทำคะแนนได้ 266,678 คะแนน

ส่วนการทดสอบด้วยแอพฯ Geekbench 5 สามารถทำคะแนน Single core ได้ 553 คะแนน และ Multi core ได้ 1681 คะแนน

สำหรับ Redmi Note 10S ใช้ชิพเซ็ต MediaTek Helio G95 Octa-core ความเร็ว 2.05 GHz หน่วยประมวลผลภาพ 3D Mali-G76 โดยเครื่องที่เราได้มาทดสอบเป็นรุ่นหน่วยความจำ RAM 6 GB และ ROM 128 GB แต่เครื่องที่วางจำหน่ายจะเป็นรุ่น RAM 8 GB, ROM 128 GB จากการทดสอบด้วยแอพฯ Antutu ทำคะแนนได้ 281,163 คะแนน และแอพฯ Geekbench ทำคะแนน Single core ได้ 487 คะแนน และ Multi core ได้ 1676 คะแนน

จะเห็นว่าทั้งสองรุ่นทำคะแนนได้ไม่ต่างกันมากนัก แต่ในเรื่องของการประมวลผลภาพ 3D ของรุ่น Redmi Note 10S จะทำคะแนนได้ดีกว่าเล็กน้อย ซึ่งหากต้องการเล่นเกม รุ่น Note 10S ดูจะเหมาะกว่ารุ่น 5G

ในการทดสอบเล่นเกม 3D อย่าง PUBG Mobile ซึ่งเป็นเกมที่ใช้หน่วยประมวลผลแบบหนักหน่วง โดยการตั้งค่ากราฟฟิคในเกมของ Redmi Note 10S จะสามารถตั้งค่าความละเอียดได้สูงกว่า Redmi Note 10 5G นอกจากนี้ทั้งสองรุ่นก็ยังมีความแตกต่างในด้านการแสดงผลด้วย โดย Redmi Note 10 5G สามารถแสดงผลได้ลื่นไหลกว่าที่อัตรา Refresh rate 90 Hz ส่วน Redmi Note 10S แสดงผลสีสันได้สวยงามกว่าด้วยจอภาพแบบ AMOLED แต่แสดงผลที่อัตรา Refresh rate 60 Hz

การตั้งค่าความละเอียดเกมของ Redmi Note 10S

การตั้งค่าความละเอียดเกมของ Redmi Note 10 5G

Redmi Note 10 Series กล้องหลังมีให้เลือกทั้ง 3 เลนส์ และ 4 เลนส์

ถ้าเน้นไปที่การใช้งานถ่ายภาพ Redmi Note 10S จะมีกล้องถ่ายภาพความละเอียดมากกว่า มีเลนส์ให้เลือกถ่ายภาพมากกว่าถึง 4 เลนส์ โดยจะมีเลนส์ Ultra wide เพิ่มเข้ามา ต่างจาก Redmi Note 10 5G ที่มีเพียง 3 เลนส์ ทำให้ Redmi Note 10S เก็บภาพมุมกว้างได้มากกว่า ถ่ายภาพได้ทุกระยะมากกว่า มาดูกันว่าสเป็คกล้องของแต่ละรุ่นเป็นอย่างไร

Redmi Note 10S

• กล้องหลัง 4 เลนส์
  • กล้องหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.79
  • กล้องเลนส์ Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 119 องศา รูรับแสงกว้าง f/2.2
  • กล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
  • กล้องเลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
• กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.45

Redmi Note 10 5G

• กล้องหลัง 3 เลนส์
  • กล้องหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.79
  • กล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
  • กล้องเลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
• ถ่ายวิดีโอความละเอียด Full HD 1080p 30 เฟรมต่อวินาที

สำหรับลูกเล่นในการถ่ายภาพ ทั้งสองรุ่นก็มีฟังก์ชั่นการถ่ายภาพแบบพื้นฐานมาให้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ Pro, Portrait, Slo-mo, Time-lapse, Panorama, Short Video และนอกจากนี้ Redmi Note 10S ยังถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงถึง 4K 30 เฟรมต่อวินาที แต่ใน Redmi Note 10 5G ถ่ายได้ที่ความละเอียดเพียง 1080p 30 เฟรมต่อวินาทีเท่านั้น นี่คือความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดระหว่างสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่น

แบตเตอรี่ 5000 mAh แต่ Redmi Note 10S ชาร์จเร็วกว่า

ทั้งสองรุ่นมีแบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh เท่ากัน แต่ระบบการชาร์จของทั้งสองรุ่นต่างกันเล็กน้อย โดย Redmi Note 10S จะรองรับระบบ Mi Turbo Charge กำลังไฟถึง 33 วัตต์ ทำให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วกว่า โดยการทดสอบชาร์จเต็ม 100% ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น

ส่วน Redmi Note 10 5G ก็มีขนาดเท่ากันคือ 5,000 mAh ในกล่องจะแถมอแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่กำลังไฟ 22.5 วัตต์ แต่เครื่องจะรองรับเพียง 18 วัตต์เท่านั้น โดยการทดสอบชาร์จจากแบตเตอรี่เต็ม 100% จะใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมงเลยทีเดียว อาจจะดูนานไปหน่อย แต่ด้วยแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ ก็ทำให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน แนะนำให้ชาร์จก่อนนอน ตื่นขึ้นมาแบตเตอรี่เต็มพร้อมใช้ทั้งวันอย่างแน่นอน

บทสรุป รีวิว Redmi Note 10 Series จากความเห็นของ What Phone

มาถึงบทสรุป รีวิว Redmi Note 10 Series ทั้งสองรุ่นมีจุดเด่นที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดหลายจุด หากเป็น Redmi Note 10S จะมีจุดเด่นที่จอแสดงผลแบบ Super AMOLED ที่ให้สีสันสวยงาม คมชัด อัตราส่วนการแสดงผลสีดำสีขาวดีกว่ารุ่น 5G มีฟีเจอร์ Always on Display กล้องถ่ายภาพมีความละเอียดกว่า มีเลนส์ Ultra wide มีลูกเล่นการถ่ายภาพมากกว่า ถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียด 4K มีลำโพงคู่แบบสเตอริโอ เพียงแต่ว่ารุ่นนี้ไม่รองการใช้งานเครือข่าย 5G ส่วน Redmi Note 10 5G มีจุดเด่นที่รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 5G ที่เร็วกว่า จอแสดงผลทำได้เนียนตากว่าด้วย Refresh rate 90 Hz สรุปโดยรวมแล้วหากใช้งานทั่วไป Redmi Note 10S ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปมากกว่า แต่หากต้องการประสบการ์การเชื่อมต่อใหม่ๆ อย่างเครือข่าย 5G Redmi Note 10 5G ให้คุณได้ใช้งานเทคโนโลยีใหม่ๆ ก่อนใคร อย่างไรก็ดีลองพิจารณาเลือกตามความเหมาะสมการใช้งานของเราเองด้วยครับ

สรุปสเป็ค redmi Note 10S

• ขนาด 160.46 x 74.5 x 8.29 มม. นัำหนัก 178.8 กรัม
• รองรับเครือข่าย 4G LTE
• หน้าจอ AMOLED FHD+ ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล, แสดงผล 60 Hz 
• หน่วยประมวลผล MediaTek Helio G95 Octa-core ความเร็ว 2.05 GHz, Mali G76 GPU
• ระบบปฏิบัติการ Android 11, MIUI 12.5
• หน่วยความจำ RAM 8 GB, ROM 128 GB
• ระบบปลดล็อคด้วยสแกนลายนิ้วมือด้านข้าง และปลดล็อคด้วยใบหน้า
• กล้องหลัง 4 เลนส์
  • กล้องหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.79
  • กล้องเลนส์ Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 119 องศา รูรับแสงกว้าง f/2.2
  • กล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
  • กล้องเลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
• ถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K 30 เฟรมต่อวินาที, Full HD 1080p 60 เฟรมต่อวินาที
• กล้องหน้า 
  • กล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.45
• แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จเร็วด้วยอแดปเตอร์ 33 วัตต์
• มีให้เลือก 2 สี Onyx Gray, Pebble White และ Ocean Blue
• เปิดตัวในราคา 7,499 บาท

สรุปสเป็ค Redmi Note 10 5G

• ขนาด 161.81 x 75.34 x 8.92 มม. นัำหนัก 190 กรัม
• รองรับเครือข่าย 4G LTE, 5G
• หน้าจอ FHD+ ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล, แสดงผล 90 Hz 
• หน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 700 Octa-core ความเร็ว 2.2, Mali G57 GPU
• ระบบปฏิบัติการ Android 11, MIUI 12.0
• หน่วยความจำมีให้เลือก 2 รุ่น 4+128 GB, 8+128 GB
• ระบบปลดล็อคด้วยสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power ด้านข้าง และปลดล็อคด้วยใบหน้า
• กล้องหลัง 3 เลนส์
  • กล้องหลักเลนส์ Wide ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.79
  • กล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
  • กล้องเลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
• ถ่ายวิดีโอความละเอียด Full HD 1080p 30 เฟรมต่อวินาที
• กล้องหน้า 
  • กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0
• แบตเตอรี่ 5000 mAh ชาร์จเร็วด้วยอแดปเตอร์ 18 วัตต์
• มีให้เลือก 2 สี Supersonic Black, Supersonic Blue
• ราคาเปิดตัว
  • รุ่น 4+128 GB ราคา 5,999 บาท
  • รุ่น 8+128 GB ราคา 6,999 บาท

ตัวอย่างภาพจากกล้อง Redmi Note 10S

ตัวอย่างภาพจากกล้อง Redmi Note 10 5G

 

• Facebook
• X
• Line