จาก Samsung Galaxy A7 Series ที่ชื่อรุ่นตามด้วยปีที่เปิดตัว ตั้งแต่ A7 2015 เรื่อยมาจนถึง A7 2018 จนมาถึงการเปลี่ยนแปลงเป็นเลข 2 หลักอย่าง Samsung Galaxy A70 ที่เปิดตัวไปในปีนี้ ซึ่งในซีรี่ย์นี้จะเน้นความสวยงาม ดีไซน์ และวัสดุที่เป็นรองเพียงแค่ Galaxy S Series มาถึงรุ่นนี้จะยังคงความเป็นพรีเมี่ยมโฟนอยู่หรือไม่นั้น มาติดตาม รีวิว Samsung Galaxy A70 กันครับ
แกะกล่อง รีวิว Samsung Galaxy A70 ดีไซน์ และวัสดุเกรดพรีเมี่ยม
หากดูจากวัสดุ ดีไซน์ในตอนนี้ถือว่าเป็นรองแค่ Samsung Galaxy S10 เท่านั้น ทั้งฟีเจอร์การใช้งาน และรูปลักษณ์ภายนอก สำหรับเครื่องที่เราได้มาทดสอบเป็นสี White ไม่ได้ใช้ชื่อ Prism White เหมือนอย่าง S10
เมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์มาตรฐาน นอกจากตัวเครื่องแล้วก็จะมีเคสใสแบบซิลิโคนยืดหยุ่นได้ มีชุดหูฟัง เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด คู่มือการใช้งาน แต่สิ่งที่ต่างออกไปจากรุ่นอื่นคืออุปกรณ์ชาร์จแบตเตอรี่ ทั้งอแดปเตอร์ และสายชาร์จ โดยตัวอแดปเตอร์เป็นแบบ USB-C มาให้เลย และสายชาร์จก็เป็นแบบ USB-C ทั้งสองด้าน จะใช้หัวด้านไหนเสียบกับด้านไหนก็ได้ ไม่ต้องกังวลเหมือนก่อน ที่ตัวอแดปเตอร์ยังเป็นแบบ Super Fast Charging รุ่นแรกของ Samsung ที่วางจำหน่าย มีกำลังไฟ 25 วัตต์ ทำให้ชาร์จได้เร็วกว่า Fast Charging ซึ่งเรือธงอย่าง S10 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้าไม่กี่เดือนยังไม่มีฟีเจอร์นี้เลย
นอกจากความโดดเด่นของดีไซน์แล้ว ด้านหน้ายังมีจอภาพแบบ Super AMOLED Infinity-U Display ขนาด 6.7 นิ้วความละเอียด FHD+ อัตราส่วนหน้าจอ 20:9 ด้านหลังยังมีกล้องถึง 3 เลนส์ ประกอบด้วยเลนส์ปกติ, เลนส์มุมกว้าง และเลนส์ Depth
ใช้งานเล่นเกมเต็มประสิทธิภาพ ในราคาที่ไม่ต้องจ่ายแพง
ในด้านการใช้งาน Samsung Galaxy A70 ก็ส่งมอบความเร็วให้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 675 พร้อม RAM 8 GB และหน่วยความจำ 128 GB เพิ่ม microSD ได้อีก 512 GB ซึ่งเป็นถาดแบบ 3 สล็อต สามารถใส่ SIM1, SIM2 และ microSD ได้ทั้งหมด ไม่ต้องถอดซิมการ์ดเพื่อใส่ microSD สลับไปมา
ในด้านการเล่นเกมก็มีชิพประมวลผลภาพ 3D อย่าง Adreno 612 จากการทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile สามารถปรับความละเอียดได้จนสุด และสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล ไม่กระตุก และรุ่นนี้ยังรองรับการปล่อยบอท หรือปล่อยให้เกมเล่นโดยอัตโนมัติได้นานกว่า เพราะเมื่อไม่มีการกดปุ่มใดๆ หน้าจอปรับความสว่างลงจนเกือบสุดแต่ยังพอเห็น พร้อมกับล็อคหน้าจอและปรับความเร็วในการทำงานลง จึงช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้อีกพอสมควร ทำให้ปล่อยบอทได้นานกว่าเดิม
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,500 mAh พร้อม Super Fast Charging 25W รุ่นแรกของ Samsung
จากที่กล่าวไปแล้วว่ารุ่นนี้ได้เปลี่ยนทั้งอแดปเตอร์ และสายชาร์จเป็นแบบใหม่หมด จึงทำให้ชาร์จไฟได้รวดเร็วกว่าเดิม สะดวกกว่าเดิมด้วยหัวเสียบแบบ USB-C ทั้งสองด้าน จะใช้ด้านไหนก็ได้ จากการทดสอบชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% ไปจนถึง 80% ใช้เวลาประมาณ 60 นาที และเมื่อปล่อยให้เต็มใช้เวลาประมาณ 80 นาที หรือ 1 ชั่วโมง 20 นาที ถือว่าค่อนข้างเร็วเมื่อเทียบกับขนาด 4,500 mAh
กล้องหลังแบบ Triple Camera พร้อมเลนส์ Wide 123 องศา
เทคโนโลยีกล้องได้สืบทอดต่อมาจาก A Series รุ่นก่อน กล้องด้านหลังประกอบเลนส์ 3 แบบ ไม่ว่าจะเป็นเลนส์หลักที่ใช้ถ่ายระยะปกติ ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล F/1.7, เลนส์ Ultra Wide กว้าง 123 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล F/2.2 และเลนส์ Depth หรือเลนส์วัดระยะลึกความละเอียด 5 ล้านพิกเซล F2.2 จากการทดสอบถ่ายภาพทำได้น่าประทับใจ ทั้งความคมชัด และสีสัน โดยเฉพาะการถ่ายภาพด้วยเลนส์ Ultra Wide ที่เก็บภาพได้หมด ไม่จำเป็นต้องถอยไปถ่ายไกลๆ จนบางครั้งยังถ่ายติดนิ้วมือที่จับโทรศัพท์ ต้องระวังและเก็บนิ้วให้ดี
การถ่ายภาพด้วย Live Focus ที่จะทำให้การถ่ายภาพสนุกยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากจะทำเป็นภาพหน้าชัดหลังเบลอแล้ว ยังมีเพิ่มการปรับหลังเบลอแบบ Spin, Zoom และ Color point ทำให้ภาพบุคคลดูโดดเด่นขึ้น และดูแปลกตาขึ้น
ส่วนกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซลมีมาเลนส์เดียว แต่สามารถถ่าย Selfie หน้าชัดหลังเบลอได้เหมือนกับการถ่ายด้วยเลนส์คู่เลยทีเดียว บรรยายเป็นตัวหนังสืออาจจะนึกไม่ออก ลองชมภาพตัวอย่างจากกล้องหน้าได้เลยครับ สำหรับการถ่ายคลิปวิดีโอกล้องหลังทำได้ที่ความละเอียด UHD หรือ 4K ส่วนกล้องหน้าถ่ายได้ที่ความละเอียด FHD 1080p
ระบบรักษาความปลอดภัย On-Screen Finger print
การปลดล็อคใช้งานของ Galaxy A70 ได้ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอ สามารถบันทึกลายนิ้วมือได้ 4 นิ้ว แต่นิ้วมือที่ปลดล็อคได้สะดวกที่สุดคือนิ้วโป้ง แนะนำให้สแกนทั้งซ้ายและขวาเก็บไว้เลย จากการทดสอบใช้งานปลดล็อคยังมีบางช่วงที่สแกนไม่ติดบ้างในบางครั้ง ซึ่งหากได้รับการอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่น่าจะปรับปรุงในส่วนนี้ได้ แต่หากไม่ถนัดที่จะปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือก็สามารถใช้ระบบปลดล็อคด้วยใบหน้าได้เช่นกัน และสามารถปลดล็อคได้เร็วกว่าด้วย
บทสรุป Samsung Galaxy A70 ในความคิดเห็นของ What Phone
ถ้าจะให้เทียบชั้นกับเรือธงอย่าง Samsung Galaxy S10 คงจะบอกได้ว่าทั้งดีไซน์ ประสิทธิภาพ กล้อง ฟังก์ชั่นการใช้งานถือว่าเกือบทำได้ดีเท่าเลยล่ะ ซึ่งหากเทียบราคากันแล้วเราบอกได้เลยว่ารุ่นนี้คุ้มกว่าเห็นๆ จะมีบ้างที่อาจจะทำได้ไม่ดีเท่าอย่างระบบสแกนลายนิ้วมือ On-Screen Finger Print ที่ยังต้องรออัพเดทซอฟท์แวร์ปรับปรุง กล้องถ่ายภาพที่ภาพอาจจะยังไม่ใสเท่า แต่ก็ถือว่าทำได้ดีแล้วในราคาระดับนี้ สำหรับการใช้งานทั่วไปแทบไม่ต่างเลยก็ว่าได้ เอาเป็นว่ารุ่นนี้ตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้งานทุกระดับ ทั้งเกมเมอร์ ทั้งสายถ่ายภาพ กับราคาเปิดตัว 15,990 บาท ขอย้ำอีกครั้งว่ารุ่นนี้คุ้มสุดๆ ครับ
ตัวอย่างภาพจากกล้อง Samsung Galaxy A70
เทียบโหมดถ่ายภาพธรรมดา และโหมด Ultra Wide
ภาพถ่าย Live Focus ในโหมดต่างๆ
ภาพถ่ายจากกล้องหน้า
พบกับ Samsung Galaxy A70 รุ่นใหม่ล่าสุดได้ที่งาน Thailand Mobile Expo 2019 ได้ที่ ไบเทค บางนา ในวันที่ 30 พค. – 2 มิย. พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา