Vivo V19 เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าจับตามองที่สุดในขณะนี้ ด้วยราคาเปิดตัวที่ถือว่าคุ้มค่า เมื่อเทียบกับฟีเจอร์การใช้งาน ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความแรง การถ่ายภาพที่มีเลนส์ทุกระยะ เซลฟี่ด้วยกล้องคู่ รวมไปถึงดีไซน์ที่สวยงาม โดดเด่นไม่เหมือนใคร ก่อนหน้านี้เราได้ทำการพรีวิวกันไปแล้ว มาดู รีวิว Vivo V19 ฉบับเต็มกันได้เลยครับ
แกะกล่อง รีวิว Vivo V19
เครื่องที่เราได้มาทดสอบเป็นสี Sleek Silver ซึ่งเป็นสีที่ดูเจิดจ้า เมื่อสะท้อนกับแสงดูสวยงาม มาแกะกล่องดูกันเลยดีกว่าว่าข้างในมีอุปกรณ์อะไรมาให้บ้าง
- สมาร์ทโฟน Vivo V19 สี Sleek Silver
- อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ Vivo FlashCharge 2.0 กำลังไฟ 33 วัตต์
- สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C
- ชุดหูฟังสมอลล์ทอล์คแบบ 3.5 มม.
- เคสใสแบบ TPU
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
- คู่มือการใช้งาน
สำหรับหน้าจอของรุ่นนี้เป็นแบบ Super AMOLED Ultra O Screen ขนาด 6.44 นิ้ว ให้สีสันที่สมจริง โดยมีกล้องคู่อยู่ที่มุมบนขวาของตัวเครื่อง เหนือจอแสดงผลเป็นที่อยู่ของลำโพงสนทนา และเซ็นเซอร์ต่างๆ มากมายที่ฝังอยู่บริเวณนี้ ส่วนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ส่วนล่างซึ่งฝังลงบนหน้าจอ สามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว หน้าจอแสดงผลยังได้รับการรองรับจากสถาบัน TUV Rheinland จากเยอรมันนีในเรื่องของการกรองแสงสีฟ้าได้มากถึง 42% ช่วยถนอมสายตาเมื่อใช้ไปนานๆ
ตัวเครื่องที่เราได้มาทดสอบเป็นสี Sleek Silver หรือสีเงิน ดีไซน์ด้านข้างของตัวเครื่องเป็นแบบ 3D โค้งรับกับอุ้งมือเมื่อได้สัมผัสถือว่าเข้ากับอุ้งมือพอดี และที่ด้านหลังเมื่อกระทบกับแสงในมุมต่างๆ ก็จะเผยให้เห็นสีสันที่แฝงอยู่ออกมาอย่างสวยงาม อีกทั้งยังใช้วัสดุเป็นกระจก เสริมความหรูหรา เงางามดั่งเครื่องประดับที่อยู่ข้างกายของคุณ
ถ่ายภาพคมชัดทุกระยะด้วยกล้องหลัง 4 เลนส์ กล้องหน้าคู่ 32 ล้านพิกเซล
เลนส์รับภาพกล้องดิจิตอลของรุ่นนี้มีมาให้ถึง 4 เลนส์ วางเรียงกันเป็นรูปตัว L อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า รวมไปถึงไฟแฟลชแบบ LED เลนส์ทั้ง 4 ประกอบไปด้วยเลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างถึง f/1.79 เลนส์ที่ 2 คือเลนส์ Super Wide Angle มุมกว้าง 105 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2 เลนส์ที่ 3 คือเลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล f/2.4 และเลนส์ Macro หรือถ่ายภาพในระยะใกล้ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
สำหรับโหมดถ่ายภาพก็มีให้เลือกใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการปรับความละเอียดภาพไปที่สูงสุด 48 ล้านพิกเซล ซึ่งหากเลือกถ่ายภาพในโหมดปกติกล้องจะถ่ายที่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่เหมาะสมกับการถ่ายภาพทั่วไป อีกทั้งยังไม่เปลืองพื้นที่หน่วความจำด้วย และที่น่าสนใจก็คือโหมดการถ่ายภาพ Portrait หรือถ่ายภาพบุคคล สามารถปรับส่วนต่างๆ ของใบหน้าได้ ในโหมด Face Beauty ผิวนวล, ความขาวของสีผิว, ปรับหน้าบาง, ปรับรูปหน้า, กราม, ปรับตาโต, ปรับหน้าผาก, ปรับจมูก ฯลฯ และยังมีฟีเจอร์ Posture ที่เป็นเสมือนผู้ช่วยแนะนำการถ่ายภาพในท่าต่างๆ มากกว่าร้อยแบบ
กล้องหน้าคู่รุ่นแรกของ Vivo ที่มีความละเอียดสูงถึง 32 ล้านพิกเซลที่คมชัดมากกว่าเดิม ประกอบไปด้วยเลนส์ Bokeh และเลนส์มุมกว้างเป็นพิเศษ สามารถเก็บภาพเซลฟี่ของคุณพร้อมทั้งวิวทิวทัศน์ที่อยู่ด้านหลังได้อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะการเซลฟี่เป็นหมู่คณะก็สามารถเก็บภาพได้หมดโดยไม่ต้องยืดมือออกไปไกลๆ อีกทั้งยังสามารถปรับใบหน้า และมี Posture แนะนำท่าทางได้เหมือนกับการถ่ายด้วยกล้องหลัง นอกจากนี้ยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ในการถ่ายภาพด้วยกล้องหน้าด้วยโหมด Super Night Selfie ที่จะช่วยให้การเซลฟี่ในที่มืดเป็นเรื่องง่ายด้วยการใช้หน้าจอส่องสว่างเหมือนกับไฟแฟลช นอกจากนี้ยังมีระบบ AI ที่ช่วยวิเคราะห์ฉากหลัง หรือทิวทัศน์ ช่วยปรับความสว่างให้เหมาะสมโดยปราศจาก Noise ด้วย
และสำหรับการถ่ายคลิปวิดีโอสามารถเลือกถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K 30 เฟรมต่อวินาที ก็มีระบบกันสั่น หรือ Ultra Steady Video ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง เหมาะกับสาย VLOG ที่ชื่นชอบการบันทึกวิดีโอ ช่วยลดการสั่นไหวของภาพได้เป็นอย่างดี
สุดท้ายกับการถ่ายภาพภาพ Bokeh หน้าชัดหลังเบลอ เลือกปรับค่า F หรือค่ารูรับแสงได้กว้างถึง f/0.95 ไปจนถึง f/16 ซึ่งหากค่ายิ่งน้อยจะยิ่งทำให้พื้นหลังละลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากเราเลือกการถ่ายภาพในโหมดนี้สามารถนำภาพที่ถ่ายแล้วมาปรับความเบลอของพื้นหลังจนกว่าจะพอใจ และฟีเจอร์การแต่งภาพด้วยระบบ AI ที่จะช่วยวิเคราะห์ภาพถ่ายว่ามีอะไรอยู่ในภาพบ้าง เมื่อวิเคราะห์เรียบร้อยแล้วเราสามารถปรับเปลี่ยนฉากหลังได้ทันที หรือแม้กระทั่งลบคนที่อยู่ในฉากหลังที่ไม่ต้องการได้ด้วย ถือว่าเป็นการแต่งภาพด้วยระบบ AI ที่ชาญฉลาดมากๆ เลยทีเดียว
จุดประกายค่ำคืนของคุณด้วย Super Night Selfie
นอกจากนี้ยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ในการถ่ายภาพด้วยกล้องหน้าด้วยโหมด Super Night Selfie ที่จะช่วยให้การเซลฟี่ในที่มืดเป็นเรื่องง่ายๆ ด้วยการใช้หน้าจอส่องสว่างเป็นสีขาวนวลเหมือนกับโคมไฟส่องหน้า ซึ่งจะช่วยให้ใบหน้าดูสว่างขึ้น สีขาวนวลของหน้าจอยังทำให้ใบหน้าดูกระจ่างใสเป็นธรรมชาติอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีระบบ AI ที่ช่วยวิเคราะห์ฉากหลัง หรือทิวทัศน์ ช่วยปรับความสว่างให้เหมาะสมโดยปราศจาก Noise ด้วย จากการทดสอบถ่ายภาพที่มืดอย่างลานจอดรถ จะเห็นได้ว่าภาพถ่ายที่ออกมาสว่างสดใส ภาพนางแบบก็ดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องอาศัยแอพฯ อื่นๆ ตกแต่งเพิ่มเติมเลย
ตัวอย่างภาพถ่ายด้วย Super Night Selfie
แรงเต็มประสิทธิภาพด้วยหน่วยประมวลผล Snapdragon 712
Vivo V19 เลือกใช้หน่วยชิพเซ็ตจาก Qualcomm ที่ได้มีการยอมรับมากที่สุดในเวลานี้ โดยใช้หน่วยประมวลผล Snapdragon 712 ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความแรง และระบบประหยัดพลังงาน หน่วยความจำ RAM ขนาดใหญ่ 8 GB และ ROM 128 GB ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย Funtouch OS 10 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด รองรับการทำงานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง เล่นแอพฯ สื่อ Social ต่างๆ และยังรองรับการเล่นเกมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษทั้ง Hardware และ Software มีระบบระบายความร้อนแบบ Copper Tube Liquid Cooling ช่วยลดอุณหภูมิขณะที่ใช้งานหนักๆ ได้ 3-7 องศาเซลเซียส ทำให้การเล่นเกมลื่นไหล เฟรมเรทไม่ตก สามารถใช้งานหนักๆ ได้อย่างยาวนานโดยไม่กระทบต่อการใช้งาน
จากการทดสอบด้วยแอพฯ Antutu Benchmark ที่เราใช้ทดสอบเป็นประจำสามารถทำคะแนนได้ 241569 คะแนน ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว และจากการทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile ซึ่งเป็นเกมที่ใช้การประมวลผลภาพ 3D ที่หนักมาก แต่ก็ยังสามารถเลือกปรับได้ที่ความละเอียดสูงสุด ให้ภาพลื่นไหล ไม่มีกระตุก ระหว่างเล่นตัวเครื่องอาจจะอุ่นเล็กน้อย แต่ก็ไม่กระทบกับการเล่นเกมแม้แต่น้อย นั่นก็เป็นเพราะระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูงนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Ultra Game Mode และ Multi-Turbo 3.0 ที่ช่วยให้การเล่นเกมสนุกมากยิ่งขึ้น โดยฟีเจอร์เหล่านี้จะช่วยจัดสรรทรัพยากรที่มีในเครื่องมาสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ และยังช่วยให้การแจ้งเตือน หรือโทรเข้าขัดจังหวะการเล่นเกมอีกด้วย
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ชาร์จไฟได้รวดเร็วด้วย Vivo Flashcharge 2.0 กำลังไฟ 33 วัตต์
ด้วยอแดปเตอร์ที่ให้กำลังไฟสูงถึง 33 วัตต์ สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วที่สุดของ Vivo ในขณะนี้ ตามสเป็คสามารถชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 4,500 mAh ของ V19 ได้เร็วถึง 54% ในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น ซึ่งจากการทดสอบชาร์จจาก 0-100% ใช้เวลาเพียงชั่วโมงนิดๆ เท่านั้นเอง และด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ทำให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน ไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดระหว่างวัน แต่หากใช้งานหนักๆ เล่นเกมนานๆ ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน
บทสรุป รีวิว Vivo V19 จากความเห็นของทีมงาน What Phone
เป็นอีกครั้งที่ Vivo ได้สร้างความประทับใจให้กับเรา กับสมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์สวยงาม ฟังก์ชั่นเด่นแบบนี้ และถือเป็นรุ่นที่มีพัฒนาการอย่างเด่นชัดต่อจากรุ่นก่อน อีกหนึ่งความประทับใจที่ทำให้เราต้องว้าวอีกครั้งคือกล้องดิจิตอลที่ทำออกมาได้ดีมากๆ ทั้งการถ่ายภาพที่มีระบบ AI ช่วยปรับแสง สี ความสว่างได้อย่างลงตัว ถ่ายภาพแล้วยังสามารถใช้ระบบ AI ช่วยแต่งภาพภายหลังได้อีกด้วย ถือเป็นการใช้ซอฟท์แวร์และระบบ AI เข้ามาช่วยยกระดับการถ่ายภาพให้เหนือชั้นขึ้นไปอีก และด้วยราคาเปิดตัวเพียง 12,999 บาทที่ทีมงานต่างลงความเห็นว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าที่สุดในเรทราคานี้ สุดท้ายแล้ว ถึงแม้ว่าจะเลื่อนเปิดตัวมาช้า แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าแก่การรอคอยจริงๆ
สรุปสเป็ค รีวิว Vivo V19
- รองรับเครือข่าย 3G, 4G LTE
- หน้าจอแบบ Super AMOLED Ultra O Screen ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด Full HD+
- ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแสดงผล
- หน่วยประมวล Qualcomm Snapdragon 712 Octa-core
- หน่วยความจำ RAM 8 GB, ROM 128 GB
- เพิ่มหน่วยความจำแบบ microSD ได้
- กล้องหลัง 4 เลนส์
- เลนส์ Wide ความละเอียด 48 MP
- เลนส์ Super Wide Angle ความละเอียด 8 MP
- เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 MP
- เลนส์ Macro ความละเอียด 2 MP
- กล้องหน้า 2 เลนส์
- เลนส์ Wide ความละเอียด 32 MP
- เลนส์ Super Wide Angle ความละเอียด 8 MP
- ถ่ายวิดีโอความละเอียด FullHD, 4K
- ระบบชาร์จไฟ Vivo FlashCharge 2.0 กำลังไฟ 33 วัตต์
- แบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh
- Funtouch OS 10 บนระบบปฏิบัติการ Android 10