วางจำหน่ายไปแล้วไม่นานกับ Samsung Galaxy A23 5G คราวนี้มาพร้อมสีใหม่ Silver Bright สมาร์ทโฟน Galaxy A Series รุ่นใหม่ที่มีความสวยเด่นสะดุดตาภายใต้สีเงินที่ดูเรียบหรูพรีเมี่ยม แต่ซ่อนไปด้วยสีสันที่ดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร มาดูกันว่านอกจากภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูสวยงามแล้ว การใช้งานภายในจะเป็นอย่างไร
Samsung Galaxy A23 5G สีใหม่ Silver Bright โดดเด่นเกินใคร
Galaxy A23 5G กับสีใหม่ Silver Bright ครั้งแรกใน A-Series ที่ดูสวยแปลกตา สะท้อนทุกสีสันออกมาเมื่อกระทบแสง ทุกมุมที่แสงตกกระทบก็จะเปลี่ยนเป็นสีรุ้งไม่ซ้ำกัน แต่เมื่อออกกลางแสงแดดจ้าจะเห็นเป็นสีเงินสว่างใส ดูเรียบหรูพรีเมี่ยม มองไม่เห็นสีรุ้งเหมือนตอนอยู่ในร่ม พื้นผิวฝาหลังเป็นแบบด้าน สัมผัสไม่ติดลายนิ้วมือ ดีไซน์โดยรวมของรุ่นนี้สามารถใช้งานได้ทุกเพศทุกวัย
จอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.6 นิ้ว หน้าจอใช้วัสดุกระจก Gorilla Glass 5 ทนต่อรอยขีดข่วน แสดงสีสันได้สดใสด้วยจอภาพแบบ PLS LCD ความละเอียด FHD+ 1080 x 2408 พิกเซล อัตรารีเฟรชเรทสูงถึง 120 Hz แสดงผลสีสันได้สวยงาม หน้าจอเป็นแบบ Infinity-V Display มีกล้องเป็นรูปหยดน้ำอยู่ที่ส่วนบนของหน้าจอ ซึ่งบริเวณนี้จะมีลำโพงสนทนา และเซ็นเซอร์ต่างๆ ซ่อนอยู่บริเวณนี้
ดีไซน์ที่ด้านหลังสี Silver Bright ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของรุ่นนี้ ออกแบบมาอย่างเรียบๆ แต่ลงตัว พื้นผิวแบบด้าน สะท้อนแสงออกมาได้ทั้งสีรุ้ง และสี Silver รวมอยู่ในเครื่องเดียว ด้านหลังมีเพียงโมดูลของกล้อง 4 เลนส์ Quad-Camera และไฟแฟลช LED ดีไซน์แบบ Ambient EDGE เมื่อสัมผัสส่วนนี้จะรู้สึกถึงความโค้งมน เชื่อมต่อกล้องกับฝาหลังอย่างลงตัว
ขอบด้านข้างที่บางเพียง 8.6 มม. ดีไซน์แบบโค้งมน โดยที่ด้านข้างดีไซน์มาแบบเรียบๆ มีเพียงช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบ 3 ช่อง สามารถใส่ SIM1, SIM2 และ microSD ได้พร้อมกัน ส่วนที่ด้านข้างขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิดปิดเครื่อง ทำหน้าที่หลายอย่างทั้งเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือสำหรับปลดล็อคเครื่อง และหากกดค้างจะเป็นปุ่มเข้าใช้งานฟังก์ชั่น Bixby ผู้ช่วยส่วนตัวที่สามารถสั่งงานได้ด้วยเสียง
ด้านบนของตัวเครื่องดีไซน์แบบเรียบๆ มีเพียงช่องไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา ส่วนที่ด้านล่างมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. พร้อมรองรับระบบเสียง Dolby ATMOS ถัดมามีช่องไมโครโฟนรับเสียง, ช่องเสียบสายชาร์จแบบ USB-C และช่องลำโพงสปีกเกอร์โฟน
แรงด้วยชิพเซ็ต Snapdragon 695 พร้อมรองรับเครือข่าย 5G
ในด้านความเร็วแรงในการประมวลผลก็ได้ชิพเซ็ต Qualcomm Snapdragon 695 มีแกนประมวลผลแบบ Octa-core 64-bit ความเร็ว 2.2 GHz เทคโนโลยีการผลิต 6 นาโนเมตร มีหน่วยความจำ RAM 8 GB, หน่วยความจำ ROM สำหรับเก็บข้อมูลมีขนาด 128 GB รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD อีกสูงสุด 1 TB แต่การเพิ่มหน่วยความจำภายนอกจะสูญเสียช่องใส่ SIM2 ไปด้วย ผู้ใช้ต้องเลือกว่าจะใช้งานระหว่าง SIM2 หรือการ์ดหน่วยความจำ microSD
ระบบปฏิบัติการของรุ่นนี้ยังคงใช้ Android เวอร์ชั่น 12 เป็นระบบการทำงานพื้นฐาน เสริมด้วย OneUI 4.1 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่ Samsung ใช้งานกับสมาร์ทโฟนทุกรุ่น มีการออกแบบ UX/UI ที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน สามารถใช้งาน Multi-Windows หรือเปิด 2 แอพฯ ได้ในเวลาเดียวกันอย่างเช่นเปิดดู YouTube พร้อมๆ กับเปิด Browser ได้พร้อมกัน ซึ่งปกติแล้วจะมีในสมาร์ทโฟนระดับ Flagship เท่านั้น
นอกจากนี้ยังรองรับ Google Mobile Service เต็มรูปแบบ ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น รวมถึงบริการต่างๆ ได้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีแอพพลิเคชั่น, Theme, Wallpaper เพิ่มเติมได้ที่ Galaxy Store ได้
สำหรับการใช้งาน 5G บนชิพเซ็ต Snapdragon 695 5G ก็สามารถใช้งานได้ในระดับ Hyper-Fast 5G ที่มีความหน่วงต่ำ ดาวน์โหลด อัพโหลดข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูง ส่งผลให้การเล่นเกมออนไลน์ที่ต้องอาศัยความหน่วงต่ำมีความได้เปรียบในเรื่องของความเร็ว ไม่ Lag ไม่กระตุก จากการทดสอบความเร็วบนเครือข่าย AIS 5G สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 314 Mbps อัพโหลดได้ความเร็ว Mbps ถือว่าทำความเร็วได้น่าประทับใจ
*ความเร็วอินเตอร์เน็ตบนเครือข่าย 5G ขึ้นอยู่กับพื้นที่ และความหนาแน่นในการใช้งานในขณะนั้น
ในการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของ Galaxy A23 5G ด้วยแอพฯ Antutu เวอร์ชั่น 9.4.4 ที่เราใช้ทดสอบสมาร์ทโฟนเป็นมาตรฐานประจำแล้วสามารถทำได้ 396,209 คะแนน
และสำหรับแอพฯ Geekbench 5 ทำคะแนน Single-Core ได้ 667 คะแนน ส่วน Multi-Core 1913 คะแนน
ในการเล่นเกมนอกจากจะดาวน์โหลดเกมต่างๆ ได้จาก Play Store หรือ Galaxy Store แล้ว ยังสามารถเล่นเกมได้จาก Game Launcher ซึ่งเป็นศูนย์รวมเกมต่างๆ ที่มีอยู่ในเครื่อง และยังมีเกมแบบ Instant Plays ที่ไม่ต้องดาวน์โหลดมาเก็บไว้ในหน่วยเครื่อง สามารถเล่นได้บน Cloud ได้ทันที
จากการทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile ที่เราใช้ทดสอบเป็นประจำ สามารถปรับภาพกราฟฟิคไปได้ที่ระดับ HD ส่วนเฟรมเรทก็สามารถปรับได้ที่ระดับ High ก็สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด บนหน้าจอที่สามารถแสดงผลได้ถึง 120 Hz
กล้องหลัง Quad-Camera 50 ล้านพิกเซล
กล้องถ่ายภาพด้านหลังยังคงเหมือนกับสีอื่นๆ ที่วางจำหน่ายก่อนหน้านี้ ไม่ได้มีการอัพเกรดอะไรเพิ่มเติม โดยกล้องหลังที่มีมาให้ถึง 4 เลนส์ สามารถถ่ายได้ครบทุกระยะ ตั้งแต่ระยะใกล้ด้วยกล้องเลนส์ Macro ถ่ายมุมกว้างด้วยกล้องเลนส์ Ultra-wide ซูมภาพแบบดิจิตอลได้สูงสุด 10 เท่า สำหรับสเป็คกล้องทั้งหมดมีดังนี้
- กล้องหลัง 4 เลนส์
- กล้องเลนส์ Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8
- กล้องเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2 มุมกว้าง 123 องศา
- กล้องเลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- กล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ของ Galaxy A23 5G มีความละเอียดสูงสุดที่ 50 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันสั่น OIS (Optical Image Stabilization) ช่วยไม่ให้ภาพสั่นไหวขณะถ่ายภาพนิ่ง และวิดีโอ ซูมภาพแบบดิจิตอลได้สูงสุด 10 เท่า สำหรับการถ่ายภาพปกติ กล้องจะทำการปรับความละเอียดให้โดยอัตโนมัติเหลือ 12.5 ล้านพิกเซล แต่ยังคงใช้เซ็นเซอร์ 50 ล้านพิกเซลเช่นเดิม โดยการนำเอา 4 พิกเซลรวมเป็นพิกเซลเดียว ทำให้เก็บแสง และสีสันได้มากยิ่งขึ้น แต่หากต้องการถ่ายภาพที่ความละเอียดสูงสุดเต็มที่ 50 ล้านพิกเซลก็สามารถเลือกถ่ายได้ ส่วนกล้องเลนส์ Ultra wide ที่มีมุมกว้างถึง 123 องศา เหมาะกับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ หรือการถ่ายภาพหมู่ ทำให้เก็บภาพได้มุมกว้างมากยิ่งขึ้น
สำหรับกล้องเลนส์ Depth จะเข้ามาช่วยละลายฉากหลังในการถ่ายภาพ Portrait สามารถเลือกปรับระดับความเบลอของฉากหลังได้ 7 ระดับเลือกปรับความเบลอของฉากหลังได้จากภาพที่ถ่ายมาแล้วด้วยเอฟเฟ็คท์ต่างๆ แต่หากการถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าก็สามารถละลายฉากหลังได้ด้วยเช่นกันด้วยกล้องหน้าเพียงเลนส์เดียว โดยอาศัยหน่วยประมวลผลภาพและระบบ AI เข้ามาช่วย ส่วนเลนส์ Macro ก็เหมาะกับการถ่ายภาพในระยะใกล้ประมาณ 3-5 ซม. ช่วยเปิดมุมมองที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ส่วนการถ่ายภาพในโหมดอื่นๆ ก็มีให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น Panorama, Food, Night, Super Slow-Mo 120 เฟรมต่อวินาที, และโหมด Pro
แบตอึด 5000 mAh, Super Fast Charging 25 วัตต์
ตัวเครื่องที่ดูมีขนาดค่อนข้างบาง แต่อัดมาด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5000 mAh ถือว่ามีความจุมากกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ มาพร้อมระบบจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ และหน่วยประมวลผลก็ยังใช้พลังงานต่ำ สามารถใช้งานได้นานหลายวัน ตัวเครื่องยังรองรับการชาร์จเร็ว Super Fast Charging ด้วยอแดปเตอร์กำลังไฟสูงสุด 25 วัตต์ สามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็วเพียง 1 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น
บทสรุปรีวิว Samsung Galaxy A23 5G จากความเห็นของ What Phone
เป็นสีใหม่ที่โดนใจจริงๆ ตัวเครื่องสีเงิน Silver Bright ที่ดูเรียบๆ เมื่อโดนแสงแดดจ้าในตอนกลางวัน แต่เมื่อเข้าสู่ที่มืด หรือในร่มจะเผยให้เห็นสีรุ้งสะท้อนแสงออกมสวยงามมาก ไม่ว่าจะมุมไหนก็มีสีสวยๆ ออกมาให้ได้เห็น สำหรับการใช้งานถือว่าตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ชอบหน้าจอใหญ่ๆ ใช้งานสะดวก จะดูหนัง เล่นเกมก็มองเห็นได้เต็มตา หน้าจอลื่นไหลด้วย Refresh rate 120 Hz หน่วยประมวลผลอาจจะไม่ได้เร็วแรงเท่ารุ่นใหญ่ แต่จากการใช้งานจริงก็ไม่ได้อืดอาดอย่างที่คิด ถือว่าเร็วใช้ได้เลยทีเดียว ส่วนราคาเปิดตัวที่ไม่ถึงหมื่น เพียง 9,999 บาท ถือว่าคุ้มค่าเลยทีเดียวกับราคานี้
สรุปสเป็ค Samsung Galaxy A23 5G
- ขนาด 165.4 x 76.9 x 8.4 มม. นัำหนัก 197 กรัม
- รองรับเครือข่าย 3G, 4G LTE และ 5G
- หน้าจอ PLS LCD Infinity-V Display ความละเอียด FHD+ ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2408 พิกเซล
- แสดงผลด้วยอัตรา Refresh rate 120 Hz
- หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 695 5G Octa-core ความเร็ว 2.2 GHz, GPU Adreno-619
- ระบบปฏิบัติการ Android 12, ครอบทับด้วย OneUI 4.1
- หน่วยความจำ RAM 8 GB, ROM 128 GB
- เพิ่มการ์ดหน่วยความจำ microSD ได้สูงสุด 1 TB
- กล้องหลัง 4 เลนส์
- กล้องเลนส์ Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8
- กล้องเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2 มุมกว้าง 123 องศา
- กล้องเลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- กล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
- กล้องถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด FullHD 1080p 30 เฟรมต่อวินาที ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง
- ปลดล็อคด้วยเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง และใบหน้า
- แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับการชาร์จ 25 วัตต์
- เชื่อมต่อ WiFi b/g/n/ac ความถี่ 2.4 และ 5 GHz, Bluetooth 5.1
- มีให้เลือก 3 สี Black, Light Blue และสีใหม่ Silver Bright
- ราคาเปิดตัว 9,999 บาท
ช่องทางวางจำหน่าย
Samsung Galaxy A23 5G สีใหม่ Sliver Bright วางจำหน่ายในราคา 9,999 บาท สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่านช่องทาง Official ของทาง Samsung ได้ที่ https://www.facebook.com/SamsungThailand และ https://www.samsung.com/th
ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพจากกล้องหลัง