เป็นธรรมเนียมของทุกปีที่ทาง Samsung จะเปิดตัว Samsung A Series ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากผู้ใช้เป็นอย่างดี เพราะด้วยราคาที่ไม่แพง ดีไซน์สวยงาม สเป็คไม่ได้เป็นรองใคร และศูนย์บริการที่มีทั่วประเทศ จึงทำให้ Samsung Galaxy A Series ครองใจมหาชนคนไทย และตอนนี้เราได้ Samsung Galaxy A51 มาทดสอบใช้งานจริง จะเป็นอย่างไรนั้น มาดูกันได้เลยครับ
แกะกล่องลองเล่น Samsung Galaxy A51
เครื่องที่เราได้มาทดสอบเป็นสี Prism Crush Pink ซึ่งเป็นสีที่มีเฉพาะใน A51 เท่านั้น อาจจะเป็นเพราะรุ่นนี้มีขนาดเล็กที่เหมาะกับผู้หญิง จึงมีสีชมพูมาให้เป็นตัวเลือก และยังมีสีอื่นๆ ให้เลือกไม่ว่าจะเป็น Prism Crush Blue และ Prism Crush Black โดยที่หน้ากล่องจะมีรูปสีของรุ่นนั้นๆ ระบุไว้บนกล่อง และอุปกรณ์ที่มีมาให้ในกล่องก็ถือว่ามีมาให้อย่างครบครัน ไม่ต้องเสียเงินซื้ออะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว โดยมีอุปกรณ์ตามมาตรฐานมาให้ดังนี้
- Samsung Galaxy A51 สี Prism Crush Pink
- อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่กำลังไฟ 15 วัตต์
- สายชาร์จแบบ USB-C
- ชุดหูฟังสมอลล์ทอล์ค
- เคสใสแบบ TPU
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
- คู่มือการใช้งาน
สำหรับรุ่นนี้มีหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.5 นิ้วโดยใช้จอภาพแบบ Super AMOLED ที่ขึ้นชื่อเรื่องการให้สีสันที่สวยงามสมจริง ความละเอียด FHD+ (1080 x 2400 พิกเซล) กล้องแบบเจาะรูที่หน้าจอส่วนบนที่ Samsung เรียกว่า Infinity-O Display และส่วนล่างของหน้าจอยังฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ที่ใต้จอแสดงผลอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถเปิดใช้งาน Always on Display ที่จะแสดงนาฬิกา รูปภาพ และการแจ้งเตือนต่างๆ บนหน้าจอตลอดเวลา ซึ่งจะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่มาแสดงผลส่วนนี้น้อยมาก จึงไม่จำเป็นต้องเปิดโทรศัพท์บ่อยๆ
ด้านหลังของเครื่องเป็นเป็นสีชมพู ซึ่งจะมีลวดลายเส้นสายแบบเลขาคณิต และยังสะท้อนแสงที่ตกกระทบเป็นสีรุ้งดูสวยงาม ส่วนเลนส์รับภาพทั้ง 4 เลนส์และไฟแฟลช LEDจะรวมอยู่ในกรอบสีดำที่นูนขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งหากใส่เคสที่มีมาให้ในกล่องก็จะช่วยป้องกันการขูดขีดเมื่อวางบนพื้นโต๊ะได้
ด้านข้างซ้ายมีช่องใส่ถาดซิมการ์ด ซึ่งเป็นถาดแบบ 3 ช่อง แบ่งเป็นช่องใส่ซิมการ์ด SIM1 และ SIM2 ส่วนช่องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD ก็มีแยกมาให้ต่างหาก ไม่ต้องสลับซิมการ์ดกับการ์ดหน่วยความจำ ส่วนด้านข้างขวามีปุ่มปรับระดับเสียง และเปิดปิดเครื่องที่ทำหน้าที่เป็นปุ่ม Bixby ไปด้วยในตัวเหมือนกับ Samsung รุ่นใหม่ๆ ที่รวมทั้งสองปุ่มเข้าด้วยกัน
ด้านบนของตัวเครื่องมีเพียงไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และด้านล่างก็มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม., ช่องเสียบสายชาร์จแบตตอรี่แบบ USB-C, ช่องไมโครโฟน และช่องลำโพงของตัวเครื่อง
รุ่นแรกของ A Series กับ OneUI 2.0 บนระบบปฏิบัติการ Android 10
ถือเป็นรุ่นแรกๆ ที่ Galaxy A Series ที่มาพร้อมกับ OneUI เวอร์ชั่น 2.0 บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ไม่ว่าจะเป็น A51 รุ่นนี้ และ A71 ซึ่งก่อนหน้านี้จะเป็น OneUI 1.0 บน Android 9 ซึ่งปรับปรุงระบบการแสดงผล การเปลี่ยนหน้าจอไปมาระหว่างเมนู ทำให้การแสดงผลลื่นไหลขึ้น ไม่กระตุก รวมถึงหน้าตาเมนูที่ดูเข้าที่เข้าทางมากกว่าเดิม โดยเฉพาะการแจ้งเตือนที่ไม่บดบัง และไม่รบกวนการใช้งาน ทั้งการดูภาพยนตร์ หรือเล่นเกม โดยจะมีป๊อปอัพแจ้งเตือนเล็กๆ ให้ทราบ และยังสามารถปรับเมนูให้เป็นแบบ Dark mode ที่จะช่วยปรับพื้นหลังของเมนูต่างๆ จากสีขาวให้เป็นสีดำ ซึ่งนอกจากจะช่วยถนอมสายตาแล้ว ยังช่วยประหยัดแบตเตอรี่อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่จะช่วยเก็บข้อมูล และจัดการระยะเวลาการใช้งานในแต่ละวันให้เหมาะสม
หน่วยประมวลผลที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมการใช้งานทุกระดับ
หน่วยประมวลผลของรุ่นนี้ใช้ชิพเซ็ต Exynos 9611 Octa-core ความเร็ว 2.3 GHz ที่ปรับปรุงการทำงานจากรุ่นก่อนให้เร็วขึ้น แรงขึ้น แต่ใช้พลังงานน้อยลง และยังมาพร้อมหน่วยความจำ RAM 6 GB และ ROM 128 GB เพิ่มการ์ดหน่วยความจำภายนอกได้อีกด้วย microSD สูงสุด 512 GB โดยไม่ต้องถอด SIM2 ออกเหมือนรุ่นอื่นๆ สำหรับการทดสอบด้วยแอพฯ Antutu Benchmark ที่เราทดสอบกับมือถือแอนดรอยด์ทุกรุ่นพบว่ารุ่นนี้ทำคะแนนได้ที่ 188755 คะแนน ถือว่าทำได้ในระดับกลางๆ จะใช้งานทั่วไปอัพเดทโซเชียล ดูหนังฟังเพลง หรือเล่นเกมก็ยังคงทำได้ดี โดยจากการทดสอบเปิดเกม PUBG Mobile ซึ่งเป็นเกมที่ใช้ภาพกราฟฟิคค่อนข้างหนัก ผลปรากฎว่าตัวเกมก็แนะนำให้ปรับภาพกราฟฟิคไปที่ระดับสูงสุด ซึ่งก็เล่นได้ลื่นไหล ไม่กระตุก อาจจะเป็นด้วยเพราะระบบ Game booster ที่ตัดการทำงานเบื้องหลังของแอพฯ ที่ไม่จำเป็นออกไป และจัดสรรทรัพยากรของเครื่องไม่ว่าจะเป็นหน่วยประมวลผล หรือหน่วยความจำมาใช้สำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ และจากการทดสอบทั้งหมดถือว่าทำได้น่าประทับใจกับสเป็คในราคาเพียงหมื่นนิดๆ เท่านั้นเอง
ถ่ายภาพสวยด้วยเลนส์ 4 ตัว คมชัดทุกระยะ
ถึงแม้ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลาง แต่ Samsung ก็จัดเต็มกล้องมาให้ถึง 4 ตัวด้วยกัน ซึ่งแต่ละเลนส์ก็มีระยะถ่ายภาพที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นเลนส์กล้องหลักแบบ Wide ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล F/2.2, เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.4 มุมกว้าง 120 องศา, เลนส์ Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.2 และเลนส์ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.4 ซึ่งสามารถถ่ายภาพได้ใกล้สุดเพียง 4 ซม. เท่านั้น สำหรับโหมดการถ่ายภาพที่น่าสนใจของรุ่นนี้ก็ยังคงมี Live Focus มาให้ ซึ่งจะทำให้ภาพบุคคล หรือวัตถุดูโดดเด่นด้วยการเบลอฉากหลัง, การถ่ายภาพ Macro, Panorama, Pro, Food, Night, Hyperlapse
ในโหมดถ่ายวิดีโอนั้นจะมีโหมด AR Doodle มาให้ด้วย ซึ่งสามารถวาดภาพบนหน้าจอขณะถ่ายวิดีโอได้ ซึ่งภาพนั้นก็จะติดอยู่ที่หน้าของคน หรือวัตถุที่ถ่ายตลอดเวลา ถึงแม้ว่าจะเคลื่อนที่หรือแพนกล้องไปทางไหนก็ตาม เอาไว้เล่นกับเพื่อนสนุกๆ ได้ และนอกจากนี้ยังมี Super Steady ที่จะช่วยให้การถ่ายวิดีโอได้ภาพที่นิ่งมากขึ้น ส่วนความละเอียดก็สามารถปรับไปได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ส่วนการถ่ายภาพเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าก็สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงถึง 32 ล้านพิกเซล พร้อม Live Focus ที่ช่วยเบลอพื้นหลังให้ด้วย
ปลดล็อคเครื่องด้วย On-Screen Finger print และใบหน้า
การปลดล็อคใช้งานของ Galaxy A51 ได้ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอ สะดวกเมื่อต้องการปลดล็อคเครื่อง หรือทำธุรกรรมต่างๆ ที่ต้องยืนยันตัวตน สามารถบันทึกลายนิ้วมือได้ 4 นิ้ว แต่นิ้วมือที่ปลดล็อคได้สะดวกที่สุดคือนิ้วโป้ง ซึ่งจากการทดสอบถือว่าทำได้ดีกว่ารุ่นก่อนๆ และปลดล็อคได้รวดเร็วมากกว่าเดิม นอกจากนี้หากไม่สะดวกที่จะปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือก็สามารถปลดล็อคด้วยใบหน้าก็ได้เช่นกัน ซึ่งก็ทำได้สะดวกและรวดเร็วมากๆ แต่มีข้อเสียตรงที่ไม่สามารถปลดล็อคด้วยใบหน้าเมื่ออยู่ในที่มืด หรือมีแสงน้อยเท่านั้นเอง
บทสรุป Samsung Galaxy A51 ในความคิดเห็นของ What Phone
จากการทดสอบใช้งานจริงพบว่ารุ่นนี้สามารถพกพาได้สะดวกมากๆ ตัวเครื่องมีขนาดกระทัดรัด เบา บาง รองรับการใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม และในด้านการถ่ายภาพก็ทำได้น่าประทับใจ สามารถถ่ายภาพได้ทุกระยะทั้ง Ultra wide ไปจนถึงการถ่ายภาพแบบระยะใกล้ด้วยเลนส์ Macro อีกทั้งราคาเปิดตัวยังไม่แพงมากเพียง 10,490 บาทเท่านั้นเอง ซึ่งอาจจะเห็นบางร้านขายต่ำกว่าหมื่นก็มี อย่างไรก็ดีเราคิดว่ารุ่นนี้มีดีทั้งดีไซน์ กล้องถ่ายภาพ ฟังก์ชั่นการใช้งานก็มีมาให้อย่างครบครัน ซึ่งหากต้องการเปลี่ยนมือถือหรือหาเครื่องที่มีราคาคุ้มค่า รุ่นนี้ตอบโจทย์ได้ครบเลยล่ะ
สรุปสเป็ค Samsung Galaxy A51
- หน้าจอ Super AMOLED Infinity-O Display ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+
- มีระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
- ตัวเครื่องขนาด 158.5 x 73.6 x 7.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 172 กรัม
- หน่วยประมวลผล Exynos 9611 Octa-core
- หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G72
- หน่วยความจำภายใน : 128 GB, RAM : 6 GB
- กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียดหลัก 32 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง 4 เลนส์
- เลนส์หลัก ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/2.0
- เลนส์ มุมกว้าง Ultra wide 123 องศา ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.4
- เลนส์ Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.2
- เลนส์ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.4
- แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 15 วัตต์ สายแบบ USB-C
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย OneUI 2.0
- ราคา 10,490 บาท
ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพจากกล้องหลัง