“หมอระบบทางเดินอาหารคือใคร และเมื่อไรควรไปพบ ?”
ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดท้อง ท้องอืด อาหารไม่ย่อย หรืออาการรุนแรงกว่านั้น เช่น ท้องเสียเรื้อรัง หรือเลือดออกทางทวารหนัก เมื่อเกิดอาการเหล่านี้ขึ้น หลายคนมักจะสงสัยว่าควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านใดดีคำตอบก็คือ “แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหาร” หรือที่เรียกกันติดปากว่า “หมอระบบทางเดินอาหาร” นั่นเอง
บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับหมอระบบทางเดินอาหารให้มากขึ้น ว่าทำหน้าที่อะไรบ้าง สำคัญอย่างไร และเมื่อไรที่เราควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ เพื่อดูแลสุขภาพระบบทางเดินอาหารให้แข็งแรง
หมอระบบทางเดินอาหารคือใคร ?
หมอระบบทางเดินอาหาร หรือ Gastroenterologist เป็นแพทย์ที่ได้รับการฝึกอบรมเฉพาะทางในการวินิจฉัยและรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร ซึ่งรวมถึงหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ตับ ตับอ่อน และถุงน้ำดี โรคที่พบได้บ่อยในระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคกระเพาะอาหาร โรคกรดไหลย้อน โรคลำไส้ใหญ่รั่ว โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และโรคตับอักเสบ เป็นต้น
หมอระบบทางเดินอาหารทำหน้าที่อะไรบ้าง ?
- วินิจฉัยโรค : แพทย์จะซักประวัติ ตรวจร่างกาย และสั่งตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจเลือด การตรวจอุจจาระ การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ เพื่อหาสาเหตุของอาการต่าง ๆ ที่ผู้ป่วยเป็นอยู่
- รักษาโรค : เมื่อทราบสาเหตุของโรคแล้ว แพทย์จะรักษาโดยใช้ยา การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของโรค
- ให้คำแนะนำ : แพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การรับประทานอาหาร และการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อป้องกันไม่ให้โรคกลับมาเป็นซ้ำ
เมื่อไรควรไปพบหมอระบบทางเดินอาหาร ?
ควรไปพบแพทย์เมื่อมีอาการดังต่อไปนี้
- ปวดท้องเรื้อรัง : ปวดท้องนานเกิน 2 สัปดาห์ หรือปวดท้องรุนแรง
- ท้องอืด : ท้องอืดบ่อยและไม่หายไป
- อาหารไม่ย่อย : อาหารไม่ย่อยบ่อยและมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน
- ท้องเสียเรื้อรัง : ท้องเสียเกิน 2 สัปดาห์
- ท้องผูกเรื้อรัง : ท้องผูกบ่อยและอุจจาระแข็ง
- เลือดออกทางทวารหนัก : มีเลือดปนในอุจจาระ หรือเลือดออกทางทวารหนัก
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ : น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วและไม่มีสาเหตุอื่น ๆ
- ปวดท้องตอนกลางคืน : ปวดท้องรุนแรงตอนกลางคืน และตื่นขึ้นมาเพราะความเจ็บปวด
การรักษาโรคทางเดินอาหาร
การรักษาโรคทางเดินอาหารขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของโรค โดยแพทย์อาจใช้ยา การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือการผ่าตัดรักษา
- การใช้ยา : ยาที่ใช้รักษาโรคทางเดินอาหาร เช่น ยาลดกรด ยาห้ามเลือด ยาปฏิชีวนะ
- การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม : การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การเลิกสูบบุหรี่ การหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด การออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- การผ่าตัด : การผ่าตัดจะใช้ในกรณีที่โรครุนแรง หรือการรักษาด้วยยาไม่สามารถควบคุมอาการได้
หมอระบบทางเดินอาหารมีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพระบบทางเดินอาหารของเรา ดังนั้น หากคุณมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้องทันที ก็จะช่วยให้มีสุขภาพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้