Tips & Tricks

Galaxy S8 Tips : 7 วิธีตั้งค่าประหยัดพลังงานให้ Battery อยู่ได้นานขึ้น

มาดูวิธีการตั้งค่าบน Galaxy S8 และ S8+ เพื่อประหยัดพลังงานให้ Battery อยู่ได้นานขึ้น เป้นการเอาตัวรอดจากสถาณการ์ณเมื่อแบตเหลือน้อย ให้อยู่รอดตลอดไปจนถึงบ้าน

สำหรับบทความนี้จะเป็นการสอนการตั้งค่าบนสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Samsung Galaxy S8 และ S8 plus ที่มาพร้อมฟีเจอร์ล้ำๆ ทำให้การใช้งานนั้นซดแบตเตอรี่แบบไม่เกรงใจกันเลยทีเดียว งานนี้ดูเหมือนว่าขนาดแบตเตอรี่ที่ให้มาจะไม่มากพอสักเท่าไหร่เมื่อใช้งานจริง วันนี้แอดมินเลยเอาวิธีที่จะช่วยเซฟแบตให้ใช้ได้นานขึ้นมาฝากเพื่อนๆกันค่ะ ไปดูวิธีกันเล้ยยยยยย!

1. เปิดPower Saving Mode

Battery

สำหรับวิธีนี้ก็เป็นวิธีที่ง่ายสุดๆ ไม่ต้องทำอะไรเยอะแค่เปิดโหมดนี้ชีวิตก็เปลี่ยน ฮ่าาาาาา เว่อไปอีก … คืองี้ เจ้า S8 เนี่ย อย่างที่ได้เห็นตามโฆษณาที่ทางซัมซุงเค้าเคลมไว้ว่า มาพร้อมกับโหมดประหยัดพลังงานสองโหมด ซึ่งจะทำการตั้งค่าแบบอัตโนมัติให้เหลือเฉพาะสื่งที่จำเป็นด้วยการเปิด พาวเวอร์ เซฟวิ่งโหมด เพื่อลดการใช้พลังงานแบตเตอรี่ให้น้อยลงและเครื่องสามารถสแตนบายได้ยาวนานขึ้น

ซึ่งพอเราเปิดเข้ามาที่โหมดนี้ปุ้บก็จะมีให้เลือกโหมดได้ 2 โหมดคือ MID (Medium Power Saving) และ MAX (Maximun Power Saving Mode) ซึ่งมันสามารถปรับแต่งเองได้ตามความต้องการเลยและมีความรวดเร็วในการตั้งค่าเพื่อประหยัดพลังงานมากๆ สำหรับโหมด MAX คือ โหมดที่ควรเลือกเมื่อจำเป็นต้องประหยัดแบตเตอรี่ในขณะที่หาที่ชาร์จโทรศัพท์ไม่ได้ไม่ได้เป็นเวลานาน เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ได้เมื่อเวลาที่ต้องการจริงๆ  ส่วนโหมด MID ทำงานเพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ให้อยู่ได้นานขึ้นอีกประมาณหนึ่งหรือสองชั่วโมง

  • โหมดประหยัดพลังงาน MID : จะเป็นโหมดประหยัดพลังงานปกติซึ่งควรทำในกรณีส่วนใหญ่ ลดความสว่างหน้าจอสูงสุด 10 เปอร์เซ็นต์ จำกัด ความเร็ว CPU ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของความเร็วสูงสุดที่เป็นไปได้ปิดใช้งานแอปพลิเคชันจากการใช้ Wi-Fi หรือข้อมูลมือถือในพื้นหลัง และปิดฟีเจอร์ Always On Display แต่ความละเอียดหน้าจอยังตั้งไว้ที่ FHD + (2220 × 1080) ซึ่งเป็นความละเอียดปกติที่ตั้งค่ามาแต่แรกอยู่แล้ว
  • โหมดประหยัดพลังงาน MAX  : คือโหมดประหยัดพลังงานแบบอัลตร้าซึ่งมีในรุ่นก่อนหน้านี้อยู่แล้ว และปิดการใช้งานที่ไม่จำเป็นเช่นเดียวกับโหมด MID ในขณะที่ลดความละเอียดของหน้าจอลงไปที่ HD + นอกจากนี้ยังปิดใช้งานแอพฯทั้งหมด แต่ความเจ๋งของโหมด MAX อยุ่ที่ ยังสามารถเรียกใช้งาน Facebook, WhatsApp และ Gmail เท่านั้น และแอพฯอื่น ๆ ที่ซัมซุงจัดหาให้ ซึ่งโหมดนี้จะใช้ธีมสีเข้มซึ่งช่วยประหยัดพลังงานในการแสดงผลนั่นเอง

วิธีการตั้งค่า

ขั้นตอนที่ 1: ไปที่ Settings » Device maintenance » Battery menu.

ขั้นตอนที่ 2: แตะที่ปุ่ม MID หรือ MAX ขึ้นอยู่กับโหมดประหยัดพลังงานที่เพื่อนๆต้องการจะเปิดใช้งาน จากนั้นโทรศัพท์จะแสดงรายการการเปลี่ยนแปลงที่จะทำในโหมดที่เพื่อนๆ เลือกและประมาณคร่าวๆว่าโทรศัพท์ของเพื่อนๆจะมีอายุการใช้งานนานเท่าไร

ขั้นตอนที่ 3: ที่นี่ให้กดปุ่ม Apply และรอให้เปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงาน ถ้าต้องการปรับแต่งโหมดก่อนอื่นเพียงแค่กดปุ่มปรับแต่งแล้วทำการเปลี่ยนแปลงจากนั้นกดปุ่ม Apply เพื่อเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงาน

เมื่อเปิดใช้โหมดประหยัดพลังงาน เพื่อนๆ สามารถปิดใช้งานได้จากหน้าต่างการแจ้งเตือนโดยลากหน้าต่างการแจ้งเตือนลงล่างสองครั้ง นอกจากนี้เพื่อนๆ ยังสามารถเข้าไปเปิด-ปิดการใช้งานโหมดประหยัดพลังงานได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องไปที่เมนูการตั้งค่า โดยจะเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงานครั้งสุดท้ายเสมอดังนั้นหากใช้โหมด MAX เป็นครั้งสุดท้ายระบบจะเปิดใช้งานโหมด MAX หากต้องการเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น เพียงแค่เข้าไปที่เมนูแบตเตอรี่ในการตั้งค่าและเปิดใช้งานโหมดประหยัดแบตเตอรี่อื่นๆที่เพื่อนๆต้องการได้เลยค่ะ

2. ปิดการแสดงผล Always On Display หรือตั้งค่าให้แสดงเฉพาะช่วงเวลา

สำหรับตัวเลือกถัดมาหากเพื่อนๆไม่อยากใช้การประหยัดแบตเตอรี่แบบเปิดโหมดประหยัดพลังงาน ก็สามารถใช้วิธีอื่นๆได้ อาทิเช่น การปิดแอพฯบางแอพฯ หรือตั้งค่าให้มันทำงานบางช่วงเวลาก็ได้

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่สามารถทำได้ คือ ปิดการใช้งาน AOD (Always On Display) โหมดนี้คือโหมดการประหยัดพลังงาน แต่เพื่อนๆ สามารถปิดแยกกันได้หากไม่ต้องการใช้โหมดเหล่านี้ แต่ถ้าไม่ต้องการปิดการใช้งาน AOD เพื่อนๆ ก็สามารถตั้งค่าจำกัดเวลาในการทำงานได้เช่นกันค่ะ

วิธีการตั้งค่า

ขั้นตอนที่ 1: ไปที่เมนูการตั้งค่าตามด้วย Lock screen and security ถ้าต้องการปิดใช้งาน AOD สิ่งที่ต้องทำก็คือกดสวิตช์ที่อยู่ถัดจาก Always On Display และตั้งค่าให้ปิด แค่นั้นแหละ. ในการกำหนดค่า AOD ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

ขั้นที่ 2: ภายในหน้าจอ Lock screen and security แตะที่ข้อความที่ระบุว่า Always On Display เพื่อเข้าสู่การตั้งค่า

ขั้นตอนที่ 3: ตั้งเวลาที่จะใช้งานปิดใช้งานตัวเลือก Show Always ตัวเลือกที่ชื่อ Set schedule จะปรากฏขึ้นด้านล่าง

ขั้นตอนที่ 4: แตะที่ Set schedule จากนั้นตั้งเวลาเริ่มต้นและเวลาสิ้นสุดสำหรับ AOD สามารถตั้งค่านี้ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ

3.ลดความสว่างของหน้าจอ

 

หน้าจอขนาดใหญ่และสวยงามของ Infinity  Display นั้น อย่างที่ทราบกันดี มันเป็นส่วนที่ใช้พลังงานมากที่สุดสำหรับ Galaxy S8 และ S8 + ดังนั้นจึงควรปรับให้ความสว่างหน้าจออยู่ในระดับต่ำ เพื่อประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ และยังสามารถปิดการใช้งานความสว่างอัตโนมัติได้เพื่อให้โทรศัพท์ไม่สามารถปรับความสว่างได้ตลอดเวลาตามแสงแวดล้อม อย่างไรก็ตามปัญหานี้อาจเป็นปัญหาหากตั้งค่าความสว่างต่ำเกินไปและบังเอิญมีความจำเป็นต้องออกไปข้างนอกในระหว่างวัน ก็อาจจะทำให้หาเมนูการตั้งค่าความสว่างได้ยากหน่อยเพราะจอมันจะมืดมาก แนะนำว่าไม่ควรตั้งต่ำจนเกินไป

วิธีการตั้งค่า

หากต้องการเปลี่ยนความสว่างเพื่อนๆสามารถทำได้ง่ายดายโดยลากนิ้วจากด้านบนจอ (หน้าต่างแจ้งเตือน) ลงมาสองครั้ง จะเห็นแถบเมนูการปรับความสว่างก็ให้เอาออโต้ออกแล้วลดความสว่างลงให้เหลือต่ำกว่าครึ่งนึงก็พอค่ะ 

4.ลดความละเอียดของหน้าจอ

 

ในส่วนนี้จะเป็นการปรับความละเอียดหน้าจอให้ต่ำลงเพื่อช่วยประหยัดพลังงานในการใช้แบตเตอรี่ อย่างที่เราทราบกันว่าจอยิ่งละเอียดการประมวยผลก็ยิ่งทำงานหนักตามไปด้วย พอทำงานหนักไปด้วยก็กินพลังงานมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงจะเป็นต้องตั้งค่าความละเอียดให้น้อยลงเพื่อประหยัดพลังงานได้มากขึ้น โดยความละเอียดหน้าจอที่ตั้งมาปกติ คือ FHD+ (2220×1080) ซึ่งเราสามารถปรับลดลงมาได้อีกหนึ่งสเต็ปคือ HD+ (1480×720) ก็จะช่วยประหยัดได้เยอะเลยทีเดียวค่ะ

วิธีการตั้งค่า

ขั้นตอนที่ 1: ไปที่เมนูการตั้งค่า Settings » เลือก Display menu

ขั้นตอนที่ 2: ที่นี่ให้เลือกไปที่ » Screen resolution จากนั้นใช้แถบเลื่อนเพื่อกำหนดความละเอียดเป็น HD + หรือ FHD + (ในกรณีถ้าตั้งค่าให้เป็น WQHD +) เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยค่ะ 

5. ตั้งค่าให้แอพฯที่กินแบตฯ อยู่ในโหมด Sleep และไม่มาทำงานอยู่เบื้องหลัง 

ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือของซัมซุงที่ออกมาใหม่ๆ ก็มักจะมาพร้อมกับคุณสมบัติการตรวจหาอัตโนมัติ สำหรับแอพฯ ที่ใช้พลังงานมากเกินไปหรือแอพฯที่ทำงานอยู่เบื้องหลังตลอดเวลา และจะเริ่มปิดแอพฯ ที่ไม่ได้ใช้ให้อยู่ในโหมด Sleep อย่างน้อยสามวันโดยที่แอพฯเหล่านี้จะไม่ใช้ข้อมูลแบ็กกราวด์จนกว่าเพื่อนๆจะทำการเปิดแอพลิเคชันเหล่านี้ขึ้นมาใหม่ด้วยตนเองอีกครั้ง

วิธีการตั้งค่า

ขั้นที่ 1: ไปที่  Settings » Device maintenance » Battery menu.

ขั้นที่ 2: ที่นี่ก็จะเห็นส่วนของจอภาพการตรวจสอบแอพฯดังในภาพ ภายใต้ส่วนนี้จะแสดงรายการแอพฯทั้งหมดที่ยังทำงานในแบ็กกราวน์พร้อมกับปริมาณแบตเตอรี่ที่ใช้อยู่ หากต้องการปิดแอพฯลงในโหมดสลีปให้แตะที่แอพฯเพื่อเลือก

ขั้นตอนที่ 3: เลือกแอพฯ ทั้งหมดที่ต้องการ ตรงนี้สามารถเลือกหลายคนหรือเพียงหนึ่งเดียวจากนั้นให้กดปุ่ม Save Power

การดำเนินการนี้จะทำให้แอพฯทั้งหมดที่เลือก อยู่ในโหมด Sleep และป้องกันไม่ให้แอพฯทำงานในพื้นหลังจนกว่าเพื่อนๆจะเปิดแอปพลิเคชันเหล่านั้นด้วยตัวเอง เมื่อเปิดแอพฯด้วยตัวเองแล้ว จะต้องปิดแอพฯให้อยู่ในโหมดสลีปอีกครั้ง แอพฯส่วนใหญ่ไม่ควรใช้แบตเตอรี่มากกว่า 0.5 เปอร์เซ็นต์ ถ้าใช้เกินกว่านี้จะมีการแจ้งเตือนว่า ขณะนี้มีแอพฯ ที่กำลังซดแบตอยู่ หากต้องการจะปิดให้มันอยู่ในโหมด Sleep ก็ให้ทำการกด Save Power ได้เลย

6. ปิดใช้งานการเชื่อมต่อต่างๆ เช่น Bluetooth, GPS และ Wi-Fi

อีกวิธีหนึ่งในการประหยัดแบตเตอรี่คือปิดการใช้งานการเชื่อมต่อต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้เป็นประจำ ตัวอย่างเช่น ไม่ได้ใช้การนำทางเสมอดังนั้นจึงสามารถปิด GPS ได้เมื่อไม่จำเป็น เช่นเดียวกันกับ Wi-Fi และข้อมูลมือถือ เพื่อนๆสามารถปิดการใช้งานได้เมื่อไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และอีกการเชื่อต่อที่ค่อยข้างกินพลังงาน Bluetooth ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถปิดได้ เพราะเราไม่ได้จำเป็นต้องใช้บ่อยขนาดนั้นนอกจากจะเชื่อมต่อหูฟังไรสสายเป็นประจำๆก็อาจจะปิดไม่ได้นั่นเอง 

คุณลักษณะการเชื่อมต่อทั้งหมดนี้สามารถสลับและปิดได้จากหน้าต่างแจ้งเตือนดังนั้นจึงไม่ต้องใช้เวลามากนัก สำหรับ Wi-Fi และ Bluetooth ควรปิดใช้ตัวเลือกที่ทำให้โทรศัพท์สแกนหาเครือข่าย Wi-Fi และอุปกรณ์ Bluetooth แม้ว่าจะตั้งค่าคุณสมบัติทั้งสองไว้เพื่อให้สามารถตรวจจับตำแหน่งได้ดีขึ้นก็ตาม ซึ่งสามารถทำได้จากการ Settings » Connections » Location » Improve accuracy menu ที่นี่เพียงสลับสวิตช์ทั้งสองไปที่ปิด หากปิดการใช้ GPS อยู่การทำเช่นนี้จะป้องกันไม่ให้แอปและโทรศัพท์เข้าถึงตำแหน่งของเพื่อนๆ แต่เพื่อนๆก็สามารถเปิดใช้คุณลักษณะเหล่านี้ได้จากหน้าต่างแจ้งเตือนเมื่อจำเป็นได้เช่นกัน

นอกจากนี้ยังสามารถปิดใช้งาน NFC ได้เพราะมันไม่ใช่คุณลักษณะที่ใช้บ่อยอะไร เพียงแค่ปิดใช้งานจากเมนู Settings » Connections » NFC menu.

หมายเหตุ : การปิดใช้งาน NFC จะเท่ากับเป็นการปิดการใช้งาน Samsung Pay ไปด้วยดังนั้นจึงควรเปิดใช้งานก่อนทุกครั้งที่จะเริ่มต้นใช้งาน Samsung Pay

7. ปิดใช้งานซิมการ์ดแบบ Dual Sim

อย่างที่ทราบกันดีว่า S8 และ S8 + รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิม แต่ในกรณีที่มีซิมการ์ดที่ 2 ที่ใส่ไว้นั้นไม่ได้ใช้งาน รับสายหรือข้อความเป็นประจำ เพื่อนๆ สามารถปิดการใช้งานเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ได้ด้วยการตั้งค่าดังต่อไปนี้

วิธีการตั้งค่า

ขั้นที่ 1: ไปที่ Settings » Connections »เมนูตัวจัดการซิมการ์ด

ขั้นที่ 2: แตะที่ SIM การ์ดที่ต้องการปิดใช้งาน

ขั้นตอนที่ 3: กดปุ่มสลับที่ด้านบนขวาเพื่อปิดซิมการ์ดนี้

ทุกข้อที่กล่าวมานี้ล้วนมีผลต่อความทนทานของแบตเตอรี่ทั้งสิ้น อุปนิสัยในการใช้งานของตัวเพื่อนๆเองนั้นก็มีส่วนในการทำให้แบตฯหมดไวขึ้นหากใช้งานแบบติดต่อกันนานๆ ฉะนั้นแนะนำให้พกที่ชาร์จแบตและแบตฯสำรองไปด้วยเผื่อเวลาฉุกเฉินจริงๆ จะได้ไม่ขัดสนแต่ถ้าหากมันไม่สามารถหาที่ชาร์จได้จริงๆก็ตั้งค่าตามนี้ค่ะ รับรองช่วยได้แน่นอนค่ะ 

 

ที่มา Sammobile 

To Top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณและสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • GA

    Google Analytic

Save