ต้องยอมรับเลยครับว่าหลังจากที่สมาร์ทโฟนแบรนด์ Xiaomi ได้มีวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ก็มีผู้ใช้ชาวไทยเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่แค่ตัวสมาร์ทโฟนเองมีสเปกและระบบที่น่าสนใจ แต่ราคานั้นค่อนข้างถูกใจผู้ใช้ แต่สำหรับบางคนที่อาจจะยังไม่รู้จักแบรนด์นี้ อาจจะต้องมาอธิบายกันก่อน ว่าสมาร์ทโฟนแบรนด์นี้ก็เป็นหนึ่งในแบรนด์ใหญ่ในประเทศจีน ซึ่งมีจุดเด่นที่สเปกดี แต่ราคาไม่แพง อีกทั้งยังมีรอมที่เป็นจุดขายสำคัญของสมาร์ทโฟนแบรนด์นี้ นั่นก็คือ MIUI ครับ
“MIUI”
นั้นเป็นรอมที่ครอบทับระบบปฏิบัติการแอนดรอยอีกทีนึง ก็คล้ายๆกับ Samsung LG Sony ที่ก็มีรอมเป็นของตัวเอง แต่ MIUI นั้นค่อนข้างที่จะดัง เพราะนอกจากจะทำลงสมาร์ทโฟนของตัวเองอย่าง Xiaomi แล้ว ยังเอาใจคนชอบรอมโม ให้สามารถนำรอม MIUI ไปติดตั้งลงสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆที่ไม่ใช่ Xiaomi ได้อีกด้วย ซึ่งล่าสุดนี้ MIUI ได้พัฒนาไปจนถึงเวอร์ชั่น 9.5 แล้ว จะมีอะไรน่าสนใจบ้างในเวอร์ชั่นนี้ เรามาดูกันครับ
1. User Interface ที่เปลี่ยนไป
ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาจะมีคนชมว่า MIUI นั้นสวย แต่ก็มีแอบจิกกัดว่ามันค่อนข้างเหมือนทางฝั่งของ iOS และไม่ว่าจะมีการอัพเดตใหม่มาหลายเวอร์ชั่น หน้าตาต่างๆก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนไปมาก จนในเวอร์ชั่นนี้มีการเปลี่ยนใหม่เกือบทั้งหมด โดยเฉพาะส่วนของไอคอน ที่ไม่ได้เป็นแค่แบบเหลี่ยมๆอีกต่อไป ก็จะมีความเป็นไอคอนที่ไม่มีกรอบบ้าง เป็นแบบไอคอนกลมๆบ้าง เพื่อไม่ให้มองแล้วเกิดความน่าเบื่อ แต่ทั้งนี้ตัว MIUI เองนั้น ก็มี Theme Store ที่เต็มไปด้วยธีมสวยๆให้ดาวน์โหลดมากมาย หากไม่ชอบใน UI ตัวใหม่นี้ ก็หาดาวน์โหลดมาใช้ใหม่ได้ แต่ไม่ใช่แค่ไอคอนเท่านั้น ในส่วนของหน้าแอพฯอื่นๆก็มีการปรับแต่งให้สวย แต่ก็ยังคงความเรียบหรูดูดีเอาไว้อยู่ครับ
2. เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่า
MIUI 9 นี้จะสามารถทำงานในส่วนต่างๆ โดยเฉพาะแอพฯของตัวเองได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นสูงสุดถึง 2 เท่าด้วยกัน เพราะในเวอร์ชั่นใหม่นี้ รอมสามารถจัดการทรัพยากรต่างๆในตัวเครื่องได้ดียิ่งขึ้น จึงไม่แปลกเลยที่รุ่นใหม่ๆที่มีราคาไม่สูง ถึงแม้ว่าจะให้แรมไม่มาก แต่ตัวเครื่องกลับสามารถทำงานได้อย่างลื่นไหล โดยการทำงานนั้น จะเป็นการประมวลผลว่าแอพฯไหนที่ทำงานค่อนข้างหนักหลังไม่ได้ถูกใช้งาน หรือต้องเรียกว่าทำงานอยู่เบื้องหลังนั่นเอง โดยแอพฯเหล่านั้นจะถูกปิดการใช้งานหากไม่ได้เข้าใช้งานเป็นเวลานานๆ นอกจากนี้ยังทำการเคลียร์ข้อมูลหรือไฟล์ขยะที่ไม่จำเป็น ไม่ได้ใช้ ให้หมดไปจากตัวเครื่องได้เรื่อยๆ โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องกดสั่งงานเอง
3. Mi Drop ทำงานได้มากขึ้น
ใน Mi Drop เวอร์ชั่นล่าสุดนี้ จะมีให้ดาวน์โหลดบน Play Store ด้วย เพื่อให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟน Xiaomi และ Android Phone รุ่นอื่นๆสามารถแชร์ข้อมูลถึงกันได้ โดย Mi Drop นั้นเป็นแอพฯที่เอาไว้แชร์ไฟล์ต่างๆผ่าน WiFi และ Blutooth ลักษณะคล้าย Aip Drop บน iOS แต่จะพิเศษกว่าคือไม่จำกัดรูปแบบไฟล์ในการแชร์ ดังนั้น นอกจากภาพ วิดิโอ เพลงแล้ว ยังสามารถส่งไฟล์อื่นๆอย่าง Application ได้อีกด้วยนะ
4. Toggle Bar สวยยิ่งขึ้น
ไม่ได้อวยนะ แต่ถ้าเทียบกับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด้วยกันแล้ว Toggle Bar ของ MIUI เวอร์ชั่น 9 สวยกว่าชาวบ้านชาวช่องมาก หลายคนอาจจะงงว่าไอ Toggle Bar นี่คืออะไร คือส่วนที่เราดึงลงมาเพื่อดูการแจ้งเตือนต่างๆ แต่ส่วนนั้นอาจจะเรียกว่า Notification Center แต่เหนือส่วนนี้ขึ้นไปจะมีเครื่องมือที่เป็น Short Cut ให้เราสามารถกดใช้งานได้เลยทันทีโดยไม่ต้องเข้าหน้าตั้งค่า ในส่วนนี้ของ MIUI นั้น เหนือ Short Cut ขึ้นไปก็จะมีส่วนของการแสดงเวลาและสภาพอากาศที่จะเปลี่ยนแอนิเมชั่นแบบเรียลไทม์
5. Mi Video ตัวเดียวจบ ไม่ต้องโหลดเพิ่ม
น้อยนักที่โปรแกรมเล่นวิดิโอที่ติดมากับเครื่องจะสามารถทำงานได้ครบวงจร อาจจะเป็นเรพาะบน Play Store นั้นมีแอพฯเล่นวิดิโอเยอะ หรือผู้ใช้งานส่วนใหญ่ ชอบดูวิดิโอในแอพฯแกลอรี่กันซะมากกว่า แต่ Mi Video นั้น เป็นแอพฯเล่นวิดิโอที่ครบครันด้วยฟังก์ชั่น สามารถเล่นไฟล์วิดิโอได้เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ AVI, MP4, MOV, MKV, MPG, FLV, RM, TS, ASF, และ 3GP นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนเสียงพากษ์เปลี่ยนซัพฯ หากมีในไฟล์นั้นด้วย อีกทั้งยังสามารถตัดหรือแคปภาพจากวิดิโอนั้นได้ง่ายๆด้วยเครื่องมือทางฝั่งขวามือในขณะดู แต่ความฉลาดของมันยังไม่จบแค่นี้ บางทีไฟล์วิดิโอนั้น อาจจะมีตอน 1,2,3 หรือมีไฟล์ย่อยอะไรประมาณนี้ แอพฯ Mi Video จะทำการรวมเข้าเป็นโฟลเดอร์เดียวกันให้อย่างอัตโนมัติด้วยครับ
6. การแก้ไขรูปภาพบนแกลอรี่ฉลาดขึ้น
นี่ทาง Xiaomi จะไม่ให้ดาวน์โหลดแอพฯเพิ่มเลยหรือยังไงกันครับ? เพราะใน MIUI 9 ตัวใหม่นี้ ก็ใส่ฟังก์ชั่นมาในแกลอรี่ตัวเองซะเพียบเลย หนึ่งในนั้นก็คือการแก้ไขและตกแต่งภาพ คุณรู้หรือไม่ว่าคุณสามารถที่จะลบสิ่งที่ไม่อยากให้เห็นในภาพ แต่ถ่ายติดมาแล้ว ออกได้ง่ายๆในไม่กี่ขั้นตอน หรือเซลฟี่มา แต่มันยังไม่บิวตี้พอ ก็สามารถกดปรับแต่งได้ โดยไม่ต้องดาวน์โหลดแอพฯเพิ่มเลย
7. ย้ายแอพฯเครื่องมือต่างๆไว้ในหน้า Widget
บางทีเราก็เบื่อจะต้องเห็นไอคอนแอพฯที่ทำงานได้แค่อย่างเดียว แต่มีหลายไอคอนจนรกเครื่องไปหมด อย่างพวก ไฟฉาย นาฬิกา ต่างๆเป็นต้น ซึ่งใน MIUI 9 ตัวใหม่นี้จะรวมเอาแอพฯพวกนั้นไปโชว์ในหน้าเดียวเลย ด้วยการเลื่อนจากขอบหน้าจอซ้าย เราจะเห็นมันรวมอยู่ ทั้งนี้สามารถตั้งค่าว่าจะให้เป็นหน้าแอพฯแบบย่อย หรือจะตั้งเป็น Short Cut แล้วกดเข้าไปใช้งานก็ทำได้เช่นเดียวกัน ทำให้ประหยัดในเรื่องของพื้นที่ ทำให้หน้าจอโฮมดูสะอาดตามากยิ่งขึ้น และไม่ต้องคอยสลับแอพฯไปมาเบื่อๆครับ
8. เปลี่ยนแอนิเมชั่นการดาวน์โหลดแบบเดิมๆ
เวลาที่เรารอโหลดอะไรในหน้าต่างๆบนสมาร์ทโฟน ส่วนใหญ่จะมีแอนิเมชั่นให้เห็นอยู่ไม่กี่อย่าง ไม่วงกลมหมุนไปมา ก็เป็นแทบดาวน์โหลดยาวๆ แต่ใน MIUI 9 นั้นมีการเปลี่ยนเป็นตัวการ์ตูนน่ารักที่สุ่มไม่เหมือนกันในแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกระต่าย ดอกไม้ พร้อมข้อความน่ารักๆใต้แอนิเมชั่น ถึงแม้อาจจะไม่ค่อยเกี่ยวกับเรื่องประสิทธิภาพการทำงาน แต่ก็ทำให้การรอคอยไม่น่าเบื่อครับ
9. Floating Tool น่าใช้มากยิ่งขึ้น
เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเป็นปัญหากับสมาร์ทโฟนแอนดรอย กับ Floating Tool หรือเครื่องมือที่ลอยขึ้นมาให้เราใช้งานในขณะพิมพ์ข้อความหรืออ่านข้อความ ซึ่งมักจะเกิดกับสมาร์ทโฟนแบรนด์จีนเป็นส่วนใหญ่ แต่ใน MIUI 9 นั้น มีการปรับปลี่ยนให้ใช้งานง่ายขึ้น และทำหน้าตาออกมาหน้าใช้ มีขนาดที่ใหญ่ เพื่อให้กดใช้งานได้ง่ายขึ้นครับ
10. เข้าแอพฯ Third Party ได้เร็วกว่า
แอพฯที่ดาวน์โหลดจาก Play Store นั้น ส่วนใหญ่เป็นแอพฯที่ไม่ได้ผ่านการทดสอบโดยค่ายสมาร์ทโฟน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่หลายๆแอพฯที่โหลดมาลงเครื่องบางแอพฯ จะมีการทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ อาจจะทำงานช้าบ้าง หรืออาจจะใช้ไม่ได้เลย เด้งออกบ่อย เป็นต้น แต่ใน MIUI 9 นั้นมีการปรับรอมมาให้สามารถทำงานได้กับทุกแอพฯได้ดียิ่งขึ้น โดยมีการทดสอบนำสมาร์ทโฟนที่มีสเปกเท่ากันมาลองเปิดใช้แอพฯต่างๆที่ดาวน์โหลดจาก Play Store พบว่าสามารถเปิดเข้าใช้งานได้เร็วกว่าอย่างเห็นได้ชัดครับ
