มาแล้วกับรีวิวเต็ม ๆ ของ Samsung Galaxy A6 Plus ที่ในคราวนี้มาพร้อมกับบอดี้โลหะแข็งแกร่ง กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียดสูง รวมถึงกล้องคู่หลังครั้งแรกในสมาร์ทโฟนซีรี่ย์ A ก็ว่าได้ หลังจากที่ได้ลองใช้งานก็พบว่ารอบนี้ทางซัมซุงทำการบ้านมาได้ดีเลยล่ะ จะเป็นยังไงนั้นไปดูกันเลยครับ!
Review Samsung Galaxy A6 Plus
สำหรับ Samsung Galaxy A6+ นั้นมีขนาดตัวเครื่องที่เหมาะมือ มาหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้ว ที่แทบไม่มีขอบบนล่างมากวนใจ ขนาดตัวเครื่องใกล้เคียงกับซัมซุงกาแลคซี่เอส 9 พลัส พอสมควร ตัวเครื่องทำจำบอดี้โลหะผสมผสานกระจก ที่ให้ความพรีเมี่ยมหรูหราเมื่อสัมผัส นอกจากนี้ในประเทศไทยมีให้เลือกถึง 3 สีไม่ว่าทั้งสีดำคลาสสิกสไตล์ สีทองเรียบหรู และสีน้ำเงินคมเข้มที่เป็นสีใหม่ของซีรี่ย์ A นี้
Physical Overview
Design & Infinity Display
การออกแบบของ Samsung Galaxy A6+ มีความผสมผสานระหว่างซัมซุงกาแลคซี่ J ซีรี่ย์ที่มาพร้อมกับบอดี้โลหะที่มีเส้นเสาอากาศรับสัญญาณเด่นมาแต่ไกล บวกกับกาแลคซี่เอซีรี่ย์ที่มีหน้าจอ Super AMOLED ชัดเต็มตาแบบ Infinity Display ความละเอียด FHD+ (1080 x 2220 พิกเซล) ทำให้ใช้พื้นที่หน้าจอไปได้เต็มๆในขนาดที่เท่าเดิม ครอบทับด้วยกระจกจอที่ทนรอยขีดข่วนอย่าง Gorilla Glass
Performance
Galaxy A6+ มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Snapdragon 450 1.8 GHz ที่มีความสามารถในการประมวลระดับกลาง โดยมีผลทดสอบจากแอป Antutu อยู่ที่ 69,210 คะแนน แต่ก็ยังสามารถเล่นเกมส์ได้ลื่น พร้อมแรม 4 GB บวกกับหน่วยความจำภายใน 32 GB ที่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกอย่าง MicroSD ได้สูงสุดถึง 400 GB เลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ Android 8.0 OREO บนแบตเตอรี่ขนาด 3,500 มิลลิแอมป์ ที่เหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไปไม่ว่าจะเป็น โซเชี่ยลมีเดีย ถ่ายภาพ ดูหนัง ฯลฯ ได้ทั้งวันโดยไม่ต้องกลัวแบตหมดเลยทีเดียว
Dual Camera & AR Sticker
Samsung Galaxy A6+ มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ความละเอียด 16+5 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.7+F1.9 มีโหมด Live Focus ที่ช่วยให้สามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังละลายได้ทันทีหรือจะเลือกปรับความเบลอทีหลังก็ได้เช่นกันอีกโหมดที่น่าสนใจก็คือโหมด Pro ที่ช่วยให้ปรับสภาพแสงได้ ปรับค่า ISO สูงสุดถึง 800 และสามารถปรับ White Balance ได้เช่นกัน
และยังมีอีกหลายโหมดไม่ว่าจะเป็นโหมดพาโนรามา โหมดกลางคืน และอีกมามาย ในส่วนของภาพถ่ายที่ได้นั้นมีในโหมด Auto จะสังเกตได้ว่า White Balance ค่อนข้างเพี้ยนอยู่ในบางสภาพแสง
ในตอนกลางวันทำได้ดีมาก ถ่ายท้องฟ้าเห็นชัดเพราะมี HDR ช่วยในจุด ๆ นี้
ภาพถ่ายในตอนกลางคืนก็เก็บรายละเอียดได้ดีเช่นกัน โดยเฉพาะ Night Mode ที่สามารถเกลี่ย Noise ของภาพถ่ายได้ดี
ภาพหน้าชัดหลังเบลอก็ทำออกมาได้ดี ตัดขอบเนียนพอสมควร ส่วนของการถ่ายวีดีโอนั้นก็ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว เพราะอัดได้สูงสุดที่ความละเอียด Full HD 1080p รวมถึงสามารถถ่ายในอัตราส่วนแบบ 18:5:9 ก็ได้ แต่ไม่ค่อยมีฟังก์ชั่นให้ปรับใช้งานมากนัก แถมยังสั่นพอสมควรเพราะไม่มีระบบกันสั่นอย่าง OIS หรือ EIS เลย
กล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 24 ล้านพิกเซล F1.9 ไม่หวั่นแม้ที่แสงน้อยด้วย 3-Step lighting ที่ช่วยปรับความเข้มของ LED Flash ให้สว่างได้แตกต่างกัน 3 ระดับ มีโหมด Focus Selfie ช่วยให้ถ่ายภาพบุคคลได้แบบหน้าชัดหลังเบลอ ยังคงมีโหมดถ่ายภาพแบบมุมกว้างอยู่เช่นเคย แถมยังปรับสีผิว ปรับหน้าเรียว และปรับตาโตในโหมดถ่ายภาพปกติได้อีกด้วย ภาพที่ได้ค่อนข้างมีความคมชัดสูงด้วยความละเอียดของกล้อง
ที่มืดก็เอาอยู่ด้วยรูรับแสงกว้างบวกกับ LED Flash และในส่วนของการถ่ายวีดีโอนั้นก็ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว เพราะอัดได้สูงสุดที่ความละเอียด Full HD 1080p รวมถึงสามารถถ่ายในอัตราส่วนแบบ 18:5:9 ได้อีกด้วย
AR Sticker เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์กล้องที่ซัมซุงให้เป็นตัวเลือกในการถ่ายภาพน่ารักสดใสมีให้เลือกมากกว่า 30 แบบ ไม่ว่าจะเป็น หมี น้องแมว น้องหมา กระต่าย และอีกมากมาย ใช้ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง แต่ถ้าสติ้กเกอร์ยังไม่จุใจก็ยังสามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้หลังถ่ายภาพอีกเช่นกัน
ตัวอย่างภาพถ่ายเพิ่มเติมจากกล้อง Samsung Galaxy A6+
Bixby (Vision, Home, Reminder)
ซัมซุงก็ไม่พลาดส่ง Bixby ผู้ช่วยอัจฉริยะลงมาบนสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ด้วย เริ่มที่ Bixby Home จะอยู่ทางด้านซ้ายมือของหน้าโฮม โดยจะเชื่อมต่อกับ Samsung Account เพื่อแนะนำแอปพลิเคชั่นสุดฮิต รวมภาพถ่ายต่างๆของผู้ใช้งาน บอกสภาพบรรยากาศแบบเรียลไทม์ และอื่น ๆ อีกมากมาย ส่วน Bixby Reminder เป็นตัวช่วยในการเตือนความจำของผู้ใช้งานที่สามารถตั้งเตือนให้ไม่พลาดทุกเวลาสำคัญได้ง่ายๆเพียงปลายนิ้ว
และไฮไลท์เด็ดสุดคงจะเป็น Bixby Vision ที่เป็นการเปิดกล้องหลังส่องสิ่งต่างๆรอบข้าง ภายในระยะที่กำหนดไว้ เพียงแค่เห็นไปรอบทิศทางระบบก็จะช่วยบอกสถานที่เด็ด ๆ ไม่ว่าจะเป็น ร้านกาแฟ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารและอื่นๆอีกมากมาย แถมยังสามารถส่องกล้องไปที่วัตถุที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์ สิ่งของ ที่อยากจะค้นหาระบบก็จะรวบรวมข้อมูลที่ใกล้เคียงเกี่ยวกับสิ่งนั้นมาให้คุณเพียงคลิกเดียว
Others
ฟีเจอร์อื่นๆที่น่าสนใจสำหรับ Samsung Galaxy A6+ ก็คงจะเป็น App Pair ที่สามารถเลือกแอปพลิเคชั่นที่ชอบได้ 2 แอป โดยสามารถจับคู่แอปเพื่อเปิดพร้อมกันในคลิกเดียวได้เลย ต่อมาก็เป็น Multi Windows ฟีเจอร์คู่บุญของสมาร์ทโฟนซัมซุงกาแลคซี่ที่สามารถเปิด 2 แอพไปเปิดกันได้ ให้คุณไม่พลาดในช่วงเวลาที่สำคัญ Always on Display ฟีเจอร์เปิดหน้าจอเพื่อแสดงเวลา รวมถึงการแจ้งเตือนแบบตลอดเวลาก็มาด้วยเช่นกัน อีกอย่างเป็นการใช้งาน 2 บัญชีในเครื่องเดียว โดยรองรับ Social App ได้มากสุดถึง 18 แอป และสุดท้ายก็เป็นระบบเสียงแบบ Dolby Atmos ให้อรรถรสในการฟังเพลงผ่านหูฟัง ได้แบบครบเครื่องสมจริงทุกรายละเอียดเสียง
Final Opinion & Conclusion
แน่นอนว่าถ้าหากคุณเป็นคนที่ต้องการสมาร์ทโฟนจอใหญ่ บอดี้โลหะที่ดูแข็งแกร่ง แบตเตอรี่อึดใช้งานได้ยาวนาน มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ รวมถึงมีกล้องหน้าความละเอียดสูงที่มีฟีเจอร์ 3-Step lighting สว่างได้แม้ในที่แสงน้อยด้วย LED Flash แถมยังรองรับ AR Sticker สุดน่ารัก Galaxy A6+ ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีเลย
Strength
- หน้าจอ Super AMOLED แบบ Full Front Display (18:5:9) ความละเอียด FHD
- ดีไซน์พรีเมียมด้วย ตัวเครื่องวัสดุแบบ Full Metal และหน้าจอกระจก Gorilla Glass
- ชิพเซต Snapdragon 450 Octa-Core 1.8 GHz
- ROM 32 GB, RAM 4 GB / เพิ่ม microSD สูงสุด 400GB
- ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 8.0 (โอรีโอ)
- กล้องหลังคู่ความละเอียด 16+5 ล้านพิกเซล ที่มีรูรับแสงกว้าง F1.7 พร้อมโหมด Live Focus หน้าชัดหลังละลาย
- กล้องหน้าความละเอียดสูง 24 ล้านพิกเซล (F1.9) พร้อม 3-Step Lighting ที่สามารถปรับแสงของ LED Flash ได้
- รองรับ AR Sticker สุดน่ารักมีให้เลือกมากว่า 30 แบบ
- รองรับ Bixby (Vision, Home, Reminder)
- แชทได้พร้อมกัน 2 บัญชีในเครื่องเดียว โดยรองรับแอป Social เยอะที่สุดถึง 18 แอป
- แบตเตอรี่ขนาด 3,500 mAh ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 2 วัน
- รองรับ App pair ช่วยให้สามารถเปิด 2 แอพได้พร้อมกันในคลิกเดียว
- รองรับระบบเสียง Dolby Atmos ผ่านหูฟัง
Full Specification
ข้อมูลทั่วไป
ขนาด, น้ำหนัก | 160.2 x 75.7 x 7.9 มิลลิเมตร , 183 กรัม |
SIM Card | Nano SIM+Nano SIM (Triple Slot) |
แบตเตอรี่ | Li-ion 3,500 mAh |
เครือข่าย
เครือข่าย 2G | 850 / 900 / 1800 / 1900 MHz |
เครือข่าย 3G | 850 / 900 / 1900 / 2100 MHz |
เครือข่าย 4G | 700 / 800 / 850 / 900 / 1800 / 1900 / 2100 / 2300 MHz |
หน่วยความจำ
หน่วยความจำภายใน | 32 GB / RAM 4 GB |
หน่วยความจำภายนอก | microSD สูงสุด 400 GB |
จอแสดงผล
ขนาด | 6.0 นิ้ว |
ความละเอียดและความหนาแน่น | 1080 x 2220 พิกเซล (410dpi) |
ชนิดและจำนวนสี | Super AMOLED 16 ล้านสี / กระจก Corning Gorilla Glass |
ระบบ
หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) | Snapdragon 450 Octa-core 1.8 GHz |
หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) | Adreno 506 |
ระบบปฏิบัติการและอินเทอร์เฟซ | Android 8.0 (Oreo) |
การเชื่อมต่อ
Wi-Fi | 802.11 a/b/g/n, dual-band (2.4/5GHz), HT40, Wi-Fi Hotspot, Wi-Fi Direct |
Bluetooth | รองรับ [v4.2 (LE up to 1Mbps)] |
NFC | ไม่รองรับ |
USB | Micro-USB 2.0 |
ระบบระบุตำแหน่ง (GPS) | รองรับ (A-GPS, GLONASS, BeiDou) |
มัลติมีเดีย
กล้องถ่ายภาพนิ่ง | |
ความละเอียด | กล้องหลังคู่ 16 + 5 ล้านพิกเซล / กล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล |
คุณสมบัติ | กล้องหลังรูรับแสงกว้าง F1.7+F1.9 / กล้องหน้ารูรับแสงกว้าง F1.9 / มีโหมด AR Sticker และโหมด Live Focus / มีโหมด Pro และ Night Mode สำหรับกล้องหลัง / 3-Step lighting ช่วยปรับแสงได้ 3 ระดับพร้อม LED Flash ที่กล้องหน้า |
กล้องวิดีโอ | |
ความละเอียด | 1920 x 1080 (FHD) |
คุณสมบัติ | ซูมได้สูงสุด 8 เท่า / Auto Focus / ปรับระดับความสว่างของแสงได้ |
วิทยุ | มี |
อื่นๆ | รองรับการสแกนลายนิ้วมือ และใบหน้า / ใช้งาน 2 ซิมการ์ดไปพร้อมกับใส่ MicroSD Card ได้ |
ราคา 10,990 บาท
นอกจากนี้ยังสามารถลองจับตัวจริงของเจ้ารุ่นนี้ ได้ในงาน Thailand Mobile Expo 2018 วันที่ 24-27 พฤษภาคม 2561 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมทั้งยังมีโปรโมชั่นและราคาพิเศษรวมถึงของแถมมากในงานนี้อีกด้วยครับ