Apple เปิดตัวโน้ตบุคตระกูล MacBook Pro ใหม่ประจำปี 2018 แบบเงียบๆ ไร้งานเปิดตัว ทั้งสองรุ่นยังคงมีลักษณะภายนอกที่เหมือนเดิม แต่เปลี่ยนซีพียูตามรอบให้เป็น Intel รุ่นล่าสุด และเพิ่มฟีเจอร์จากฝั่ง iOS เข้ามาเล็กน้อย
MacBook Pro ปัจจุบันมีด้วยกันทั้งหมดสามรุ่น ได้แก่
- 13 นิ้ว ไม่มี TouchBar
- 13 นิ้ว TouchBar
- 15 นิ้ว TouchBar
สำหรับรุ่น 13 นิ้วแบบไม่มี TouchBar นั้นไม่ได้รับอัพเกรดในครั้งนี้ ทำให้รุ่นที่วางจำหน่ายใน Apple Store ยังคงเป็นรุ่นเดิมสเปคเดิม และไม่มีฟีเจอร์ใหม่ใดๆ
สำหรับรุ่น 13 นิ้ว ความเปลี่ยนแปลงคือซีพียูเดิม (Intel Core i5 / Core i7) ที่ใช้เป็นแบบ Dual Core ก็ขยับมาเป็น Core i5 / i7 ที่เป็น Quad Core ของสถาปัตยกรรม Coffee Lake และเพิ่มความจุ SSD สูงสุดจาก 1TB เป็น 2TB
ส่วนรุ่น 15 นิ้ว ความเปลี่ยนแปลงคือ Intel Core i7 (Quad Core) เพิ่มตัวเลือกใหม่เป็น Intel Core i7 / i9 (Hexa Core) และความจุ SSD เพิ่มไปสูงสุดที่ 4TB
ข้อดีของการขยับมาใช้ Intel สถาปัตยกรรมล่าสุดนี้ ทำให้เครื่องรองรับการใช้งาน DDR4 หน่วยความจำยุคใหม่ที่มีความเร็วสูงขึ้นกว่าเดิม และกินไฟน้อยลงอีกด้วย โดยรองรับสูงสุดที่ 32GB
ฟีเจอร์ใหม่ในปีนี้ก็คือ True Tone แต่เดิมมีอยู่เฉพาะบน iPhone และ iPad Pro เท่านั้น เซนเซอร์วัดค่าแสงด้านหน้าจอจะตรวจและปรับแสงหน้าจอให้สีตรงอยู่เสมอ ผู้ที่น่าจะยินดีกับฟีเจอร์อย่างมากก็คือผู้ที่ทำงานด้านศิลป์ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์เนอร์ ทีมตัดต่อ และแผนกอาร์ตที่ต้องตบตีกับโรงพิมพ์เรื่องสีเพี้ยนนั่นเอง
สำหรับหน่วยประมวลผลเฉพาะที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลลายนิ้วมือ และยืนยันตัวตนอย่าง Apple T1 ก็ออกเวอร์ชันใหม่เป็น Apple T2 ฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาคือ Secure boot path ทำให้มัลแวร์ไม่สามารถแอบซ่อนตัวช่วงที่บูทเครื่อง และเข้ามาแฝงตัวทำงานในระบบอ่านลายนิ้วมือได้
ข่าวกึ่งร้ายกึ่งดีก็คือคีย์บอร์ดของ MacBook Pro รุ่นใหม่ยังคงเป็น Butterfly ที่ก่อนหน้านี้มีปัญหาเรื่องพังง่าย แต่ว่าอัพเกรดเป็นรุ่นใหม่ใช้ชื่อว่า Butterfly 3 ซึ่งโฆษณาว่าพิมพ์ได้เงียบกว่าเดิม ส่วนปัญหาเรื่องฝุ่นเข้าใต้คีย์บอร์ด กดแป้นพิมพ์ไม่ติด หรือกดติดเบิ้ลไปนั้นยังคงเป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบในตอนนี้ ดังนั้นคนที่ชะลอแผนซื้อเพราะรุ่นที่ผ่านมามีปัญหาคีย์บอร์ดอาจจะยังต้องรอต่อไปอีกสักพัก
สำหรับราคาเริ่มต้นของรุ่น แมคบุ๊กโปร 13 นิ้วแบบ TouchBar อยู่ที่ $1,799 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนรุ่น 15 นิ้วราคาขยับไปที่ $2,399 ดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากเปิดตัวรุ่นใหม่เงียบๆ รุ่นที่ถูกถอดออกไปก็คือ แมคบุ๊กโปร 15 นิ้วรุ่นปี 2015 ที่ไม่ค่อยจะบางนักแต่มีพอร์ตค่อนข้างหลากหลาย ทำให้ MacBook ที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน (ยกเว้น MacBook Air) ล้วนแล้วแต่เป็นรุ่นที่มีเฉพาะพอร์ต USB Type C เท่านั้น ไม่มีพอร์ตอื่นใดให้ใช้งาน ผู้ที่ต้องการเสียบต่อหน้าจอโปรเจคเตอร์พร้อมชาร์จไฟยังคงต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมอย่างหัวแปลงแบบตัว Y ต่อไป
ที่มา – CNet