Apple แถลงผลประกอบการไตรมาส 3 ประจำปีงบการเงิน 2018 ไปแล้ว โดยยอดขายเติบโตน้อยกว่า 1% ทำให้ยอดขายผลิตภัณฑ์รวมทั้งสิ้น 41.3 ล้านเครื่อง ต่ำกว่าที่ Wall Street คาดการณ์ไว้
แม้ว่าจะเติบโตไม่ได้ตามที่นักลงทุนคาดหวัง แต่รายได้จากฝั่งฮาร์ดแวร์ยังคงเติบโตดี ปีนี้เพิ่มขึ้นมา 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทำให้รายได้จากการขายของรวมทั้งสิ้น $29,910 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุมาจากกำไรต่อเครื่องที่เพิ่มขึ้นมาก (โดยเฉพาะ iPhone X) แม้ว่ายอดขายจะไม่ได้เพิ่มมากแต่กำไรต่อเครื่องเพิ่มพูลมหาศาล ทำให้รายรับเติบโต
สำหรับนาฬิกา Apple Watch และหูฟังไร้สาย AirPods ทำรายได้เพิ่มขึ้นทั้งคู่ รวมๆ แล้วขายได้มากกว่าเดิม 37% เป็นเงินกว่า $3,740 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ทางแอปเปิลไม่ได้แยกตัวเลขออกมาให้ทราบว่ายอดขาย Apple Watch นั้นมากน้อยแค่ไหน (ทาง IDC คาดว่าขายได้ราวๆ 20.2 ล้านเครื่องปีนี้ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 20.2%) ส่วน iPad นั้นยอดขายลดลงเนื่องจากกระแสเริ่มหันไปหา Phablet มือถือที่จอใหญ่ขึ้นแทน โดยรายได้ลดลงไป 5% ขายได้เพียง 11.5 ล้านเครื่องเท่านั้น
สำหรับธุรกิจบริการของแอปเปิลนั้นเติบโตเงียบๆ มาหลายไตรมาสแล้ว โดยทางบริษัทตั้งเป้าเอาไว้ว่าแผนกนี้ในปี 2020 ต้องทำรายได้ $50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนไตรมาสที่ผ่านมาทำรายได้ $9,550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตขึ้นจากเดิม 31% โดยมีหัวหอกอย่าง แอปเปิล มิวสิค ที่เติบโตขึ้นมาก รวมไปถึง App Store, iCloud
สุดท้ายนี้แอปเปิลได้พยากรณ์ไตรมาสปัจจุบันว่ายอดขาย iPhone น่าจะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 14 – 18% คาดทำงานราวๆ $60,000 – 62,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ปัจจุบันแอปเปิลสามารถทำผลกำไรเติบโตต่อเนื่องทุกไตรมาส โดยไตรมาสนี้เป็นไตรมาสที่ 17 แล้วที่รายได้ไม่ต่ำกว่า $53,270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าที่ Wall Street คาดการณ์เอาไว้ 17% แน่นอนว่ารายรับดีกว่าที่ประเมินแบบนี้หลังจากเสร็จสิ้นการแถลงการณ์หุ้นของแอปเปิลก็พุ่งขึ้น เพิ่มไปอีกราวๆ 4.03% หรือหุ้นละ $7.66 ดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นไปแตะ $197.95 ต่อหุ้น
ที่มา – Phone Arena