มาแล้วกับภาพหลุดล่าสุดของ Huawei Mate 20 และ Huawei 20 Pro สมาร์ทโฟนเรือธงปลายปีของหัวเว่ยที่มากล้อง 3 ตัวที่ได้ Leica มาร่วมพัฒนาด้วยนั่นเอง แถมยังมีราคาในต่างประเทศของทั้งสองรุ่นหลุดออกมาด้วย ส่วนรายละเอียดจะเป็นยังไงนั้น ไปดูกันเลย!!
ภาพหลุดของ Huawei Mate 20
เริ่มต้นกันด้วยหัวเว่ยเมท 20 ที่เพิ่งมีภาพหลุดออกมา สด ๆ ร้อน ๆ เผยให้เห็นดีไซน์จอมีติ่งแบบหยดน้ำตามสมัยนิยม แถมกล้องด้านหลังยังมาด้วยกันถึง 3 กล้องพร้อม LED Flash เรียงตัวกันแบบสี่เหลี่ยมตามภาพใน Teaser ที่ทางหัวเว่ยปล่อยออกมา ทั้งนี้ยังคงได้คู่หู่ร่วมวงการอย่าง Leica เข้ามาพัฒนาในส่วนของกล้องเช่นเคยครับ
ภาพหลุดของ Huawei Mate 20 Pro
จากภาพหลุดข้างต้นทำให้เห็นว่าเจ้าตัวหัวเว่ยเมท 20 โปร นั้นจะมีความยาวของติ่งหน้าจอที่มากกว่า Huawei Mate 20 อย่างเห็นได้ชัด ส่วนอื่นก็จะคล้ายกัน แต่รุ่นนี้อาจจะมีการฝังเซ็นเซอร์สแกนใบหน้าแบบ 3D ไว้ก็เป็นได้ (แบบเดียวกับ iPhone X หรือ Oppo Find X) เพราะจากภาพด้านหลังไม่มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่นั่นเอง ตัวเครื่องมีด้วยกันถึง 3 สี ได้แก่ สี Aurora, สีน้ำเงินเข้ม และสีดำนั่นเองครับ
ในส่วนสเปคที่หลุดออกมาล่าสุดมีดังนี้
- มาพร้อมชิปเซ็ตสุดแรงอย่าง Kirin 980
- รองรับการสแกนใบหน้าแบบ 3D (เฉพาะรุ่น Pro) และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง (เมท 20)
- ความจุมีให้เลือกตั้งแต่ 128 GB, 256 GB และ 512 GB สามารถเพิ่มเม็มโมรี่ชนิดพิเศษของหัวเว่ยได้อีก
- แรมมีให้เลือกตั้งแต่ 4 GB, 6 GB และ 8 GB
- กล้องหลัง 3 ตัว C0-Engineer With Leica คล้ายกับ Huawei P20 Pro คือจะมีเลนส์หนึ่งตัวที่มีความละเอียด 40 MP ไว้สำหรับการซูม พร้อม LED Flash
- แบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว Super Charge เวอร์ชั่นล่าสุดของหัวเว่ย รวมถึงยังรองรับ Fast Wireless Charger ที่น่าจะเร็วที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟนตอนนี้
ราคาของทั้งสองรุ่นที่หลุดออกมา
นอกจากภาพหลุดของทั้งสองรุ่นแล้ว ก็มีราคาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์หลุดออกมาให้ชมกันด้วยครับ ไปดูกันเลย!
- หัวเว่ยเมท 20 ราคาเริ่มต้นที่ 799 ฟรังก์สวิสหรือประมาณ 26,500 บาท สำหรับรุ่นความจุ 128 GB
- และรุ่น Pro ราคาเริ่มต้นที่ 999 ฟรังก์สวิสหรือประมาณ 33,000 บาท สำหรับรุ่นความจุ 128 GB
ทั้งนี้เองก็คาดว่าทั้งสองรุ่นนั้นจะมีความจุพิเศษที่มากกว่าเดิมอย่างความจุ 256 GB หรือ 512 GB ซึ่งโมเดลดังกล่าวอาจจะวางจำหน่ายแตกต่างกันในแต่ละประเทศก็เป็นได้ อย่างไรก็ตามในวันที่ 16 ตุลาที่จะถึงนี้เราก็จะได้เห็นทั้งสองรุ่นอย่างเป็นทางการแล้ว หากทางเว็บไซต์เรามีข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมของเรื่งอนี้แล้วจะรีบมาอัพเดทให้ทราบแน่นอนครับ