iPhone 11 มาพร้อมสีใหม่อย่างสีขาว, เขียว, ม่วง, เหลือง, ดำ และสีแดง Product Red
จอแสดงผลขนาด 6.1″ แต่ยังคงดีไซน์รอยบากสำหรับกล้อง และเซ็นเซอร์ต่างๆ อย่าง Face ID เช่นเดิม
จุดเด่นสำคัญอย่างกล้องดิจิตอลนอกจากจะมีกล้อง Wide 12 ล้านพิกเซล เป็นกล้องหลักแล้ว ยังมีกล้อง Ultra wide 12 ล้านพิกเซลมุมกว้าง 120 องศาเพิ่มเข้ามา ช่วยให้เก็บภาพมุมกว้างได้ง่ายขึ้น ได้มุมมองใหม่ๆ สำหรับถ่ายภาพ
นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K 60 เฟรมต่อวินาทีได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง และยังเพิ่มฟีเจอร์การถ่ายคลิปวิดีโอ Slow motion บนกล้องหน้าได้อีกด้วย โดยทางแอปเปิ้ลเรียกฟีเจอร์นี้ว่า Slowfie ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ในการถ่ายภาพก็มี Night mode ที่เก็บภาพในที่มืดได้สว่างขึ้น ซูมภาพแบบออฟติคอลได้ 2 เท่า และโหมดถ่ายภาพวิดีโอ QuickTake Video
สำหรับหน่วยประมวลผลก็อัพเกรดเป็นชิพตัวใหม่อย่าง Apple A13 Bionic ที่ให้ประสิทธิภาพแรงกว่าสมาร์ทโฟนที่มีอยู่บนโลกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการประมวลผล และความเร็วในการประมวลผลภาพ 3 มิติสำหรับเล่นเกม
วางจำหน่ายเริ่มต้น $699 หรือประมาณ 21,000 บาท
ส่วนการจองนั้นทางอเมริกาเริ่มเปิดให้จองในวันศุกร์ที่ 13 กันยายนนี้ และวางจำหน่าย 20 กันยายน ก็ต้องรอลุ้นกันว่าประเทศไทยจะวางจำหน่าย Tier ไหน ถ้ามีข้อมูลแล้วเราจะรีบมาอัพเดทให้ทราบทันที
สรุปสเป็ค iPhone 11
- หน่วยประมวลผล Apple A13 Bionic
- หน่วยความจำ 64, 128, 256 GB
- ปลดล็อคหน้าจอด้วย Face ID
- หน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว
- กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
- กล้องดิจิตอล 2 ตัว เลนส์ Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และเลนส์ Ultra wide มุมกว้าง 120 องศา ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
- ถ่ายวิดีโอ 4K ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
- กล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
- รองรับการชาร์จไร้สาย
- ราคาเริ่มต้น $699 หรือประมาณ 21,000 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม Apple.com