เมื่อวานนอกจาก Xiaomi จะเปิดตัว Xiaomi Mi CC9 Pro แล้วยังมีอีกหลายอย่างที่เปิดตัวพร้อมๆ กัน หนึ่งในนั้นก็คือ Xiaomi Mi Watch นาฬิกาอัจฉริยะที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS ของ Google นั่นเอง
ทาง Xiaomi โฆษณาเจ้านาฬิกาอัจฉริยะตัวนี้ว่าเป็นนาฬิกาจิ๋วบนข้อมือ สื่อว่ามีความสามารถที่หลากหลายและพลังประมวลผลที่เพียงพอกับความต้องการ
หน้าจอของ Mi Watch นั้นมีขนาด 1.78 นิ้วแบบ AMOLED พร้อมความสามารถ Always-On หน้าจอทำงานตลอดเวลา (ความละเอียด 410 x 410 พิกเซล) ขนาดบอดี้นั้นอยู่ที่ 44 มิลลิเมตร ฝาหลังทำจากเซรามิก และมีปุ่มกับเม็ดมะยมเพื่อสั่งการ ช่างดูแล้วละม้ายคล้ายกับของคู่แข่งอย่าง Apple Watch ไม่น้อย ทั้งหน้าตา ดีไซน์ และเลย์เอาท์ปุ่มใช้งาน
ตัวเครื่องมีไมโครโฟน และลำโพงหนึ่งช่อง (อยู่ด้านซ้ายของเครื่อง) ส่วนสเปคข้างในก็คงไม่แปลกมากนักถ้าจะบอกว่ามันรองรับ Bluetooth, NFC และ eSIM ทำให้ทำงานได้แม้จะไม่มีมือถือ
แม้ว่าจะใช้ระบบปฏิบัติการ Wear OS แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไปเนื่องจากมีการปรับหน้าตาให้เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง (แน่นอนว่าใช้ชื่อว่า MIUI เหมือนเดิม) ซึ่งน่าจะเป็นนโยบายใหม่จาก Google เนื่องจากในอดีตห้ามทำการดัดแปลงหน้าตาใช้งาน ทำให้จะกี่ยี่ห้อออกมาก็หน้าตาเหมือนกันหมด
ทาง Xiaomi ระบุว่าตัวเครื่องมีแอพติดมาด้วยอย่างน้อย 40 ตัว พร้อมใช้งานทันทีที่แกะกล่อง แต่ถ้ายังไม่ตอบโจทย์ความจต้องการก็มี App Store ให้ใช้หาแอพภายนอกเพิ่มเติมด้วย ตัวมันเองสามารถติดตามการออกกำลังกายได้ รวมไปถึงการว่ายน้ำด้วย
สเปคข้างในนั้นเป็น Snapdragon Wear 3100 4G และ RAM 1GB พื้นที่เก็บข้อมูลมีอยู่ทั้งสิ้น 8GB ถือว่าเพียงพอสำหรับงานนาฬิกาอัจฉริยะ แบตเตอรีใช้งานได้ต่อเนื่อง 36 ชั่วโมงแม้จะเปิดใช้งาน 4G ในตัว (แบตเตอรีมีขนาด 570mAh ถือว่าใหญ่ที่สุดสำหรับนาฬิกาอัจฉริยะในตอนนี้) ข่าวร้ายคือยังไม่มีกำหนดวางจำหน่ายนอกประเทศจีนให้ดีใจกัน จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศจีนก่อน แต่ถ้าทำได้ดีไปได้สวยก็น่าจะนำมาขายทั่วโลกทีหลังแหละครับ
Xiaomi Mi Watch จะเริ่มขายในจีนวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป ราคาอยู่ที่ 1,299 หยวน (ราวๆ 5,600 บาท)
และแน่นอนครับ Xiaomi ทำรุ่นพิเศษออกมาหาเงินด้วยเช่นกัน โดยจะมีชื่อว่า Mi Watch Premium Edition ที่ใช้กระจกหน้าจอเป็นแซฟไฟร์ทนทานต่อการขีดข่วน และบอดี้ทำมาจากสเตนเลสสตีลแทนอลูมิเนียม ดูหรูหราและทนทานกว่าเดิม ราคาขายอยู่ที่ 1999 หยวน (ราวๆ 8,650 บาท) จะเริ่มขายทีหลังรุ่นปกติ แต่จะขายภายในปี 2019 นี้แน่นอน
เอาเข้ามาขายในไทยได้มั้ย ราคานี้ดูจับต้องได้มากเลยนะเนี่ย
ที่มา – GSMarena