Apple TV+ เปิดให้บริการช่วงใกล้ๆ กับ Disney+ แต่การให้บริการนั้นราบลื่นและไม่มีข่าวด้านลบว่าบริการล่ม หรือข้อมูลสลับกับผู้ใช้งานคนอื่นแต่ประการใด
สำนักข่าว Wall Street Journal รายงานว่าทั้งหมดนี้เป็นเพราะ Apple ไปดึงตัววิศวกรของ Netflix มาเข้าร่วมพัฒนาระบบด้วย โดยชายคนดังกล่าวคือ Ruslan Meshenberg นั่นเอง โดยในรายงานวอธิบายว่าที่ผ่านๆ มา Apple เวลาเปิดตัวบริการใหม่ๆ ก็มักจะมีปัญหาไม่สามารถรองรับการใช้งานจำนวนมากไหว ไม่ว่าจะเป็น Apple Maps, iCloud หรือแม้กระทั่ง Apple Music ยิ่งปีที่ผ่านมา Apple เปิดตัว Apple TV+, Apple News+ และ Apple Arcade ทำให้ยิ่งต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาก
Ruslan Meshenberg นั้นมีประวัติร่วมพัฒนาระบบสำหรับ Netflix ให้รับมือกับการใช้งานจำนวนมากๆ ไหว เพราะ Disney+ นั้นให้บริการเฉพาะในสหรัฐเท่านั้น ขณะที่ Apple TV+ ให้บริการทั่วโลกกว่า 50 ประเทศ และผู้คนจำนวนมากที่ซื้อ iPhone , iPad ใหม่ได้รับสิทธิ์ชมฟรีเป็นเวลาหนึ่งปี ทำให้มีจำนวนผู้ใช้งานเยอะกว่ามาก
ในผลประกอบการรอบล่าสุด แผนกธุรกิจให้บริการของ Apple ทำรายได้ทั้งสิ้น $13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อพิจารณาว่าผู้ใช้งาน Apple TV+ ในตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้ฟรี ปลายปีนี้เราน่าจะเห็นผู้ที่ตัดสินใจใช้งานต่อ และจ่ายเงินจริงๆ แล้ว ตัวเลขธุรกิจให้บริการอาจจะเติบโตขึ้นอีกมากหลังจากเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป
ที่มา – 9to5Mac