Apple จัดงานแถลงผลประกอบการไตรมาสแรก (กันยายน – ธันวาคม) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไตรมาสที่สำคัญที่สุดของทุกปีเนื่องจากเป็นช่วงที่ผู้คนออกมาจับจ่ายใช้สอยรับปีใหม่นั่นเอง
ไตรมาสนี้ Apple ทำรายได้ทั้งหมด $123,950 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว 11% โดยมีกำไรอยู่ที่ $34,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ก่อนหน้านี้ Apple เคยทำนายเอาไว้ว่าไตรมาสนี้รายได้น่าจะลดลง เนื่องจากปัญหาเรื่องสารกึ่งตัวนำขาดแคลนส่งผลกระทบให้ไม่สามารถผลิตได้มากเท่าที่ควร อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าแม้จะผลิตได้ค่อข้างจำกัด แต่รายได้ยังคงเพิ่มเติมกว่าปีก่อนหน้า ปัจจุบัน Apple ไม่เผยยอดขายแล้วว่าสามารถขายผลิตภัณฑ์ได้จำนวนเท่าไหร่ แต่เผยเป็นยอดรายรับแทน โดยที่เผยมาในเอกสารมีดังนี้
- iPhone: 71,630 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เติบโต 9%)
- Mac: 10,850 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เติบโต 25%)
- iPad: 7,250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เติบโต 14%)
- Wearable, Home, Accessories: 14,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เติบโต 13%)
- บริการ: 19,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เติบโต 24%)
ธุรกิจภาคบริการของ Apple จัดว่าน่าสนใจ (iCloud, Apple Arcade, Apple Music, Apple TV, Apple Care) เนื่องจากเติบโตก้าวกระโดดแทบทุกไตรมาส ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบริการของ Apple นั้นขายกันเป็น Ecosystem ช่วยๆ กันดึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องให้เติบโตตามไปด้วย
ที่มา – 9to5Mac