ที่งาน WWDC ทาง Apple ไม่ได้พูดถึง watchOS 9 มากนัก แต่หลักๆ แล้วยังโฟกัสกับการออกกำลังกายอยู่ และมีการเพิ่มเติมการดูแลด้านเภสัชกรรมมากขึ้น เช่นฐานข้อมูลรายละเอียดของยา หรือการตั้งให้เตือนเรื่องการกินยา
watchOS 9 ปีนี้ก็ยังมีหน้าปัดใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา โดยจะมีหน้าปัดใหม่สี่แบบด้วยกัน ได้แก่
- Astronomy
- Lunar
- Playtime
- Metropolitan
นอกจากหน้าปัดใหม่แล้ว เวอร์ัชนนี้จะอนุญาตให้เราปรับแต่งการใช้งานมากขึ้น เช่นการเปลี่ยนสีฉากหลังของหน้าปัดของฉากหลัง เปลี่ยนหน้าปัดตามโหมด Focus ที่ใช้ สำหรับการออกกำลังกาย Apple เพิ่มวิธีการบันทึกข้อมูลการวิ่งใหม่ ไม่ว่าจะเป็นวิธีวิ่ง ระยะขึ้นลงในการวิ่ง และระยะเวลาที่สัมผัสพื้น กับโซนของจังหวะชีพจร โดยการเก็บข้อมูลเหล่านี้เหมาะกับผู้ที่เน้นออกกำลังกายหนัก รวมไปถึงไตรกีฬาที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานสลับโหมดการออกกำลังกายทั้งสามอย่าง ได้แก่การปั่นจักรยาน การว่ายน้ำ และการวิ่ง เรื่องสุดท้ายคือผู้ที่ใช้ Fitness Plus จะสามารถส่งวิดิโอขึ้นไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ผ่าน AirPlay ได้ ไม่จำกัดแค่เฉพาะ Apple TV อีกต่อไป (ในตอนนี้ watchOS 8 แม้จะล็อกให้ส่งกับ Apple TV อยู่ แต่ก็ส่งผ่าน AirPlay เหมือนกัน)
การเก็บข้อมูลการนอนรอบนี้มีความละเอียดมากขึ้น มีการบันทึก Stage ของการนอนครบทั้งสามแบบ (REM, Core, Deep) โดยเราสามารถดูได้ว่าการนอนของเรานั้นมีคุณภาพแบบไหน นอกจากนี้ยังมีข้อมูลการตรวจ AFib History (ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว) ให้เราดูด้วย แต่ฟีเจอร์นี้ยังไม่ได้รับอนุมัติจากหน่วยงานอาหารและยาในสหรัฐ ส่วนประเทศอื่นๆ นั้นน่าจะต้องรอต่อไปอีก
สำหรับการช่วยเหลือทางเภสัชกรรม Apple Watch สามารถตั้งให้แจ้งเตือนเวลาที่ต้องกินยาได้ รวมไปถึงสร้างรายชื่อยาของตัวเองได้ด้วย ถ้าหากสะกดชื่อไม่ถูกก็สามารถใช้ iPhone แสกนชื่อยาแล้วใส่ข้อมูลได้ รวมไปถึงมีฐานข้อมูลของยาแต่ละชนิดว่าเป็นยาอะไร กินอย่างไร และทำอะไรได้ แต่ข้อมูลส่วนใหญ่จะถูกจำกัดการใช้งานเอาไว้ในสหรัฐ
แน่นอนครับว่า watchOS 9 เปิดให้นักพัฒนาที่ลงทะเบียนเอาไว้กับ Apple ทดสอบแล้ว ส่วน Public Beta จะเริ่มต้นในเดือนหน้า และออกตัวจริงในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ถ้าเหมือนทุกปี ก็น่าจะเป็นเดือนกันยายนนี่แหละครับ)
และสุดท้ายคือปีนี้ Apple Watch Series 3 จะไม่ได้อัพเกรดเป็น watchOS 9 ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจนัก เนื่องจากปีที่ผ่านมาการอัพเกรดเป็น watchOS 8 ก็จัดว่าเป็นความท้ามายมากทีเดียว เช่นจะต้องทำการ Factory reset ก่อนจึงจะอัพเดทได้เนื่องจากหน่วยความจำพื้นที่ไม่เพียงพอ
ที่มา – The Verge