มาแล้วกับชุดหูฟัง True Wireless ระดับโปร Samsung Galaxy Buds2 Pro รุ่นที่ 2 ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยเทคโนโลยีใหม่ คุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi 24-Bit ที่น่าจะถูกใจนักฟังเพลงระดับเทพที่เน้นคุณภาพเสียงเป็นหลัก มาแกะกล่องลองฟังดูกันเลยว่าจะเป็นอย่างไร
แกะกล่องลองฟัง Samsung Galaxy Buds2 Pro
กล่องของ Galaxy Buds2 Pro มาในแนวสีดำดุดัน โดยที่ด้านหน้ากล่องมีรูป Galaxy Buds2 Pro เป็นสีตามที่อยู่ในกล่อง และที่หลังกล่องก็มีจุดเด่นของรุ่นบ่งบอกอยู่ ไม่ว่าจะเป็นระบบเสียง Ultimate Hi-Fi พร้อมลำโพง 2 ทิศทาง, ระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Active Noise Cancelling, มีความพอดีกับใบหู และสามารถฟังได้ต่อเนื่อง 5-18 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีโลโก้ Sound by AKG เจ้าเดิมอีกด้วย ส่วนอุปกรณ์ในกล่องก็มีดังนี้
- Galaxy Buds2 Pro สี Bora Purple
- Charging Case
- สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C
- Ear tips 3 ขนาด (ขนาดกลางติดกับหูฟัง)
- คู่มือการใช้งาน
Galaxy Buds2 Pro สี Bora Purple แมทซ์กับ Galaxy Z Flip4 อย่างลงตัว
สี Bora Purple ถือว่าเทรนด์ที่มาแรงของปีนี้ ทั้งสมาร์ทโฟน Galaxy Z Flip4 และหูฟัง Galaxy Buds2 Pro ก็มีสี Bora Purple ที่ออกแบบมาให้มีสีสันที่เข้ากันพอดี สามารถเลือกซื้อได้เป็นเซ็ตสีนี้ได้เลย สำหรับ Charging case ของ Galaxy Buds2 Pro มีขนาดเท่ากับรุ่นก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็น Buds Live, Buds Pro, Buds2 หากมีเคสของรุ่นก่อนหน้านี้ก็นำมาใช้ด้วยกันได้อย่างพอดี
Charging Case ด้านหน้ามีไฟบอกสถานะของแบตเตอรี่ของเคสแบ่งออกเป็น 3 สี คือสีเขียว เหลือง และแดง ด้านหลังเป็นพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ ส่วนด้านล่างสามารถนำไปวางกับแท่นชาร์จไร้สาย หรือวางกับด้านหลังของสมาร์ทโฟนที่รองรับการชาร์จไร้สายได้ อย่างเช่น Galaxy Z Flip4, Galaxy S22 เป็นต้น
เมื่อเปิด Charging case ออกมาก็จะพบกับหูฟังทั้งสองข้างที่กำลังชาร์จแบตเตอรี่อยู่ มีไฟบอกสถานะการชาร์จของหูฟัง หากเป็นสีแดงบอกสถานะว่ากำลังชาร์จแบตเตอรี่อยู่ หากเป็นสีเขียวหมายถึงชาร์จเสร็จเรียบร้อยแล้ว หรือหากต้องการดูระดับแบตเตอรี่เป็นเปอร์เซ็นต์ก็สามารถเปิดดูได้ในแอพฯ Wearable บนสมาร์ทโฟน
และเมื่อเปิดเคสออกมาก็จะพบกับหูฟังทั้งสองข้างวางชาร์จอยู่ พร้อมไฟบอกสถานะการชาร์จแบตเตอรี่ของหูฟัง หากเป็นสีเขียวบ่งบอกว่าแบตเตอรี่เต็ม และหากเป็นสีแดงเป็นสถานะการชาร์จแบตเตอรี่ของหูฟัง และเมื่อหยิบหูฟังออกมาก็จะพบกับหน้าสัมผัสชาร์จแบตเตอรี่กับตัวหูฟัง
ดีไซน์หูฟังสี Bora Purple คราวนี้เป็นสีแบบด้านทั้งหมด ที่ตัวหูฟังด้านนอกมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการแตะสั่งงาน มีไมโครโฟนรับเสียงมาให้ถึง 2 ตัวสำหรับตัดเสียงรบกวนแบบ Active Noise Canceling ส่วนด้านในมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ และมีหน้าสัมผัสสำหรับชาร์จแบตเตอรี่กับ Charging case ส่วน Ear tip ใช้วัสดุเป็นซิลิโคน มีมาให้ 3 ขนาด สามารถถอดเปลี่ยนได้ตามขนาดของใบหู
รองรับสมาร์ทโฟน Android และ iOS ด้วยแอพฯ Galaxy Wearable
สำหรับการใช้งาน Galaxy Buds2 Pro สามารถใช้งานได้ทั้งสมาร์ทโฟน Android, iOS หรือแม้กระทั่งกับคอมพิวเตอร์ Windows, MacOS โดยทำการเชื่อมต่อ Bluetooth ตามขั้นตอน แต่หากใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนสามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่น Wearable เพื่อทำการปรับแต่งการตั้งค่าของชุดหูฟัง และยังใช้อัพเดทซอฟท์แวร์ของชุดหูฟังได้ด้วย
แอพฯ Wearable สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งจาก PlayStore ของสมาร์ทโฟน Android และ AppStore ของ iOS แต่หากใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy จะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพกว่า และเชื่อมต่อได้ง่ายกว่า เพียงแค่เปิดฝา Charging case หน้าจอก็จะมี Pop up ให้กดเชื่อมต่อทันที ไม่ต้องเข้าไปตั้งค่า Bluetooth ให้วุ่นวาย
โดยเฉพาะการเชื่อมต่อจะง่ายขึ้นหากใช้งานร่วมกับ Samsung เมื่อเปิดฝาหูฟังขึ้นมาจะมี Pop up แจ้งเตือนให้เชื่อมต่อทันที หรือหากไม่มีก็สามารถเข้าแอพฯ เพื่อเชื่อมต่อได้เลย เพียงแค่เลือกอุปกรณ์ให้ตรงกัน เมื่อเชื่อมต่อแล้วอาจจะมีให้อัพเดทก็สามารถกดอัพเดทได้ทันที สามารถดูระดับแบตเตอรี่ของหูฟัง และ Charging case ได้ นอกจากนี้ยังมีให้เลือกตั้งค่าหูฟัง และคู่มือการใช้งานเบื้องต้นให้อ่านอีกด้วย
ในการเริ่มต้นใช้งาน แอพฯ Wearable จะให้เราทดสอบความพอดีของหูฟัง โดยการนำหูฟังใส่ที่หูทั้ง 2 ข้างให้พอดี จากนั้นให้เริ่มทำการทดสอบโดยหูฟังจะเปล่งเสียงเมโลดี้สั้นๆ ออกมา หากหูฟังข้างไหนไม่พอดีหน้าจอก็จะแจ้งเตือนให้เราทำการปรับหูฟังใหม่ หรือทำการเปลี่ยน Ear tip ให้มีขนาดพอดีกับหูมากขึ้น และเมื่อหูฟังเข้ากับหูได้พอดีแล้วก็เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการทดสอบความพอดีของหูฟัง นอกจากนี้ยังมีให้เลือกปรับ Equalizer ของเสียง มีให้เลือกปรับ 5 แบบ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มเสียงเบส, เพิ่มเสียงกลาง ปรับไดนามิกของเสียง เป็นต้น
ระบบเสียง Hi-Fi 24-Bit พร้อมตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling
Galaxy Buds2 Pro มาพร้อมระบบเสียง Hi-Fi 24-Bit ที่ให้เสียงชัดเจนเหมือนกับต้นฉบับ เหมาะกับผู้ใช้ที่เน้นคุณภาพของเสียงอย่างเช่นไฟล์เพลงแบบ Lossless หรือ Hi-Res Audio ที่มีคุณภาพเสียงในระดับ 24 bit และยังมีระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling โดยอาศัยไมโครโฟน 3 ตัวรับเสียง และตัดเสียงรบกวนอื่นๆ ออกไป ทำให้การฟังเพลงมีความสุนทรีย์มากขึ้น ไม่มีเสียงอื่นใดมารบกวนขณะฟังเพลง โดยจากการทดสอบถือว่าระบบตัดเสียงรบกวนของรุ่นนี้ทำได้ดี Galaxy Buds Pro กว่ารุ่นก่อนพอสมควร และสำหรับการใช้ออกกำลังกาย หรือเดินบนท้องถนนก็มีโหมด Ambient sound ที่จะรับเสียงจากภายนอกให้ผู้ใช้งานได้ยินเสียงต่างๆ เหมาะกับการใช้งานนอกบ้านที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเดินด้วย
ระบบเสียง Dolby Atmos สมจริงด้วยเสียง 360 องศา เล่นเกมได้ไม่มีดีเลย์
Galaxy Buds2 Pro ยังมีระบบเสียง Dolby Atmos ที่ให้เสียงเสมือนจริง มาพร้อมเทคโนโลยี Head tracking ตรวจจับการหันของศีรษะ โดยจะจำลองเสียงรอบทิศทาง 360 องศา เหมือนกับการได้ยินเสียงจากแหล่งกำเนิดเสียงจริงๆ จากการทดสอบระบบเสียง 360 องศา และระบบติดตามศีรษะเพื่อฟังเพลง เพียงแค่เราหันหัวไปทางซ้ายนิดหน่อย ระดับเสียงที่ด้านซ้ายจะเริ่มเบาลง แต่เสียงทางด้านขวาจะดังขึ้นเหมือนกับว่าเราอยู่ในแหล่งกำหนดเสียงจริงๆ
และสำหรับการดูภาพยนตร์ และการเล่นเกมที่เป็นปัญหาของหูฟัง True Wireless คือเสียงจะดีเลย์มาก หากดูหนังก็จะรู้สึกว่าปากกับเสียงไม่ตรงกัน เล่นเกมก็ได้ยินเสียงดีเลย์ ไม่ทันตอบโต้คู่ต่อสู้ แต่ปัญหานี้จะหมดไปด้วยฟีเจอร์ Game mode จะทำให้เสียงดีเลย์น้อยลงมากจนแทบจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างกับหูฟังแบบมีสาย ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดมาก
บทสรุป Galaxy Buds Pro2 จากความเห็นของ What Phone
หลังจากที่ได้ลองฟังเสียงเพลงจาก Galaxy Buds2 Pro ถือว่าเป็นหูฟังที่มีคุณภาพเสียงดีมากทีเดียว ให้เสียงใสคมชัด โดยเฉพาะกับไฟล์เพลงที่มี Bitrate สูงๆ เสียงเบสลึก เสียงกลางครบ เสียงสูงใส เรียกได้ว่ามาครบชัดเจนทุกเสียง ตัวหูฟังสามารถฟังเพลงได้ยาวๆ โดยไม่อึดอัดเมื่อยล้าหู หากดูหนัง หรือเล่นเกมต้องเปิด “โหมดเกม” เสียงจึงจะไม่ดีเลย์ หรือดีเลย์น้อยมากๆ ส่วนระบบตัดเสียงรบกวนถือว่าทำได้ดีกว่ารุ่นก่อนพอสมควร ตัดเสียงได้เงียบ แต่ก็ยังพอมีเสียงอื่นเข้ามาได้บ้าง โดยรวมถือว่าเป็นที่น่าพอใจสำหรับคนรักเสียงเพลง หากต้องการหูฟัง True Wireless คุณภาพดีแล้วล่ะก็ แนะนำให้ไปลองฟังก่อนแล้วจะติดใจ
สรุปสเป็ค
- ขนาดหูฟัง 21.6 x 19.9 x 18.7 มม. น้ำหนัก 5.5 กรัม
- ขนาด Charging case 50.2 x 50.1 x 27.7 มม. น้ำหนักรวม 43.4 กรัม
- เทคโนโลยี Bluetooth 5.3
- ระบบตัดเสียงรบกวนด้วยไมโครโฟนข้างละ 3 ตัว
- ระบบเสียง Hi-Fi 24-Bit, Dolby Atmos, 360 Audio
- สั่งงานด้วยระบบสัมผัส พร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่
- แบตเตอรี่หูฟังความจุ 61 mAh/ข้าง, แบตเตอรี่ Charging case 515 mAh
- กันน้ำตามมาตรฐาน IPX7
- รองรับระบบชาร์จแบบไร้สาย
- เซ็นเซอร์ Accelerometer, Gyro Sensor, Hall Sensor, Proximity Sensor, Touch Sensor, VPU (Voice Pickup Unit)
- รองรับระบบ SmartThigs
- มี 3 สีให้เลือก Bora Purple, Graphite, White
- ราคาเปิดตัว 6,990 บาท