ทำความรู้จัก Windows 10 ทั้ง 6 Editions
ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ระบบปฏิบัติการใหม่ที่ทาง Microsoft เตรียมที่จะเปิดให้อัพเดทกันในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ ใน 190 ประเทศ รองรับ 111 ภาษา โดยระบบปฏิบัติการ Windows 10 นี้จะถูกแบ่งย่อยออกเป็นทั้งหมด 6 Editions หรือ 6 รูปแบบนั่นเอง ในแต่ละ Editions ก็จะแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของคอมพิวเตอร์, แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน โดยเราจะมาทำความรู้จัก Windows 10 ทั้ง 6 Editions กันครับ
ระบบปฏิบัติการ Windows 10 จะเป็นเวอร์ชั่นต่อจากระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 และ Windows Phone 8.1 ซึ่งทั้ง 2 ระบบปฏิบัติการนี้ได้ถูกใช้งานบนคอมพิวเตอร์, แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 จะถูกใช้งานบนอุปกรณ์อื่นๆ อย่างเกมคอนโซล Xbox One และอุปกรณ์ใหม่ Microsoft HoloLens และ Surface Hub โดยจุดเด่นของระบบปฏิบัติการ Windows 10 นี้จะเชื่อมต่อกันมากขึ้น และใช้แอพพลิเคชั่นแบบ Universal ที่นักพัฒนาพัฒนาแอพฯ ขึ้นมาเพียงครั้งเดียว สามารถใช้งานได้ทุกอุปกรณ์ แต่เพื่อความชัดเจนทาง Microsoft จึงทำการแบ่งระบบปฏิบัติการ Windows 10 ออกเป็น 6 Editions
Windows 10 Home
สำหรับเน้นผู้ใช้งานเดสก์ท็อปหรือคอมตั้งโต๊ะเป็นหลัก ซึ่งรวมไปถึงการใช้งานบนแล็ปท็อป, แท็บเล็ต และแบบ 2 in 1 ที่สามารถใช้งานฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่าง Cortana ผู้ช่วยดิจิตอล และ Microsoft Edge เบราว์เซอร์ใหม่ที่จะมาทดแทน Internet Explorer หรือ IE ที่เราคุ้นเคยกันมานาน และถ้าหากตัวเครื่องเป็นแท็บเล็ตหรือโน๊ตบุ๊คแบบ 2 in 1 ที่สามารถถอดคีย์บอร์ดเพื่อสลับการใช้งานได้ ก็จะมีโหมด Continuum ที่จะเปลี่ยนโหมดการใช้งานแท็บเล็ตและโน๊ตบุ๊คให้แบบอัตโนมัติ พร้อมกันนี้ยังใช้งาน Windows Hello ระบบสแกนม่านตาเพื่อปลดล็อคการใช้งาน (สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับ) และมีการปรับปรุงแอพฯ หลักใหม่ อาทิ Photos, Maps, Mail, Calendar, Music และ Video
และใน Windows 10 Home นี้ยังเพิ่ม Xbox Live สำหรับพูดคุยกับเพื่อนที่เล่นเกมใน Xbox สามารถทำการบันทึกหน้าจอ และแชร์เกมที่เล่นจาก Xbox One ได้ รวมไปถึงการเล่นเกมที่คอมพิวเตอร์ของคุณต่อเนื่องจาก Xbox One ด้วย
Windows 10 Mobile
เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ขนาดเล็กที่เน้นการใช้งานทัชสกรีนเป็นหลัก สามารถใช้แอพฯ แบบ Universal ที่มีหน้าตาเหมือนกับ Windows 10 Home ทำให้คุณไม่ต้องปรับตัวมากมาย อีกทั้งยังใช้งานง่ายเพราะแอพฯ จะปรับให้เน้นการใช้งานจากการทัชสกรีนเป็นหลัก
พร้อมกันนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ Continuum for Phones ที่จะใช้สมาร์ทโฟน Windows 10 Mobile ของคุณแชร์หน้าจอไปยังจอทีวี จากนั้นสามารถใช้การเชื่อมต่อเมาส์และคีย์บอร์ดผ่านบูลทูธใช้งานเสมือนคอมพิวเตอร์ได้ทันที แน่นอนว่า Cortana ผู้ช่วยดิจิตอลก็ยังคงอยู่ และใช้เบราว์เซอร์ใหม่ Microsoft Edge เช่นเดียวกัน
Windows 10 Pro
สำหรับอีดิชั่นนี้จะมีฟีเจอร์หลักๆเหมือนกับ Windows 10 Home ที่ใช้งานบนคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป, แล็บท็อป และแท็บเล็ตแบบ 2 in 1 แต่ Windows 10 Pro จะเน้นสำหรับองค์กรธุรกิจขนาดเล็กที่จะคอยจัดการอุปกรณ์และข้อมูลภายในองค์กรให้ปลอดภัย พร้อมฟีเจอร์เด่น Remote จากเครื่องอื่น รวมถึงการใช่สมาร์ทโฟนสั่ง Remote เข้ามาแก้ไขได้เช่นกัน และ Windows 10 Pro นั้นรองรับ Choose Your Own Device (CYOD) ให้พนักงานเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับตนเอง เพื่อลดรายจ่ายขององค์กรและสามารถใช้งานร่วมกันภายในองค์กรได้อย่างต่อเนื่อง
Windows 10 Enterprise
ต่อยอดมาจาก Windows 10 Pro จะเหมาะสมสำหรับภาคองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ เพิ่มความปลอดภัยสำหรับการใช้งานในองค์กรมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการระบุตัวตน, แอพพลิเคชั่น และข้อมูลลับภายในองค์กร Windows 10 Enterprise ยังรองรับอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการอื่นๆ รวมถึงการเปิดให้พนักงานสามารถเลือกอัพเกรดระบบต่างๆของตนเองได้ และสามารถเข้าร่วมโปรแกรม Volume Licensing สามารถซื้อซอฟท์แวร์ได้ในราคาถูกกว่าการซื้อซอฟต์แวร์แบบกล่องจำหน่ายปลีก จะเป็นการช่วยประหยัดรายจ่ายให้กับองค์กรเพิ่มมากขึ้น
Windows 10 Mobile Enterprise
นอกจากจะมี Windows 10 Enterprise สำหรับองค์กรแล้ว ยังมี Windows 10 Mobile Enterprise สำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตขนาดเล็กโดยเฉพาะ และรองรับ Volume Licensing เช่นเดียวกัน แน่นอนว่าการใช้งานรูปแบบนี้จะมีความปลอดภัยในเรื่องของการจัดการสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตขนาดเล็กต่างๆ
Windows 10 Education
ได้มีการปรับปรุงจาก Windows 10 Enterprise เพื่อให้เหมาะสมสำหรับโรงเรียน, สถาบัน, มหาวิทยาลัย ที่ต้องการนำไปใช้เพื่อการเรียนการสอนต่างๆ สามารถเข้าร่วมโปรแกรม Volume Licensing ได้เช่นกัน นอกจากนี้โรงเรียนและนักเรียนที่ใช้ Windows 10 Home และ Windows 10 Pro สามารถอัพเกรดเป็น Windows 10 Education ได้
สำหรับ Windows 10 Home, Windows 10 Pro และ Windows 10 Mobile ทาง Microsoft จะเปิดให้ผู้ใช้งาน Windows 7, Windows 8.1 และ Windows Phone 8.1 ได้อัพเกรดฟรีในปีแรก ซึ่งจะนับระยะเวลาหลังจากเปิดอัพเกรด หลังจากอัพเกรดเป็น Windows 10 แล้ว ก็จะสามารถอัพเกรด Windows 10 ในเวอร์ชั่นต่อๆ ไปได้ฟรี ส่วน Windows 10 Enterprise, Windows 10 Mobile Enterprise และ Windows 10 Education จะต้องติดต่อกับทาง Microsoft