ในวันที่ 24 สิงหาคมนี้เป็นการบุกตลาดไทยอย่างเป็นทางการของ Xiaomi หนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก ภายใต้ความร่วมมือของ VST ECS โดยแถลงผ่านสื่อในงาน “Xiaomi is Here!”
ผู้บริหารของเสี่ยวมี่และวีเอสที อีซีเอส ร่วมมือกันเปลี่ยนความหวังของผู้ใช่งานที่ต้องการเทคโนโลยีที่ดีที่สุดควบคู่ไปกับราคาที่สามารถจับต้องได้ง่าย โดยจะเริ่มที่ตลาดสมาร์ทโฟนในไทยเป็นหลัก และบุกตลาดต่อด้วยผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Mi Ecosystem และแก็ดเจ็ตต่างๆ
ในด้านการบริการหลังการขายนั้นก็ไม่ต้องห่วงด้วยการเปิด Mi Store เพื่อจจัดจำหน่ายสินค้าและให้บริการ และใครที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ของเสี่ยวมี่ที่ซื้อมาจากที่อื่นแล้วต้องการใช้บริการซ่อมก็สามารถเข้าใช้บริการได้ด้วยล่ะ สบายใจหายห่วงได้เลย (แต่เสียค่าบริการรวมอะไหล่ด้วยนะ) แต่ตอนนี้ Mi Store ยังไม่เปิดให้บริการนะ
พร้อมทั้งเปิดตัวกลุ่ม Mi Community ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ทุกคนสามารถเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนี้เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและรับสิทธิิเศษที่เสี่ยวมี่มอบให้ โดยสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชันผ่าน Google Play ได้ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม
สมาร์ทโฟนที่จะเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
ในงานก็ไม่พลาดด้วยประการทั้งปวงโดยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุดอย่าง Mi 6 ดีไซน์สวยทรงโค้งเงางาม ทนทานด้วยกรอบสแตนเลส มาพร้อมกล้องคู่เลนส์มุมกว้างและมุมแคบ รองรับการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ ขับเคลื่อนด้วยชิพประมวลผล Snapdragon 835 บอดี้กันละอองน้ำ
-
- Ram 6GB Rom 64GB
-
- Ram 6GB Rom 128GB
มีขายทั้งหมดสองรุ่น คือรุ่นความจุ 64GB ราคา 13,790 บาทและรุ่น 128GB ราคา 15,990 บาท (ราคานี้จริงๆซะด้วยนะ ราคาน่าจับต้องมาก) วางจำหน่ายจริงในวันที่ 1 กันยานเป็นต้นไปทาง Lazada
ตามต่อด้วยรุ่นระดับกลางยอดฮิตในหมู่ผู้ใช้เสี่ยวมี่อย่าง Redmi Note 4 ที่ขับเคลื่อนด้วย Qualcomm Snapdragon 625 และแบตสุดอึดถึง 4,100 mAh การันตีการใช้งานตลอดวัน
แต่เดี๋ยวก่อน รุ่นนี้มีเซอร์ไพรส์ด้วยเช่นกัน ด้วยการนำรุ่นความจุแบบพิเศษ รุ่นแรม 4GB รอม 64GB ในราคาเพียง 6,790 บาทเท่านั้น หาซื้อได้ที่ Lazada ในวันที่ 25 สิงหาคมเป็นต้นหรือ จะจำซื้อตามไอที ซิตี้ได้ในวันที่ 28 สิงหาคม
และรุ่นอื่นๆก็มีวางจำหน่ายแล้วเช่น Redmi 4A, Redmi 4X และ Redmi Note 4 (3/32GB)
แล้วผลิตภัณฑ์อื่นๆล่ะ?
แน่นอนเราก็ไม่พลาดเช่นกันที่จะสอบถามและเก็บรายละเอียดมาให้ด้วย โดยสินค้านั้นหลักๆก็มี กระเป๋า หูฟังสมอลทอล์ค หูฟังบลูทูธ พาวเวอร์แบงค์ สายข้อมืออัจฉริยะ Mi Band พร้อมยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในเครือ Mi Ecosystem ทั้งสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เครื่องชั่งน้ำหนัก และกล้องถ่ายภาพ Mi Sphere Camera ที่สามารถถ่ายวิดีโอได้ 360 องศาเลยทีเดียว พร้อมเคาะราคาเปิดตัวออกมาให้ได้ชมกันอีกด้วย
นอกจากซื้อจาก Mi Store แล้วยังซื้อได้ที่อืนอีกมั้ย?
ได้ครับ เพราะทางเสี่ยวมี่ก็มีช่องทางจำหน่ายทางออนไลน์เช่นกันผ่านทาง Lazada หรือจะซื้อตามร้านตัวแทนจำหน่ายชั้นนำก็สามารถหาซื้อได้แล้วครับ
หลังจากนี้ทุกคนสามารถติดตามข่าวสารได้ที่เพจเฟซบุ๊คของเสี่ยวมี่ประเทศไทย facebook.com/thailand.xiaomi
