Mi Mix
สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านวันนี้ผมจะพาไปพบกับอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของวงการสมาร์ทโฟนที่ก่อขึ้นโดยบริษัทแดนมังกรอย่าง Xiaomi กับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่สวยงาม แปลกตา แต่แฝงไปด้วยอนาคต และมีสเปคที่จัดได้ว่าจัดจ้านไม่แพ้เรือธงรุ่นอื่นๆ ณ เวลานี้
Mi Mix เหมือนเกิดจากความฝัน Xiaomi ใช้คำว่า Concept phone ซึ่งตอนแรกทำเอาผมนึกว่า ยังไม่มีวางจำหน่ายเร็วๆ นี้และไม่ใช่รูปแบบนี้ในเวลาเปิดตัวจริงๆ แต่กลายเป็นว่ามันจะขายเร็วๆ นี้และหน้าตาแบบนี้เลย อ้าว เฮ้ย! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่ Xiaomi อธิบายว่าพวกเขาสร้าง Mi Mix จากคำถามที่ว่า “อนาคตของสมาร์ทโฟนคืออะไร?” สิ่งที่พวกเขาพบคำตอบคือสมาร์ทโฟนจะเปลี่ยนแปลงไป อาจจะถึงขั้นไม่มีหน้าจอ เพราะเป็นหน้าจอแบบโฮโลแกรม หรืออาจจะเป็นหน้าจอไร้ขอบ นั่นเลยเป็นที่มาของ Mi Mix ซึ่งนำเทคโนโลยีทุกอย่างที่มีมาทำให้มันเหมือนกับสมาร์ทโฟนที่คุณอยากได้มากที่สุด
สมาร์ทโฟนไร้ขอบอาจจะยังไม่มีจริงในวันนี้แต่ Mi Mix เกือบทำได้ เพราะ Mix มีพื้นที่ด้านหน้าเป็นหน้าจอไปมากถึง 91.3% ซึ่งมากที่สุดในโลกในเวลานี้ ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Apple iPhone 7 Plus มีพื้นที่หน้าจอเพียง 67.7% เท่านั้น
การออกแบบ Mi Mix มีความน่าสนใจเนื่องจากผู้ออกแบบตัวเครื่องได้ทำงานร่วมกับ Xiaomi มาอย่างยาวนานถึง 3 ปีกว่าจะเป็น Mix ออกมาแบบนี้ โดยผู้ออกแบบนาม “Phillipe Starck” นักออกแบบระดับโลกที่คลุกคลีกับวงการออกแบบสิ่งของมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และคราวนี้มาเป็นสมาร์ทโฟน
วัสดุตัวเครื่องใช้เป็นเซรามิคทั้งหมด การออกแบบมีสไตล์ที่เน้นเรียบง่าย เรียบหรู ทรงเหลี่ยม หน้าจอใหญ่ขนาด 6.4 นิ้ว ขนาดบาง 7.9 มม. หนัก 209 กรัม เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ออกแบบได้ค่อนข้างลงตัว ขนาดเครื่องมีขนาดพอๆ กับ Apple iPhone 7 Plus แต่มีขนาดหน้าจอใหญ่กว่าเกือบ 1 นิ้ว
หน้าจอของ Mi Mix ขนาด 6.4 นิ้ว มาพร้อมความละเอียด 2040 x 1080 พิกเซล จะเห็นว่าตัวเลขแปลกๆ เพราะเป็นหน้าจอขนาดสัดส่วน 17:9 ซึ่งแตกต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไปที่มีสัดส่วน 16:9 ซึ่ง Xiaomi ให้เหตุผลว่าหากทำ 16:9 จะทำให้เครื่องดูเหลลี่ยมเกินไปไม่สวยงาม และด้วยขนาดหน้าจอแบบนี้ตัวเครื่องก็ไม่ได้มีปัญหาใดๆ กับ App เพราะสัดส่วนที่เกินมานั้นจะให้สำหรับปุ่มควบคุมที่อยู่บนจอ ซึ่งกินพื้นที่ขึ้นมานิดนึงอยู่แล้ว ทำให้ปัญหานี้หมดไป
สิ่งที่ Mi Mix สร้างคำถามเอาไว้เมื่อหลายๆ คนได้เห็นมันก็คือ แล้วกล้องหน้าจะถ่ายอย่างไร? จะคุยโทรศัพท์ได้ยังไง? เซนเซอร์จะเอาไปไว้ตรงไหน? โดยสิ่งเหล่านี้ Xiaomi ตอบคำถามได้อย่างเฉียบคมด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่พวกเขานำมาปรับใช้
กล้องหน้าของ Mi Mix ถูกย้ายไปอยู่ด้านล่างของตัวเครื่อง ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล แต่ขนาดเซนเซอร์มีขนาดเล็กลงมากทำให้ไม่กินพื้นที่หน้าจอมากนัก เวลาถ่ายภาพแค่กลับเครื่องลงเท่านั้นก็สามารถถ่ายภาพได้เหมือนกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ทั่วไป
ลำโพงสนทนาของเครื่องถูกนำออกไป แต่ยังคงคุยโทรศัพท์ได้เหมือนเดิมนะ Xiaomi ได้อธิบายว่า ด้วยตัวเครื่องที่เป็นเซรามิคทำให้สามารถใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า “Cantilever Piezoelectric Ceramics” ง่ายๆ คือใช้เทคโนโลยีแปลงคลื่นไฟฟ้าออกมาเป็นเสียงส่งผ่านเซรามิคและตัวเครื่องออกมาได้ ทำให้ไม่จำเป็นต้นใช้ลำโพงสนทนาอีกต่อไปในการคุยโทรศัพท์มือถือ ที่จริงเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันแต่คนละแบบ เคยถูกนำมาใช้งานจริงแล้วกับ i-mobile IQ X Ken เมื่อหลายปีก่อน ที่ใช้การสั่นสะเทือนส่งเป็นเสียงออกมาแทนที่จะใช้ลำโพงสนทนา
เซนเซอร์ตรวจจับใบหน้าเวลาคุยโทรศัพท์แล้วทำให้จอดับเองนั้น ยิ่งอ่านแล้วจะรู้ว่าล้ำกว่าลำโพงสนทนาเมื่อครู่เสียอีก เพราะจุดนี้ได้นำเทคโนโลยีที่เรียกว่า Ultrasonic เข้ามาใช้งาน โดยเซนเซอร์จะถูกฝั่งอยู่ข้างใต้หน้าจอ แต่ใช้เทคโนโลยี Ultrasonic ส่งผ่านคลื่นที่ได้รับมาจากการที่วัตถุสัมผัสกับหน้าจอ ส่งตรงไปยังเซนเซอร์ทำให้หน้าจอดับลง เรียกว่า “Ultrasonic proximity sensor”
นอกจากนี้ Mi Mix ยังแพ็คสเปคที่จัดได้ว่าไม่เป็นสองรองใครในยุคนี้ อย่างหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 821 (Performance) ตัวท็อปสุด ณ เวลานี้ รองรับ 4G ใช้งานได้ 2 ซิม มี NFC พร้อม RAM สูงสุดถึง 6 GB และมีความจุมากสุดถึง 256 GB กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซลพร้อมระบบ PDAF และมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เหมาะสมขนาดตัวที่ 4,400 mAh กันเลยทีเดียว รองรับ Quick Charge 3.0 และใช้ USB-C ในการเชื่อมต่อ
Mi Mix กำลังจะเป็นสมาร์ทโฟนในใจของใครหลายๆ คน มันอาจจะยังไม่ไร้ขอบเหมือนที่เคยฝันไว้ แต่ Mix เป็นอีกหนึ่งก้าวของเทคโนโลยีที่จะทำให้สมาร์ทโฟนแบบไร้ขอบเกิดขึ้นจริงๆ ในเร็วๆ วันนี้ สนนราคาของตัวเครื่องเริ่มต้นที่ 18,200 บาท สำหรับรุ่น RAM 4 GB ROM 128 GB และ 23,300 บาทสำหรับรุ่น RAM 6 GB ROM 256 GB อย่างไรก็ตาม Mi Mix จะถูกวางขายที่ประเทศจีน ช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ ยังไม่มีแผนวางจำหน่ายที่ประเทศอื่น แต่เชื่อว่าไม่นานตลาดมือถือบ้านเราน่าจะมีนำเข้ามาจำหน่ายเร็วๆ นี้ครับ