ถ้าพูดถึงการดูหนัง( Movie Online ) ดูทีวีออนไลน์แล้วละก็ ไม่ใช่เรื่องใหม่เลยสำหรับคนไทย และทั่วโลกที่ใช้งานสมาร์ทโฟนกันอยู่ เรามีการดูออนไลน์กันมากว่าสิบปีแล้ว แต่ก็เป็นแค่การดูแบบง่ายๆ ไม่มีลูกเล่นอะไรมาก หรือการรับชมกันทาง YouTube และ Facebook Live! เท่านั้นเอง
ซึ่งเมื่อก่อนเราจะติดปัญหาเรื่องของหน้าจอที่เล็กมากจนดูไม่รู้เรื่อง ลำโพงเบาจนเอามานั่งดูข้างนอกบ้านไม่ไหว อินเตอร์เน็ตที่มีข้อจำกัดสูง ความเร็วต่ำ ค่าบริการอินเตอร์เน็ตสูงมาก ดูได้แป๊บเดียวก็เกิดอาการติดเพดานการใช้ข้อมูล (FUB) แต่ในยุคนี้การดูหนังออนไลน์นั้นพัฒนาไปไกลมากจนถึงจุดที่เรียกว่าไม่มีอุปสรรคในการรับชมอีกต่อไป เราสามารถกดดูหนังบนมือถือ และแท็บเล็ตได้ตลอดเวลาเท่าที่เราต้องการ What Phone ฉบับนี้เรามาเจาะลึกกันดูว่าการดูหนังออนไลน์มีอะไรบ้าง ทำงานอย่างไร เหมาะกับอุปกรณ์แบบไหน และมีค่าบริการอย่างไรกันบ้าง
รูปแสดงถึงการดูหนังออนไลน์นั้นได้รับความนิยมสูงมากจนทีวีได้เอาช่องออนไลน์ไปใส่ไว้ในรีโมตแล้ว
รู้จักกับขนาดของหน้าจอกันก่อน
หน้าจอของอุปกรณ์ที่เราใช้งานนั้นมีผลอย่างมากกับการรับชมในระยะประมาณหนึ่งฟุตจากตาของเรา สิ่งที่สำคัญอย่างมากคือความละเอียดของหน้าจอที่เอาไว้รับชม ไม่ใช่ขนาดของหน้าจอว่าใหญ่แค่ไหน ถึงแม้ว่าจอใหญ่กว่าจะสามารถรับชมได้ดีกว่า แต่ถ้ามีความละเอียดต่ำเราก็จะมองเห็นภาพเป็นเม็ดๆ แล้วไม่น่าดูชมเท่าไหร่ เรามาดูเทคโนโลยีของปัจจุบันว่ามีอะไรกันบ้าง ซึ่งจะช่วยให้เราดูหนังบนมือถือได้ดีแค่ไหนกันบ้าง
ความละเอียดของหน้าจอ ในปัจจุบันเราคงรู้จักกันแต่หน้าจอ HD เป็นมาตรฐานกันแล้ว ซึ่งก่อนหน้านั้นจอของมือถือจะมีความละเอียดมาตรฐานอยู่ที่ 800 x 480 พิกเซล เรียกว่าเกือบรุ่นธรรมดาทุกรุ่นที่ออกมาในช่วง 3-4 ปีที่แล้วเป็นหน้าจอ 800 x 480 กันทั้งหมด แต่ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีจนทำให้หน้าจอมีราคาถูกมากจนทุกวันนี้เราหาซื้อมือถือหน้าจอ HD ได้ในราคาพันกว่าบาทจึงทำให้เรามีโอกาสได้ใช้หน้าจอดีๆ ในราคาไม่แพงมากนัก ซึ่งหลายคนก็สงสัยกันว่า HD ที่ว่าคืออะไร มันคือชื่อเรียกย่อของความละเอียดจอที่นับเม็ดภาพจาก แนวตั้ง x แนวนอน มีหน่วยเป็นพิกเซล ซึ่งจะไม่เกี่ยวว่าจอมีขนาด 4 นิ้ว, 5นิ้ว และ 6 นิ้ว เลย เพราะความละเอียดนับที่เม็ดของภาพ ยิ่งจอมีขนาดใหญ่ขึ้นก็จะมีเม็ดที่ใหญ่ขึ้นด้วย ส่งผลให้ขอบของตัวหนังสือดูเป็นหยักๆ หน้าจอมือถือปัจจุบันมีความละเอียดแบบไหนบ้าง มาดูกันครับ
นอกจากนั้นยังมีอีกหนึ่งความละเอียดที่ไม่อยู่ในมาตรฐานอะไรทั้งสิ้น ก็คือความละเอียดที่ 1334 x750 พิกเซล เป็นความละเอียดของหน้าจอ iPhone 7 ที่มีการออกแบบมาให้ใช้งานได้กับไอโฟนเท่านั้น เนื่องจากมีระบบปฏิบัติการของตัวเอง และมีการวิจัยแล้วว่าเป็นขนาดหน้าจอแบบเรติน่าที่ตาเปล่าไม่สามารถแยกเม็ดพิกเซลออกได้ (อ้างอิงจากความถี่ของเม็ดพิกเซลเกิน 300 พิกเซลต่อตารางนิ้ว หรือ 300 PPI โดย Steve Jobs) และ iPhone 6 Plus เป็นต้นมาจนถึง iPhone 7 Plus จะใช้ความละเอียดแบบ Full HD
หลังจากที่เราทราบความละเอียดของมือถือที่เราใช้อยู่แล้วก็มาเริ่มดูหนังออนไลน์กันเลยดีกว่าครับ เรื่องความชัดเจนของการรับชมนั้นก็ขึ้นอยู่กับความละเอียดของหน้าจอสมาร์ทโฟนที่เราใช้งานอยู่ด้วย แต่จะให้มีประสิทธิภาพดีที่สุดคือการใช้งานกับหน้าจอ Full HD ซึ่งสามารถทำให้เราดูได้ชัดเจนได้เหมือนกับการนั่งดูจอ 32 นิ้วเลยทีเดียว
หลากหลายแอพฯ ดูหนังออนไลน์
ถ้าพูดถึงหนัง หรือภาพยนตร์ สิ่งแรกที่ตามมาก็คือเรื่องของลิขสิทธิ์นั่นเอง แน่นอนว่าไม่มีของฟรี ส่วนใหญ่แล้วจะคิดค่าบริการเหมาเป็นรายเดือน จะมีแค่บางแอพฯ และบางเรื่องเท่านั้นที่มีการคิดเงินเพิ่มจากหนังที่จะดูต่อหนึ่งเรื่องโดยการซื้อตั๋ว และเช่าชมตามระยะเวลาที่จำกัด แอพฯ ที่เราแนะนำสำหรับการดูหนังออนไลน์นั้นมีดังนี้
NETFLIX
เป็นผู้ให้บริการดูหนังออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา ให้บริการทั้งเคเบิ้ล ทีวีออนไลน์ และแอพฯ บนมือถือ เรียกว่าครบเครื่องที่สุด มีหนัง และซีรี่ย์อยู่ในระบบมากที่สุด มีเทคโนโลยีในการสตรีมมิ่งหนังที่ดีมากด้วย NETFLIX ยังมีหนังที่สร้างขึ้นมาเพื่อเอามาฉายในช่องของตัวเองด้วยหลายเรื่อง ส่วนใหญ่เป็นซีรี่ย์ที่ได้รับความนิยมสูงด้วย การ์ตูน และหนังหลายๆ เรื่องมีเสียงไทย และซับไทยให้อย่างครบถ้วน หมดปัญหาเรื่องฟังไม่รู้เรื่องไปเลย NETFLIX มีช่องสำหรับเด็กเพื่อดูรายการต่างๆ เรียงตามอายุของเด็กได้ เพื่อให้ไม่ข้ามไปยังการ์ตูนที่มีเนื้อหาซับซ้อน รุนแรงได้ ดีกว่าให้ลูกเปิดดู YouTube ที่ไม่รู้ว่าจะเจอรายการเนื้อหารุนแรง และฆ่าฟัน ข้อเสียของ NETFLIX นั้นคงจะมีอยู่เรื่องเดียวคือราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับผู้ให้บริการอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตามเราสามารถสมัครใช้บริการได้ฟรี 1 เดือน แนะนำว่าให้เลือกเป็นแพ็คเกจแพงที่สุดเพราะสามารถรับชมแบบ 4K Ultra HD ได้ แถมยังสามารถเปิดพร้อมกันได้ 4 อุปกรณ์ ถ้าจะใช้บริการรายเดือนก็แค่หาเพื่อนๆ มาช่วยหารค่าใช้จ่ายกันแค่นั้นเอง
MONOMAXXX
เป็นรายการออนไลน์ของช่อง MONO และ 3BB ที่ให้บริการหนัง การ์ตูนต่างๆ มีระบบเช่าเป็นรายเรื่อง และเหมาจ่ายรายเดือนด้วย รวมๆ แล้วหนังค่อนข้างเก่า ใช้ระบบซับไตเติ้ลฝังเข้าไปกับหนังเลยทำให้หลายๆ ครั้งที่หนังสตรีมมิ่งมาไม่ชัด ซับไตเติ้ลก็ไม่ชัดไปด้วย ดูไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ถ้าท่านใช้บริการอินเตอร์เน็ตของ 3BB อยู่แล้วลองติดต่อใช้งานฟรี หรือขอส่วนลดจากผู้ให้บริการได้
iFlix
เป็นผู้ให้บริการดูหนังออนไลน์ที่ค่อนข้างดีมากอีกแอพฯ หนึ่ง จุดเด่นของ iFlix คือมีการซื้อลิขสิทธิ์หนัง และซีรี่ย์ของเกาหลีมาให้เรารับชมอยู่มากมาย หลายเรื่องที่ดังๆ ก็มีอยู่ใน iFlix เกือบทั้งหมด รวมไปถึงซีรี่ย์อเมริกา และของไทยด้วย มีระบบจัดการหนังต่างๆ ที่ค่อนข้างดี มีช่องสำหรับเด็กแยกการใช้งานออกไปจากปกติ สามารถดาวน์โหลดเอาไปดูข้างนอกได้ถ้าอินเตอร์เน็ตมือถือของเรานั้นช้า และที่สำคัญที่สุดราคารายเดือนนั้นไม่แพงมาก มีโปรโมชั่นลดราคาให้เรากดซื้ออยู่ตลอดเวลา สุดท้ายคือถ้าใช้ Samsung อยู่ให้ลองกดดูใน Galaxy Gift จะมีคูปองสำหรับดูฟรี 3 เดือน 12 เดือน ให้เราเอาไปกดใช้เติมวันเวลาในแอพฯ ให้ใช้งานได้ฟรีเป็นปีเลยครับ iFlix ยังมีแอพฯ บนสมาร์ททีวีของ Samsung อีกด้วย ถ้าเบื่อดูบนหน้าจอมือถือลองกดดูบนจอทีวีก็สะดวกดีนะครับ
LINETV
ไลน์ทีวีเป็นสถานีออนไลน์ที่รับชมได้ฟรี มีลูกเล่นเพียบ และรายการทีวีต่างๆ ให้เรากดดูอยู่เรื่อยๆ จุดเด่นของไลน์ทีวีคือเราสามารถเข้าไปมีส่วนร่วม คอมเม้นท์ พูดคุยกับเพื่อนที่รับชมเหมือนกันได้ด้วย เนื่องจากแอพฯ นี้ให้เราดูหนังต่างๆ ได้ฟรี จะต้องแลกกับโฆษณาที่ปรากฏขึ้นมาให้เรารับชมอยู่เรื่อยๆ เพื่อแลกกับการใช้บริการฟรี
HOOQ
HOOQ เป็นแอพฯ น้องใหม่ที่กำลังเปิดให้ใช้บริการ เราสามารถกดลงทะเบียนเพื่อดูฟรีได้ 7 วัน (ใช้เบอร์มือถือ) มีหนังทั่วไปให้ดูทั้งไทย เกาหลี และอเมริกา จุดเด่นของ HOOQ ก็คงเป็นระบบหนังเช่าที่มีหนังเข้าใหม่ชนโรงกับหนังแผ่นมาสเตอร์เลย ส่วนใหญ่แล้วจะหลังจากหนังฉายในโรง 2-3 เดือน ถ้าท่านเป็นคนที่ชอบดูหนังใหม่ๆ และอยากสนับสนุนหนังลิขสิทธิ์ ลองใช้บริการ HOOQ อาจจะชอบก็ได้
PrimeTime
ไพร์มไทม์เป็นแอพฯ รุ่นบุกเบิกแรกๆ ของไทยตั้งแต่สมัยสมาร์ททีวีมาจนถึงแอพฯ บนมือถือ มีการทำโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าดีแทคเพื่อดูฟรีได้บางโหมดหมู่ด้วย รวมๆ และหนังที่นี่ค่อนข้างเก่า ภาพชัด เลือกเสียง ซับต่างๆ ได้อย่างอิสระ เปลี่ยนกลับไปมาได้ มีหนังให้เลือกหลากหลายชาติ รวมๆ แล้วถือว่าน้อยที่สุดในทุกแอพฯ หนังเก่าค่อยข้างเยอะ
คำศัพท์ที่มักจะพบในการดูหนังผ่านแอพฯ
- SuperHD เป็นการเข้ารหัสของ Netflix ซึ่งได้บีบอัดไฟล์หนังแบบ Full HD ใหม่ให้มีความชัดมากกว่าเดิมถึง 10 เท่า แต่จะทำให้ขนาดของวิดีโอมีความใหญ่มากขึ้นประมาณ 4 GB ต่อหนังหนึ่งเรื่อง ส่วนใหญ่แล้วจะไม่เปิดใช้กับสมาร์ทโฟนเพราะจะทำให้กินดาต้าของ 3G/4G สูงมาก
- Dolby Vision เป็นมาตรฐานใหม่ของการนำเสนอภาพที่กำหนดโดย Dolby ปกติแล้วถ้าพูดถึง Dolby เราอาจจะนึกถึงระบบเสียง แต่ตอนนี้มี Dolby Vision ที่ทำออกมาเพื่อให้รองรับกับการเข้ารหัสภาพแบบ HDR ที่ช่วยให้สีสดมากขึ้นกว่าเดิมมาก ปัจจุบันมีทีวีรุ่นใหม่ๆ ที่รองรับมาตรฐานนี้ และสมาร์ทโฟนรุ่นเดียวที่รองรับคือ LG G6
- SD เป็นการสตรีมมิ่งวิดีโอที่มีความละเอียดต่ำ ซึ่งแอพฯ จะทำการสตรีมมิ่งมาให้เมื่ออุปกรณ์ของเรามีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่ความเร็วค่อนข้างต่ำ ปกติแล้ว SD (Standard-definition) จะมีความละเอียดที่ 720 x 480 ซึ่งใกล้เคียงกับความละเอียดของแผ่น DVD นั่นเอง ซึ่งไม่ใช่ความละเอียดที่แย่มากนัก แต่ถ้าเครือข่ายที่เราใช้งานอยู่อินเตอร์เน็ตไม่ค่อยแรงก็อาจจะโดนปรับให้ใช้งานเป็น SD ได้
- HD เป็นความละเอียดปกติที่ใช้สำหรับการดูหนังออนไลน์ HD นี้อาจจะเป็น HD 720p หรือ Full HD 1080p ก็ได้แล้วแต่ว่าหนังเรื่องนั้นจะทำออกมาเวอร์ชั่นไหน และความเร็วอินเตอร์เน็ตที่เราเชื่อมต่ออยู่
มาถึงจุดนี้แล้วเราก็คงพอจะรู้จักกับการสตรีมมิ่ง และแอพฯ ที่มีให้บริการทั้งหมดแล้วนะครับ จบบทความนี้แล้วเชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่อยากจะเปิดทีวีธรรมดาดูอีกแล้ว เพราะหนัง ละคร ต่างๆ มีให้เราดูผ่านแอพฯ กันหมดแล้ว สิ่งที่อยากแนะนำก็คือลองใช้งานดูครับ เกือบทุกแอพฯ เมื่อสมัครครั้งแรกเราจะดูฟรีประมาณ 7 วัน – 1 เดือน ถ้ามีแพ็คเกจให้เลือกก็เลือกสมัครอันที่แพงที่สุดเพื่อดูฟรีไปเลยครับ ถ้าถูกใจอันไหนก็ลองต่ออายุสมาชิกกันไปเรื่อยๆ บางผู้ให้บริการนั้นมีแอพฯ บนสมาร์ททีวีด้วย แนะนำว่าโหลดแล้วมาดูที่บ้านจอใหญ่ๆ สบายตากว่าด้วยครับ ใช้บัญชีเดียวกับที่ใช้บนสมาร์ทโฟนได้เลย ขอให้มีความสุขกับการดูหนังนะครับ
