iPad Pro 9.7” เป็นแท็บเล็ตรุ่นใหม่รุ่นล่าสุดจากแอปเปิ้ล โดยเป็นซีรี่ย์เดียวกับ iPad Pro หน้าจอ 12.9 นิ้ว แต่สำหรับรุ่นนี้เป็นรุ่นที่มีหน้าจอเล็กลงมาเหมือนกับ iPad รุ่นทั่วไปที่ 9.7 นิ้ว แน่นอนว่า iPad Pro นั้นจะรองรับการใช้งานปากกาอย่าง Apple Pencil และมีอุปกรณ์ Smart Keyboard สำหรับ iPad Pro 9.7 นิ้ว ออกมาวางจำหน่ายพร้อมกัน ซึ่งเจ้าอุปกรณ์เสริมทั้ง 2 อย่างนั้นจะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลย
Apple Pencil
Apple Pencil คือ ดินสอที่เกิดมาเพื่อใช้งานร่วมกับ iPad Pro ซึ่งไม่ได้เหมือนกับสไตลัสทั่วไป แต่ Apple Pencil นั้นเป็นอุปกรณ์เฉพาะทางสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการวาดเขียนเสียมากกว่า และต้องใช้งานร่วมกับ iPad Pro เท่านั้น ถึงจะใช้งานแทนการสัมผัสต่างๆ ได้ ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักกับเจ้าดินสอ Apple Pencil นี้กันก่อนเลย
ตัวกล่องมีรูป Apple Pencil วางอยู่ด้านบน เมื่อดึงออกมาจะพบกับคู่มือการใช้งาน ในชุดจัดจำหน่ายจะมีหัวปากกาสำรองและอแดปเตอร์ไลท์นิ่งสำหรับใช้สายชาร์จที่เป็นพอร์ตไลท์นิ่ง ชาร์จกับ Apple Pencil
ตัว Apple Pencil มีดีไซน์ที่เหมือนดินสอทั่วไปมีความยาว 6.92 นิ้ว มีสีขาวทั้งด้าม แต่มีแถบสีเงินคาดอยู่ปลายด้าม และมีคำว่า Pencil สลักอยู่ และมีน้ำหนักเพียง 20.7 กรัม
เมื่อถอดฝาออกมา จะพบกับไลท์นิ่งสำหรับเชื่อมต่อเข้ากับ iPad Pro 9.7 นิ้ว และใช้งานชาร์จแบตเตอรี่ให้กับ Apple Pencil ซึ่งในการใช้งานครั้งแรกนั้น จะต้องทำการเชื่อมต่อเข้ากับ iPad Pro เสียก่อน จากนั้นจะทำการเปิดบลูทูธเพื่อเชื่อมต่อในการใช้งาน
Apple Pencil นั้นแตกต่างจากปากกาสไตลัสทั่วไป นั่นก็คือ มีการตอบสนองที่รวดเร็วกว่า และรองรับการเขียนแบบเอียงๆ ซึ่งจะทำให้สามารถแรเงาเหมือนดินสอทั่วไปได้ และยังสามารถลงน้ำหนักของเส้นที่วาดรูปด้วยการออกแรงกดลงบนจอ iPad Pro 9.7 นิ้ว พร้อมกับวางมือลงบนหน้าจอ iPad Pro ได้เลย ไม่ต้องเกร็งมือว่าจะทำให้รูปที่วาดบนหน้าจอเพี้ยนอีกต่อไป และแบตเตอรี่ของ Apple Pencil ก็เคลมไว้ว่าชาร์จ 15 วินาที ใช้งานได้นาน 30 นาที ซึ่งสามารถใช้งานได้นาน 12 ชั่วโมงจากการชาร์จ 1 ครั้ง
แอพพลิเคชั่นที่รองรับการใช้งานกับ Apple Pencil นั้น หลักๆ ก็มี Notes และ Mail ที่ติดมากับเครื่อง แล้วยังมี Paper by FiftyThree, Adobe Sketch, Penultimate และอื่นๆ อีกมากมาย สามารถดาวน์โหลดได้จาก App Store แต่เรามาดูการใช้งาน Apple Pencil บนแอพพลิเคชั่น Notes กันดีกว่า
การจดสิ่งต่างๆ บนแอพพลิเคชั่น Notes บน Apple Pencil นั้น ก็สามารถเลือกชนิดของปากกาเช่น ปากา, ดินสอ และปากกาไฮไลท์ พร้อมมีไม้บรรทัดมาให้ใช้งานด้วย พร้อมกับเลือกชุดสีต่างๆ ได้ถึง 24 สี แน่นอนว่าสามารถเอียง Apple Pencil เพื่อใช้งานแรเงาได้เช่นกัน
เรียกได้ว่า Apple Pencil เกิดมาเพื่อนักเขียน หรือนักวาดโดยเฉพาะ แต่สำหรับใครที่ชื่นชอบการจดลงบนหน้าจอ ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน เพราะมีโหมดอย่างไม้บรรทัดมาให้ใน Notes ที่จะช่วยวาดรูปทรงต่างๆ ได้ง่ายขึ้น พร้อมกับจดโน้ตหรือสเก็ตภาพต่างๆ ได้สมบูรณ์แบบมากขึ้นด้วย ตัว Apple Pencil เอง ก็ถูกออกแบบมาให้มีความรู้สึกเหมือนจับดินสอจริงๆ
Smart Keyboard
เป็นอีกอุปกรณ์ที่จะช่วยแปลง iPad Pro 9.7 นิ้ว ให้กลายเป็นคอมพิวเตอร์ย่อมๆ พร้อมกับช่วยปกป้องหน้าจอ iPad ของคุณได้ นอกจากนี้ยังคงคุณสมบัติอย่างการปรับเคสเพื่อให้วาง iPad Pro 9.7 นิ้วขึ้นมาสำหรับการรับชมวิดีโอหรือคอนเทนท์ต่างๆ ได้
การใช้งาน Smart Keyboard นั้นไม่จำเป็นต้องจับคู่ หรือเสียบสายเชื่อมต่อต่างๆ เพียงแค่นำมาติดกับ iPad Pro 9.7 นิ้ว ก็สามารถพิมพ์ได้เลยทันที เพราะมี Smart Connector ที่สามารถส่งข้อมูลและรับไฟพร้อมกันได้ ซึ่งก็คือแถบจุด 3 จุด ที่ด้านข้างของตัวเครื่องนั่นเอง โดยแป้นพิมพ์ของ Smart Keyboard นี้ไม่มีรูหรือช่องว่างใดๆ เป็นปุ่มนูนขึ้นมาและใช้ผ้าที่เคลือบผิวผ้าให้ทนต่อคราบต่างๆ และกันน้ำ
สำหรับการใช้งาน Smart Keyboard นั้น หากใครที่คุ้นเคยกับการใช้งาน Mac หรือ Macbook มาก่อนก็จะเข้าใจและสามารถใช้ปุ่มคีย์ลัดกับปุ่ม Command ในการใช้ตัวหนา, ตัวเอียง, ตัด, คัดลอก ฯลฯ ในการพิมพ์เอกสารต่างๆ ที่รองรับได้ง่าย แต่ถ้าใครไม่ถนัดจะใช้งานจากแถบปุ่มลัดบนหน้าจอก็ได้เช่นกัน ซึ่งแถบปุ่มลัดนี้ตามปกติแล้ว จะแสดงพร้อมกับคีย์บอร์ดเสมือนในตอนที่ไม่ได้ใช้งาน Smart Keyboard ส่วนสัมผัสของการพิมพ์จะให้อารมณ์แตกต่างจากคีย์บอร์ดอยู่พอสมควร ซึ่งไม่ต้องใช้แรงกดมาก แทบจะคล้ายกับการสัมผัสหน้าจอเลย ส่วนของปุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกศรทั้ง 4 ทิศ, ปุ่มแคปล็อค, ปุ่มชิฟท์, ปุ่มลบ, ปุ่มตกลง ก็มีมาให้ใช้งานเหมือนกับคีย์บอร์ดทั่วไป เพียงแต่เป็นในรูปแบบของ Mac และมีปุ่มเปลี่ยนภาษาอยู่ที่มุมซ้ายล่าง สำหรับเปลี่ยนภาษาตามสไตล์ iOS ที่สะดวกกว่าการกด Control + Space bar ในการเปลี่ยนภาษา
Smart Keyboard ยังปรับได้อีกรูปแบบ เป็นการปรับมุมของการวาง iPad Pro 9.7 นิ้ว ให้ชันขึ้นอีกนิด ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการรับชมวิดีโอหรือคอนเทนท์ต่างๆ เพิ่มมากขึ้น
และตัวคีย์บอร์ดเอง ก็สามารถพับเก็บได้อีกเช่นกัน แต่ด้านหน้าเมื่อใช้งานเป็นเคสจะมีนูนขึ้นมาในส่วนของคีย์บอร์ดเล็กน้อย ภายในส่วนที่สัมผัสกับหน้าจอจะเป็นผ้าไมโครไฟเบอร์ที่อ่อนนุ่มดีกับหน้าจอ
สำหรับ Smart Keyboard จะเป็นอุปกรณ์เสริมอีกตัวที่เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน iPad Pro 9.7 นิ้ว เพื่อการใช้งานพิมพ์เอกสารต่างๆ ได้สะดวกขึ้น แต่สำหรับ Smart Keyboard ที่ทางทีมงานได้มาทดลองนั้น ยังไม่มีภาษาไทยติดมาก แต่อาศัยความชำนาญในการพิมพ์ ซึ่งบางส่วนของบทความนี้ก็พิมพ์ด้วย Smart Keyboard
Apple Pencil และ Smart Keyboard จำเป็นหรือไม่?
สำหรับบุคคลทั่วไป ที่ไม่ชอบการวาดเขียน หรือการจดสิ่งต่างๆ Apple Pencil ก็อาจจะไม่เหมาะกับการใช้งาน ส่วน Smart Keyboard นั้น หากไม่ได้ใช้งานพิมพ์ผ่าน iPad Pro 9.7 นิ้วบ่อยๆ ก็อาจจะไม่เหมาะเช่นกัน โดยเฉพาะส่วนที่นูนออกมา อาจจะทำให้รู้สึกเกะกะมากขึ้นด้วยซ้ำ แต่สำหรับใครที่คิดว่าจะวาดรูปบ่อย หรือใช้งานสำหรับหาเลี้ยงชีพตนเอง Apple Pencil จะทำให้คุณรู้สึกแตกต่างกับปากกาสไตลัสทั่วไปจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่รู้สึกเหมือนจับด้ามดินสอ การตอบสนองของหน้าจอและปากกาก็ทำได้ดี ซึ่งถ้าหากใครสนใจทั้ง 2 อุปกรณ์นี้ก็สามารถหาซื้อได้แล้ว หรือสั่งซื้อจาก Apple Store ก็ได้เช่นกัน