Facebook ยอมรับเป็นครั้งแรกว่ากำลังพัฒนาแว่นตา AR (Augmented Reality) อยู่ โดยข้อมูลดังกล่าวมาจากงาน TechCrunch AR/VR ที่ลอสเองเจลิสเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
เฟซบุ๊กกำลังพัฒนาแว่นตาความจริงปรุงแต่ง (AR) อยู่โดยบอกว่าอยากจะเห็นแว่นตาเหล่านี้เกิดขึ้นจริงในอนาคต และอยากจะมีส่วนร่วมในการพัฒนาและสร้างสรรค์อนาคตที่วาดฝันเอาไว้ แน่นอนว่าทางเฟซบุ๊กคาดหวังว่านี่จะเป็นเทคโนโลยียุคถัดไปต่อจากมือถือที่เริ่มต้นเมื่อสิบปีก่อน และปัจจุบันถูกยึดครองโดย Apple และ Google เพียงสองราย
ณ ตอนนี้เฟซบุ๊กกำลังระดมทีมงานมากความสามารถเพื่อร่วมกันพัฒนาแว่น AR นี้อยู่ อย่างไรก็ตามทางเฟซบุ๊กก็ยอมรับว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันยังไปไม่ถึงจุดที่จะสร้างแว่นนี้ขึ้นมาได้สำเร็จ ปัจจุบันวงการ AR มีผู้เล่นไม่มากนักที่สามารถสร้างแว่นขึ้นมาและได้รับการยอมรับว่าพอจะใช้งานได้จริง ได้แก่ Magic Leap, Thalmic Labs และ Microsoft HoloLens ที่ยังมีข้อจำกัดเรื่องความละเอียด และจุดที่แสดงผลได้ ส่วน Google Glass นั้นมุ่งเน้นจับตลาดกลุ่ม Enterprise เป็นหลัก ส่วน Apple นั้นเพิ่งเป็นข่าวไปว่าซื้อบริษัท Akonia Holographic และ Vrvana เพื่อเสริมทัพพัฒนาแว่น AR ดังกล่าว
ปีที่แล้ว Mark Zuckerberg ซีอีโอของเฟซบุ๊กเองก็ได้กล่าวเอาไว้ว่าตอนนี้รู้ว่าเทคโนโลยีจะเดินไปทางไหน และจะต้องสร้างอะไรขึ้นมา แต่ปัจจุบันเรายังไม่มีเทคโนโลยี หรือวิทยาศาสตร์ที่ล้ำหน้าเพียงพอที่จะสร้างแว่นตาความจริงปรุงแต่งดังกล่าวได้ อาจจะอีก 5 – 7 ปีกว่าเราจะสร้างเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าขนาดนั้นได้สำเร็จ และเพราะเราไม่สามารถสร้างแว่น AR ในตอนนี้ได้ เราจึงมุ่งเน้นพัฒนา VR เพื่อเป็นรากฐานรอต่อยอดในอนาคต
หลังจากกล่าวไปไม่กี่เดือนเฟซบุ๊กก็ยื่นจดสิทธิบัตรแว่นตา AR ดังที่เห็นในภาพ โดยระบุรายละเอียดว่าใช้คลื่นความถี่เฉพาะทางและสแกนเนอร์แบบสองมิติเพื่อแสดงผลบนเลนส์ มีข่าวว่าเฟซบุ๊กกำลังพัฒนาโครงการที่ชื่อ Project Sequoia ที่จะแสดงผลภาพ AR ลงบนวัตถุจริงๆ ได้ เช่นแสดงหมากรุกเหนือกระดานที่วางอยู่บนโต๊ะ
เดือนที่แล้วเฟซบุ๊กประกาศเปิดรับสมัครงานตำแหน่งวิศวกรที่มีประสบการณ์ด้านชิปประมวลผล AR เพื่อมาร่วมทีม Facebook Reality Lab (อดีตคือ Oculus Research) และสัปดาห์ถัดมาในงาน Oculus 5 หัวหน้าแผนกวิทยาศาสตร์ของ Oculus ก็ออกมาเผยว่า ณ ตอนนี้หน้าจอแสดงผลทั้งหมดที่เรามีไม่ว่าจะดีแค่ไหน ยังไม่ดีพอที่จะนำมาใช้งาน AR ได้ ทาง Oculus (Facebook) จึงไม่มีตัวเลือกอื่นนอกจากสร้างเทคโนโลยีดังกล่าวขึ้นเอง และเทคโนโลยีนี้น่าจะนำพาให้ Virtual Reality ก้าวไปข้างหน้าได้รวดเร็วและแตกต่างจากเดิมด้วย
อย่างไรก็ตามเขาไม่เห็นด้วยว่าในอนาคตเราจะสวมหมวก MR / VR ตลอดเวลาแบบในหนังอย่าง Ready Player One แต่น่าจะเป็นลูกผสม AR ที่ใช้งานได้ตลอดเวลามากกว่า ส่วนเวลาอยู่บ้านแล้วอยากจะหนีความจำเจเดิมๆ ก็อาจจะใช้ VR เพื่อไปสู่โลกความจริงเสมือนที่อื่น
ที่มา – TechCrunch