6 สิงหาคม 2558 – ดีแทค นำทัพสุดยอดเทคโนโลยีโชว์ในงานวันสื่อสารแห่งชาติ NET 2015 ชูไฮไลต์นวัตกรรมล้ำสมัยต่อยอดดีแทค 4G ด้วย VoLTE และ VoWiFi จุดเริ่มต้นของจุดเปลี่ยนแห่งเทคโนโลยีสื่อสาร พร้อมเปิดให้บริการเป็นรายแรกในไทย โดย 4G VoLTE เป็นอันดับ 16 ของโลก ส่วน VoWiFi เป็นอันดับ 5 ของโลก จัดงานภายใต้แนวคิด“เทคโนโลยีที่ใช้ได้จริงเพื่อคนไทยทุกคน” หวังใช้เป็นเวทีผลักดันความรู้และให้ประชาชนสัมผัสกับเทคโนโลยีใหม่ของโลกแห่งการสื่อสาร
นายลาร์ส โอเคะ นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เปิดเผยว่า ดีแทคได้ร่วมจัดแสดงสุดยอดเทคโนโลยีในงานวันสื่อสารแห่งชาติ “NBTC EXPO THAILAND 2015 (NET 2015)” เพื่อดำเนินการตามนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาลไทย โดยนำนวัตกรรมที่ล้ำสมัย และการสื่อสารที่จะใช้ในอนาคต ซึ่งจะยกระดับคุณภาพชีวิต และเป็นการแสดงศักยภาพของดีแทคในฐานะหนึ่งในผู้นำของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ที่พร้อมนำประเทศไทยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในภูมิภาค โดยเฉพาะความสำคัญเศรษฐกิจที่ไทยกำลังก้าวสู่การแข่งขันประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี
ดีแทคได้จัดแสดงในงานภายใต้แนวคิด เทคโนโลยีที่ใช้ได้จริงเพื่อคนไทยทุกคน (The real benefit of technology for all Thais) โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ 1.เทคโนโลยีที่ใช้ได้จริงในชีวิตจริง(Technology in Everyday Life) 2. เทคโนโลยีเปลี่ยนชีวิต (Technology Change Life) ซึ่งอยู่ในพื้นฐาน Internet for all ที่ต้องการให้อินเทอร์เน็ตเข้าถึงคนไทยทุกคนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและมีโอกาสอย่างเท่าเทียม
นายประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยี บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่าดีแทคได้นำสุดยอดนวัตกรรมมาจัดแสดงในงานวันสื่อสารแห่งชาติ “NBTC EXPO THAILAND 2015 (NET 2015)” โดยมีไฮไลต์คือ ดีแทค 4G VoLTE และ VoWiFi ที่นำมาให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสจริงและถือว่าเป็นการเปิดให้ทดสอบผ่านโชว์เคสเป็นครั้งแรกในประเทศไทย นับเป็นจุดเริ่มต้นของจุดเปลี่ยนแห่งเทคโนโลยีโทรคมนาคมของไทยอีกครั้ง และดีแทคจะเชิญผู้สนใจร่วมทดสอบสุดยอดเทคโนโลยี ดีแทค 4G VoLTE และ VoWiFi ก่อนเปิดให้บริการจริงกับลูกค้าดีแทคทั่วไป เพื่อเป็นการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลนำมาปรับปรุงสร้างความมั่นใจก่อนให้บริการจริง
การนำเทคโนโลยี ดีแทค 4G VoLTE และ VoWiFi ต่อยอดบริการวอยซ์ หรือโทรศัพท์ด้วยเสียงคุณภาพสูงสุด ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมยุคเครือข่าย 4G ที่จะมาแทนที่การโทรแบบเดิมด้วย3G และ 2G ในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า ซึ่งจากเดิมผู้ใช้งาน 4G จะใช้ได้เพียงดาต้าความเร็วสูงและเมื่อมีสายเรียกเข้าระบบจะตัดสู่โหมดการโทรด้วย 3G หรือ 2G แทนเท่านั้น แต่ด้วยเทคโนโลยีทั้ง ดีแทค 4G VoLTE และ VoWiFi จะทำให้ใช้งานวอยซ์หรือโทรบนเครือข่าย 4G มีคุณภาพดีขึ้นและความแตกต่างจากแบบเดิม
ดีแทค 4G VoLTE หรือ Voice over Long Term Evolution ดีแทคเป็นผู้ให้บริการรายแรกในไทย และเป็นผู้ให้บริการอันดับ 16 ของโลก เทคโนโลยีนี้จะทำผู้ใช้บริการมือถือสามารถสัมผัสประสบการณ์โทรศัพท์ด้วยเสียงที่คมชัดระดับ HD และ Call Setup เร็วกว่าเดิม 10 เท่า ด้วยการโทรเรียกหมายเลขปลายทางเร็วขึ้นภายในเสี้ยววินาที หรือประมาณ 0.5 วินาที จากเดิมที่ใช้เวลาประมาณ 5 วินาที (เมื่อใช้ดีแทค 4G VoLTE ทั้งผู้โทรออกและรับสาย) อีกทั้งสามารถใช้งานวิดีโอคอลล์ด้วยภาพแบบ HD คมชัดกว่าเดิม ด้วยสัญญาณรับ–ส่งภาพรายละเอียดสูงในระดับ 720P/1080P ทำให้ภาพคมชัดมากกว่าปกติและมีรายละเอียดเพิ่มขึ้น คุณภาพที่ได้จะดีกว่าการใช้วิดีโอคอลล์ผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่เคยใช้งานแบบเดิม อีกยังสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ต 4G ความเร็วสูงไปพร้อมกับการโทร ซึ่งผู้ใช้งานเพียงแค่ใช้โทรศัพท์รุ่นและ Firmware ที่รองรับ โดยไม่ต้องลงแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ดีแทค 4G VoWiFi หรือ Voice Over WiFi ดีแทคเป็นผู้ให้บริการรายแรกในไทย และเป็นผู้ให้บริการอันดับ 5 ของโลก ด้วยการนำเทคโนโลยีที่จะทำให้ผู้ใช้บริการมือถือ 4G สัมผัสกับการปฏิวัติการโทรรูปแบบใหม่ผ่านสัญญาณ WiFi ได้ทุกที่ในโลกไม่จำกัดค่าย WiFi เพิ่มพื้นที่ใช้งานมือถือออกนอกกรอบการใช้งานจากรูปแบบเดิม รองรับทุกสถานการณ์แม้ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณมือถือเข้าถึง ใช้งานได้ด้วยหมายเลขเดิมเหมือนการโทรใช้งานปกติ และโทรไปยังเบอร์อื่นๆ ได้ตามปกติเหมือนการใช้งานผ่านโครงข่ายมือถือต่างจากการโทรผ่านแอพพลิเคชั่นด้วย WiFi แบบเดิม ซึ่งต้องจำกัดกลุ่มการโทรที่ต้องใช้งานด้วยแอพพลิเคชั่นเดียวกันเท่านั้น และไม่สามารถโทรเข้าเบอร์บ้านได้
นอกจาก ดีแทค 4G VoLTE และ VoWiFi ที่จัดมาแสดงซึ่งเป็นไฮไลต์ในส่วน เทคโนโลยีที่ใช้ได้จริงในชีวิตจริง (Technology in everyday life) แล้วนั้น ดีแทคยังได้นำนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่อื่น ๆ ที่น่าสนใจมาสาธิตและให้ประชาชนได้สัมผัสและทดลองใช้งานก่อนเปิดให้บริการจริง คือ
- Sleep Apnea Monitor นวัตกรรมอุปกรณ์สื่อสารที่ใช้ในทางการแพทย์ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรค Sleep Apnea Syndrome หรือโรคภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งถูกออกแบบมาให้จัดเก็บข้อมูลของผู้ป่วยโดยไม่จำเป็นต้องไปเข้านอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล และข้อมูลจะถูกส่งผ่าน 4G สู่แพทย์ผู้ทำการรักษา เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและทำการักษาได้ตรงจุดต่อไป
- Smart Home Security อุปกรณ์สื่อสารล้ำสมัยที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับคุณภาพที่อยู่อาศัย แม้ไม่ได้อยู่บ้านด้วยอุปกรณ์ IP Camera สั่งกล้องสำรวจบ้านจากมือถือ 4G, Smart Door Bell รู้ข้อมูลทุกครั้งเมื่อมีคนมาหาที่บ้านแม้ในขณะที่ไม่อยู่บ้าน, เครื่องตรวจจับควันป้องกันเพลิงไหม้ ทำให้หมดความกังวลเมื่อต้องเดินทางไปนอกบ้านแม้ในระยะเวลานาน ทั้งหมดนี้คือการเปลี่ยนที่อยู่อาศัยให้เป็น Smart Home ด้วยเทคโนโลยี 4G
- GPS Tracker อุปกรณ์สื่อสารบน 4G ที่ถูกออกแบบมาให้หมดความกังวลกับคนที่เรารักห่วงใย ทั้งเด็กเล็กที่ชอบซน และผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องความจำอาจเสี่ยงต่อการหลงทาง ด้วยเทคโนโลยี GPS Tracker จะแจ้งเตือนให้ทราบทันทีหากคนที่เรารักออกนอกพื้นที่ที่กำหนดไว้ โดยจะแจ้งเตือนตำแหน่งเส้นทางบนแผนที่ทำให้รู้พิกัดแน่นอนและไปรับกลับหรือช่วยเหลือได้ทันที
- Drive Bot การใช้เทคโนโลยีการสื่อสารบน 4G ดูแลเรื่องการใช้รถยนต์ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น ไดรฟ์บอทมีทั้งโมบาย แอพพลิเคชั่นและอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ใช้รถได้ดูแลรักษารถอย่างถูกต้องเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ หรือรถเสีย รวมทั้งประหยัดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถ เช่น ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมรถ และอื่นๆ โดยจะคอยเตือนเมื่อรถมีปัญหา หรือพบความผิดปกติจากการใช้งาน รวมทั้งแจ้งเมื่อถึงเวลาตรวจสภาพ และช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมในการขับรถ
นายลาร์ส กล่าวต่อไปว่า “สำหรับในส่วนของอินเทอร์เน็ตเปลี่ยนชีวิต (Technology Change Life) ดีแทคได้จัดให้เห็นการใช้เทคโนโลยีที่สนับสนุนวิสัยทัศน์และวาระของเศรษฐกิจดิจิทัล ด้วยการเชื่อมต่อแบบดิจิทัลได้ยกระดับคุณภาพชีวิตประจำวันของทุกภาคส่วน มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาด้านสังคมและเศรษฐกิจของประเทศไทย ทำให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้าและบริการใหม่ๆ ที่สามารถเข้าถึงประชาชนในทุกภาค ไม่เว้นแม้แต่พื้นที่ห่างไกล เทคโนโลยีสื่อดิจิทัลมีส่วนช่วยส่งเสริมการเข้าถึงการศึกษาได้อย่างกว้างขวางและง่ายดายยิ่งขึ้น และยังเป็นพื้นฐานสำหรับภาคธุรกิจและประชาชนทั่วไปในการแสวงหาความรู้ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้สูงขึ้น”
การเข้าถึงและการใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มสูงขึ้น จะสร้างผลดีต่อสังคมและเศรษฐกิจหลายประการ เช่น การจ้างงาน โอกาสในการริเริ่มธุรกิจ การเพิ่มผลิตผลและการขยายตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม
“ในระดับบุคคล การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและบริการดิจิทัลต่างๆ ได้มีส่วนช่วยให้เกิดการพัฒนาด้านการศึกษา สาธารณสุข ตลอดจนการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ส่งผลให้มีการยกระดับคุณภาพชีวิตในระดับตัวบุคคลและครอบครัว ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญอย่างยิ่งยวดของการพัฒนาระบบโครงสร้างอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเพื่อที่จะให้ประชาชนกลุ่มใหม่ๆ สามารถเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตและบริการดิจิทัลต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง โดยถ่ายทอดผ่านเรื่องราวจริงของป้าประคอง, นานาปูม้า, กำนันบ้านกร่าง, กลุ่มเกษตรกร (Smart farmer)” นายลาร์ส กล่าวในที่สุด
นอกจากนี้ ภายในบูธดีแทคยังได้จัดแสดงแนะนำ แอพพลิเคชั่น FARMER INFO คลังความรู้ที่ได้รวบรวมมาจากเครือข่ายเกษตรกรระดับภูมิปัญญาทั่วประเทศ โดยได้มีการทำวิจัย สำรวจ และประมวลผลข้อมูลที่เกษตรกรต้องการอย่างแท้จริง รวมถึงมีเนื้อหาที่เป็นประโยชน์สำหรับเกษตรกรผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร เช่นราคารับซื้อ ราคาตลาดสด ข่าวสาร เกร็ดความรู้ และคลังข้อมูล SMS อีกด้วย
สำหรับผู้สนใจนวัตกรรมที่ล้ำสมัย รวมทั้งการสื่อสารแห่งอนาคต ซึ่งเป็นการแสดงถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของไทยในยุค 4G สามารถเข้าเยี่ยมชมบูธดีแทคได้ในงานวันสื่อสารแห่งชาติ “NBTC EXPO THAILAND 2015 (NET 2015) ระหว่างวันที่ 6-9 สิงหาคม 2558 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
>