เมื่อเดือนกันยายนมีข่าวลือเรื่อง Google กำลังพัฒนาระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์ Augmented Reality อยู่ วันนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าหมวกที่ใช้ระบบดังกล่าวอยู่ระหว่างการพัฒนา และใช้ชื่อว่า Project Iris
แหล่งข่าวเผยกับทาง The Verge ว่าอุปกรณ์ AR ของ Google นั้นจะอยู่ในรูปแบบของหมวกสวมหัว และมีกล้องข้างนอก ไม่เหมือนกับ Google Glass ที่อยู่ในฟอร์มของแว่นตา หน้าตาอุปกรณ์ต้นแบบคล้ายกับแว่นกันลมสำหรับนักสกี ในตัวมีแบตเตอรี และสามารถประมวลผลงานต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง
สำหรับชิปในรุ่นต้นแบบนั้นใช้ชิปที่ Google ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ (คาดว่าน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับ Google Tensor ไม่มากก็น้อย) ชวนให้นึกถึงที่ Rick Osterloh กล่าวเอาไว้ปีที่แล้วว่า Tensor จะเป็นรากฐานการพัฒนาอุปกรณ์ AR ในอนาคต อย่างไรก็ตามงานทั้งหมดอาจจะหนักเกินไปสำหรับชิปประมวลผลที่ต้องควบคุมการใช้พลังงาน ทำให้ Google มีแผนที่จะประมวลผลงานบางส่วนบนดาต้าเซนเตอร์ แล้วส่งกลับมายังหมวก AR เพื่อลดงานที่ต้องประมวลผลลง
ตัวระบบปฏิบัติการ Augmented Reality OS ช่วงแรกน่าจะพัฒนาจาก Android แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าระหว่างนี้อาจจะเปลี่ยนไปใช้ระบบอื่นๆ (เช่น Fuchsia ที่พัฒนามานาน) คาดว่ากว่าจะพร้อมเปิดตัวให้เห็นกันก็น่าจะเป็นปี 2024 โน่นเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่มีกำหนดการเปิดตัวหรือวางจำหน่ายชัดเจน เนื่องจากยังเป็นเพียงช่วงต้นของการพัฒนา และอาจจะมีปัญหา หรือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นระหว่างนี้จนทำให้ต้องเลื่อนกำหนดออกไปอีก
ยังไม่แน่ชัดนักว่าหมวกดังกล่าวจะใช้ชื่อ Pixel หรือไม่ แต่งานบางส่วนก็ถูกพัฒนาโดยทีม Pixel ด้วย แหล่งข่าวเผยว่าโปรเจคต์นี้ลับมาก มีพนักงานทำงานกว่า 300 คน และจะจ้างเพิ่มอีกหลายร้อยเพื่อผลักดันให้สำเร็จไล่เลี่ยกับคู่แข่งรายต่างๆ นอกจากนี้แต่ละคนก็มีงานที่แตกต่างกันออกไป และมีกุญแจเข้าห้องทำงานในระดับที่แตกต่างกัน งานของบางคนจะเข้าถึงข้อมูลและงานมากกว่าคนอื่น
โปรเจคต์นี้คุมโดย Clay Bavor ผู้ที่ดูแลด้าน AR/VR มานานที่ Google Labs และยังมีดาวเด่นอย่าง Scott Huffman ที่เป็นอดีตวิศวกรที่ทำ Google Assistant กับ CTO ของ Lytro ที่เคยดูแลโปรเจคต์ Google Lens อีกด้วย ทำให้คาดว่าในเชิงเทคนิคน่าจะไม่มีปัญหา
คาดว่าปีนี้เราจะได้เห็น Meta เปิดตัว (แต่อาจจะยังไม่ขาย) หมวก Metaverse ของตัวเอง ส่วนปีหน้าอาจจะเป็น Apple และปี 2024 เป็น Google อย่างไรก็ตามกำหนดวางจำหน่ายของทั้งสามเจ้ายังไม่ชัดเจน และแผนเปิดตัวก็อาจจะเลื่อนออกไปได้ อีกทั้งจุดเด่นของอุปกรณ์เหล่านี้คงหนีไม่พ้นการที่ 3rd party จะพัฒนาเกม์ หรือแอพให้ใช้งานกัน ในระยะแรกน่าจะมีเพียงผู้ใช้งานไม่มากนัก จนกระทั่ง App Store / Play Store ของระบบ Metaverse มีแอพจำนวนมาก ถึงจะกลายเป็นกระแสหลักเหมือนอย่างที่มือถือเป็นทุกวันนี้
ที่มา – 9to5Google
