Redmi แบรนด์ลูกของ Xiaomi ที่แยกตัวออกมาพัฒนามือถือเองเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ ใช้ชื่อรุ่นว่า Redmi K30 โดยจะมีทั้งรุ่นที่เป็น 4G และ 5G และมีฟีเจอร์อัดแน่นแบบไม่น่าเชื่อ
แบรนด์ Xiaomi ที่หลายๆ คนคิดว่าราคาถูกแล้ว แต่ Redmi กลับสามารถทำราคาได้ถูกลงกว่าเดิมอีก ทำให้กลายเป็นแบรนด์ที่น่าสนใจ และต้นปีที่ผ่านมาก็เปิดตัว Redmi K20 ที่เรียกความสนใจจากตลาดโลกได้มากพอสมควร จนถูกนำไปรีแบรนด์ขายใหม่เป็น Xiaomi Mi 9T และ Mi 9T Pro
สำหรับสเปคของ Redmi K30 5G มีดังนี้
- หน้าจอ: 6.67 นิ้ว (IPS LCD) สัดส่วน 20:9 (1080 x 2400 พิกเซล) อัตรารีเฟรชเรท 120Hz
- ชิปประมวลผล: Snapdragon 765G
- แรม: 6 หรือ 8 GB
- พื้นที่เก็บข้อมูล: 64 / 128 / 256GB
- กล้องหน้า: 20 (Main) + 2 (Depth) Megapixel
- กล้องหลัง: 64 (Main) + 8 (Ultrawide) + 5 (Macro) + 2 (Depth) Megapixel
- แบตเตอรี: 4,500 mAh ชาร์จไฟไว 30W
- พอร์ต: USB Type C
บอดี้ของ Redmi K30 เป็นกระจก 3D ที่โค้งมนตลอดทั้งสี่ด้าน โดยวัสดุที่ใช้ทำกระจกด้านหน้า และด้านหลังคือ Gorilla Glass 5 และมีกล้องอยู่บนหน้าจอ ด้วยความที่ใช้หน้าจอ LCD ทำให้มันสามารถทำรีเฟรชเรท 120Hz ได้ (ปัจจุบัน OLED ทำได้เพียง 90Hz) แต่สัดส่วนหน้าจอจะดูยาวๆ หน่อยเนื่องจากอัดราส่วนที่ Redmi เลือกใช้คือ 20:9 นั่นเอง
สำหรับชิปประมวลผล Snapdragon 765G นั้นแรงกว่า Snapdragon 730G อยู่ราวๆ 10% ส่วนหน่วยความจำนั้นมีทั้งรุ่นที่เป็น 6GB และ 8GB (เป็น LPDDR4X) แต่พื้นที่เก็บข้อมูลยังคงใช้ UFS 2.1 อยู่ แม้จะไม่ได้ช้าแต่ก็ไม่ได้เร็วที่สุดในวงการ (เร็วที่สุดในตอนนี้คือ UFS 3.0) แต่สามารถเพิ่มความจุได้ด้วย MicroSD ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นที่ภายในเครื่องเลย
Redmi K30 จะเป็นมือถือตัวแรกภายใต้แบรนด์ Xiaomi ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 10 (ครอบทับด้วย MIUI 11 อีกทีหนึ่ง) นอกจากนี้ยังมี Mi Turbo 2.0 และ Game Turbo 2.0 ที่จะเร่งประสิทธิภาพของเกมส์ให้แรงขึ้นไปอีก
กล้องด้านหลังเรียงกันเป็นเส้นตรงสี่ตัวได้แก่
- 64 Megapixel (SONY IMX686) เป็นเซนเซอร์ตัวใหม่ล่าสุดจาก SONY เปิดใช้งาน Tetracell
- 8 Megapixel (Ultrawide) มุมกว้าง 120 องศา
- 5 Megapixel (Macro)
- 2 Megapixel (Depth Assist)
Redmi ระบุว่ากล้องของ Redmi K30 ใช้อัลกอริธึมในการปรับแต่งภาพเช่นเดียวกับ Xiaomi Mi CC9 Pro ที่เป็นกล้องห้าตัว และ 108 Megapixel ทำให้การันตีว่าภาพจะออกมาดีเช่นกันอย่างแน่นอน โดยแฟลชที่อยู่ด้านหลังทั้งสองตัวจะทำงานร่วมกับ AI Scene Camera, Super Night Scene 2.0, Movie Mode, Professional Mode และอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนกล้องหน้านั้นจะเป็น 20 Megapixel กับ 2 Megapixel
แบตเตอรีของ Redmi K30 มีขนาดใหญ่ถึง 4,500 mAh และชาร์จไฟได้ 30W ข้างในตัวเครื่องมีท่อทองแดงที่ใช้ระบายความร้อนด้วยน้ำ และกระจายความร้อนออกจากตัวเครื่อง โดยโฆษณาว่าลดอุณหภูมิได้มากถึง 7 องศาด้วยกัน
สำหรับการเชื่อมต่ออื่นนั้นก็เป็นไปตามมาตรฐานของชิป Snapdragon 765G ได้แก่
- Dual-SIM
- WiFi 802.11ac
- Bluetooth 5.0
- Dual-Band GPS
- IR Blaster
- NFC
- Hi-Res Audio
- USB Type C
- พอร์ตหูฟัง 3.5 มม
- ตัวอ่านลายนิ้วมือ (ด้านข้างตัวเครื่อง)
สำหรับรุ่นที่ลดสเปคลงมาคือ Redmi K30 4G นั้นมีส่วนที่แตกต่างจากรุ่น 5G ดังนี้
- หน่วยประมวลผล: Snapdragon 730G
- รองรับการชาร์จไฟ: 27W
- กล้องหลัง: 64 (Main) + 8 (Ultrawide) + 2 (Macro) + 2 (Depth) Megapixel
สำหรับสเปคอื่นๆ นั้นเหมือนกับ Redmi K30 5G ทุกประการครับ
สำหรับราคานั้นมีแยกรุ่นตามสเปคดังนี้
Redmi K30 4G
- RAM 6 GB + Storage 64 GB – 1,599 หยวน (ราวๆ 6,900 บาท)
- RAM 6 GB + Storage 128 GB – 1,699 หยวน (ราวๆ 7,350 บาท)
- RAM 8 GB + Storage 128 GB – 1,899 หยวน (ราวๆ 8,200 บาท)
- RAM 8 GB + Storage 256 GB – 2,199 หยวน (ราวๆ 9,500 บาท)
มีให้เลือกสามสีด้วยกัน ได้แก่ Amethyst Fantasy, Deep Water Blue และ Shimmering Purple
Redmi K30 5G
- RAM 6 GB + Storage 64 GB – 1,999 หยวน (ราวๆ 8,700 บาท)
- RAM 6 GB + Storage 128 GB – 2,299 หยวน (ราวๆ 9,900 บาท)
- RAM 8 GB + Storage 128 GB – 2,599 หยวน (ราวๆ 11,200 บาท)
- RAM 8 GB + Storage 256 GB – 2,899 หยวน (ราวๆ 12,500 บาท)
มีให้เลือกสี่สีด้วยกัน ได้แก่ Time Monologue, Purple Jade Fantasy, Deep Sea Glow, Flower Shadow
สำหรับ Redmi K30 5G จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนมกราคมปีหน้าเป็นต้นไป ส่วนรุ่น 4G จะเปิดให้จองกันได้วันที่ 12 ธันวาคมเป็นต้นไป และมีข่าวลือว่า Redmi K30 Pro 5G จะเปิดตัวในมกราคมปีหน้าหลังจากรุ่น Redmi K30 5G เริ่มวางจำหน่าย
ที่มา – Gizmo China