Xiaomi เปิดตัวมือถือซีรีส์ที่เน้นความเป็นคอนเซปท์โฟนรุ่นล่าสุดแล้ว โดยรุ่นนี้ใช้ชื่อว่า Xiaomi Mi MIX 4 จุดเด่นประจำรุ่นคือการใช้กล้องหน้าแบบซ่อนใต้หน้าจอ ยามที่ไม่ได้ใช้งานจะไม่เห็นว่ามีกล้องอยู่บนหน้าจอ
ตัวสเปคของ Xiaomi Mi MIX 4 มีดังนี้
- หน้าจอ: 6.67 นิ้ว (2400 x 1080 พิกเซล รีเฟรชเรท 120Hz)
- ชิปประมวลผล: Snapdragon 888+ 5G
- หน่วยความจำ: 8 – 12GB
- พื้นที่เก็บข้อมูล: 128 – 512GB
- กล้องหน้า: 20 Megapixel (ซ่อนอยู่ใต้หน้าจอ)
- กล้องหลัง: 108 (Main) + 8 (5x Optical zoom) + 13 (UltraWide) Megapixel
- แบตเตอรี: 4,500 mAh
ตัวบอดี้ของ Xiaomi Mi MIX 4 นั้นทำมาจากเซรามิกส์ชิ้นเดียวทั้งตัว ส่วนจุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือการที่กล้องหน้าเวลาที่ไม่ได้ใช้งานจะซ่อนตัวอยู่หลังหน้าจอ ทำให้ผู้ใช้งานมองไม่เห็นด้วยซ้ำว่ากล้องหน้าอยู่ตรงไหน
ที่ผ่านมาซีรีส์ Mi MIX เป็นการแหวกแนวการดีไซน์จากขนบเดิมๆ ที่เราคุ้นชินอยู่แล้ว อย่างรุ่นแรกและรุ่นสองเน้นขอบจอบางเฉียบ ส่วนรุ่นที่สามทำให้ขอบด้านล่างหมดไปโดยสิ้นเชิง (แลกกับการย้ายกล้องหน้าไปเป็นแบบป๊อปอัพ) การนำกล้องมาซ่อนอยู่ใต้หน้าจอจึงเป็นเทคโนโลยีนำสมัยที่ควรคู่กับการเปิดตัวบนรุ่น Mi MIX 4
อย่างไรก็ตาม Lei Jun ซีอีโอของ Xiaomi ก็ระบุว่าถ้าคุณต้องการให้ภาพกล้องหน้าออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้จริงๆ ก็ควรจะเลือกรุ่นที่มีติ่งหน้าจอ หรือจอแบบเจาะรูมากกว่ากล้องหน้าซ่อนตัวใต้หน้าจอแบบนี้ แต่สำหรับเขากล้องหน้าแบบนี้ถือว่าดีเพียงพอแล้ว
แน่นอนว่าสเปคอื่นๆ นั้นก็ยังจัดว่าใส่มาเต็มที่ หน้าจอนั้นรองรับการแสดงผล 10-bit color, P3 Gamut, Dolby Vision, HDR10+ และรีเฟรชเรท120Hz ส่วนกระจกนั้นเป็น Gorilla Glass Victus กระจกกันหน้าจอที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ส่วนระบบเสียงนั้นยังคงเป็นผลงานการปรับจูนให้โดย Harman/Kardon เช่นเดิม
Mi MIX 4 เป็นมือถือตัวแรกที่เปิดตัวพร้อมกับการใช้งาน Snapdragon 888+ โดยรุ่นนี้เร่งสัญญาณนาฬิกาขึ้นไปแตะหลัก 3GHz และหน่วยความจำใช้ LPDDR5 กับพื้นที่เก็บข้อมูลแบบ UFS 3.1 ทำให้ตัวเครื่องรวดเร็วที่สุดเท่าที่มือถือแอนดรอยด์จะเร็วได้
ส่วนที่เพิ่มเติมมาอีกประการก็คือ UWB (UltraWide Band) เช่นเดียวกับที่อยู่ใน iPhone 12 แต่ Xiaomi ออกแบบมาเพื่อใช้ทำ Point of Connect เช่นการเชื่อมมือถือกับ Xiaomi TV เป็นหลัก (คล้ายๆ กับการเชื่อมต่อกับ HomePod ด้วย UWB) ไม่ได้ออกแบบมาให้ค้นหาของหายแบบ AirTags แต่ประการใด
แน่นอนว่าไม่ใช่ทีวีทุกตัวจะมี UWB ทำให้หลังจากนี้ Xiaomi จะวางจำหน่าย UWB Hub สำหรับทีวีเดิมๆ ให้ใช้งานได้ด้วย แต่ถ้าไม่ต้องการ Mi MIX 4 ยังคงมี Infrared ใช้สั่งการทีวีได้เหมือนที่ผ่านๆ มาครับ
กล้องหลังนั้นมีสามตัวด้วยกัน กล้องหลักเป็นเซนเซอร์ 108 Megapixel ที่พัฒนาโดย Samsung ส่วนเลนส์รองลงมานั้นเป็นเลนส์ 8 Megapixel ที่สามารถทำการซูมได้ 5 เท่าแบบ Optical และเลนส์สุดท้ายเป็น 13 Megapixel ที่มีมุมกว้าง (Ultrawide)
ตัวเครื่องจะมีแบตเตอรีขนาด 4,500 mAh รองรับการเสียบสายชาร์จจ่ายไฟ 120W ที่ทำให้ชาร์จเต็มภายใน 21 นาที แต่ถ้าเปิด Boost Mode จะชาร์จเต็มใน 15 นาที ส่วนการชาร์จไฟไร้สายสามารถจ่ายไฟได้ 50W จะใช้เวลาราวๆ 45 นาทีเพื่อชาร์จแบตเตอรีให้เต็ม และถ้าเปิด Boost Mode จะชาร์จเต็มใน 28 นาที
Xioami Mi MIX 4 จะเริ่มวางจำหน่ายในจีนวันที่ 16 สิงหาคมเป็นต้นไป มีสีขาว สีดำ สีเทาให้เลือก ราคาเริ่มต้นรุ่นถูกสุดอยู่ที่ 4999 หยวน (ราวๆ 25,600 บาท) จะได้ RAM 8GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 128GB ส่วนรุ่นบนสุดอยู่ที่ 6,299 หยวน (ราวๆ 32,300 บาท) จะได้ RAM 12GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 512GB
ส่วนจะมีออกมาวางจำหน่ายนอกจีนหรือเปล่าต้องลุ้นกันเอาครับ รุ่นแรกและรุ่นที่สองมีการนำออกมาวางจำหน่ายในยุโรป และบางประเทศ แต่รุ่นที่สามกลับไม่ได้ถูกนำออกมาขาย ดังนั้นรุ่นนี้ก็เป็นไปได้ว่าจะไม่นำออกมาขายด้วยเช่นกันครับ
ที่มา – Engadget
