สัดส่วนภายนอก Nokia N1
Nokia N1 ขึ้นรูปจากโลหะชิ้นเดียว มีน้ำหนักเบา 31 กรัม และตัวเครื่องบางเพียง 6.9 มิลลิเมตร ขอบตัวเครื่องโค้งมนสวยงามรับกับอุ้งมือในการใช้งานแนวตั้งและแนวนอน และเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกที่มีการนำพอร์ตยูเอสบี ไทป์ ซี (USB Type- C) มาใช้งาน สำหรับ Nokia N1 จะมี 2 สีให้เลือก นั่นก็คือ เนเจอรัล อลูมินัม และ ลาวา เกรย์ หรือสีเทาดำนั่นเอง
ด้านหน้า: หน้าจอไอพีเอส แอลอีดี แบล็คไลท์ ขนาด 7.9 นิ้ว ความละเอียด 1536 x 2048 พิกเซล กระจกกันรอยกอริล่า กลาส 3 หน้าจอจะไร้ช่องว่างระหว่างหน้าจอและกระจกกันรอย พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
ด้านซ้าย: ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใดๆ วางอยู่ในด้านนี้เลย
ด้านขวา: มีเพียงปุ่มปรับประดับเสียงวางอยู่เท่านั้น ที่เหลือก็ปล่อยโล่ง
ด้านบน: มีช่องต่อชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, รูไมโครโฟน และปุ่มล็อคและปลดล็อคตัวเครื่อง ใช้ร่วมกับปุ่มพาวเวอร์ในการเปิด/ปิดเครื่อง
ด้านล่าง: จะพบกับลำโพงคู่สเตอริโอวางอยู่ระหว่างพอร์ตยูเอสบี ไทป์ ซี ที่สามารถพลิกเสียบด้านไหนก็ได้
ด้านหลัง: จะเห็นกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซลวางอยู่ที่มุมซ้ายของตัวเครื่อง และมีโลโก้ Nokia สกรีนอยู่ที่ด้านล่าง
ภาพรวม: เรียกได้ว่า Nokia N1 มีรูปร่างหน้าตาที่ถอดแบบออกมาจาก iPad mini จาก Apple เลยก็ว่าได้ โดยมีขนาดหน้าจอที่เท่ากัน รวมไปถึงตำแหน่งของปุ่มและพอร์ตต่างๆ แทบจะวางตรงตำแหน่งเดียวกันเลย โดยเฉพาะกล้องหลังที่วางมุมเดียวกันเน้นๆ แต่ด้วยความเป็นโนเกีย งานประกอบและวัสดุยังคงมาตรฐานโนเกีย ที่แน่น แข็งแรง เวลาจับตัวเครื่องแล้วรู้สึกดีเหมือนเคย
ชำแหละเครื่องใน: ถือเป็นอุปกรณ์ชิ้นแรกหลังจากที่โนเกียขายกิจการด้านโทรศัพท์มือถือให้กับทางไมโครซอฟท์ และติดสัญญาห้ามใช้แบรนด์ Nokia ในการทำโทรศัพท์มือถือออกมาวางจำหน่าย ทางโนเกียจึงได้ร่วมมือกับฟ็กซ์คอนน์ บริษัทที่รับผลิต iPhone, iPad ให้กับ Apple นั้นช่วยผลิตและวางจำหน่ายแทน โดยวางจำหน่ายในประเทศจีนและโซนยุโรปไปแล้ว
Nokia N1 มาพร้อมกับขุมพลังจาก Intel โดยใช้ชิปเซ็ต Intel Atom แบบ 64-บิท Z3580 ความเร็ว 2.3 กิกะเฮิร์ตซ์ พร้อมกับแรม 2 กิกะไบต์ รันบนแอนดรอยด์ 5.0 โลลิป๊อป ครอบด้วย โนเกีย แซด ลันซ์เชอร์ ที่พัฒนาโดยทางทีมโนเกียเอง ซึ่งการใช้งานจะเน้นการเขียนตัวอักษรบนหน้าจอขนาด 7.9 นิ้วเพื่อค้นหาแอพพลิเคชั่นหรือข้อมูลต่างๆ จากในตัวเครื่องและบนเว็บไซต์
Nokia N1 มีหน่วยความจำมาให้ 32 กิกะไบต์ ใช้งานทั่วไปก็ยังเหลือๆ แต่ถ้าหากเน้นดูหนังอาจจะต้องหาแฟลชไดรว์ที่เป็นยูเอสบีไทป์ซีมาต่อเพื่อดูเพิ่มเติม เพราะไม่มีช่องใส่เมโมรี่การ์ดเพิ่ม อีกจุดเด่นของรุ่นนี้คือมีชิปเสียง Wolfson WM8958E พร้อมกับลำโพงสเตอริโอที่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการดูหนังฟังเพลงเพิ่มมากขึ้น
กล้องหลังของ Nokia N1 มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ถือว่าสูงมากในตลาดแท็บเล็ต อีกทั้งยังมีออโตโฟกัสมาให้ใช้งานพร้อมกับการปรับค่าความสว่าง, ไวท์ บาลานซ์, ตั้งเวลาถ่ายรูป แต่น่าเสียดายที่ไม่มีแฟลชมาให้ด้วย ทำให้การถ่ายรูปในที่แสงน้อยนั้นทำได้ไม่ดีเท่าไรนัก และยังมีระบบตรวจจับใบหน้ามาให้ถ่ายรูปบุคคลด้วย ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งถือว่าสูงในระดับแท็บเล็ตเช่นกัน ถึงแม้ไม่มีออโตโฟกัส แต่ก็มีระบบตรวจจับใบหน้ามาให้ใช้งานเช่นกัน
Nokia N1 นั้นไม่รองรับการใช้งานกับซิมการ์ด จะใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านการเชื่อมต่อ ไว-ไฟ เท่านั้น แต่ก็ยังรองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ, ส่งไฟล์ผ่าน ไว-ไฟ ไดเร็ค และแชร์หน้าจอไปยังทีวีผ่านเทคโนโลยีดีแอลเอ็นเออีกด้วย
กูรูฟันธง
Nokia N1 ยังคงมาตรฐานโนเกียให้เห็นกันอยู่ เรื่องวัสดุและงานประกอบทำให้ดูน่าใช้ น่าหยิบจับมาก แต่น่าเสียดายที่ยังไม่วางจำหน่ายทั่วโลก เพราะเครื่องที่วางจำหน่ายในจีนนั้นตัดบริการจากกูเกิ้ลออกหมด การดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น, เกม นั้นจะต้องเข้าไปเลือกใน “เดอะ สโตร์” ของทางโนเกียแทน และถ้าหากจะติดตั้งเพิ่มเติมจะต้องทำการติดตั้งจากไฟล์เอพีเค (.apk) ทำให้มีความยุ่งยากในการใช้งานมากขึ้น
ข้อดี
1. ตัวเครื่องขึ้นรูปจากโลหะ สวยงามและแข็งแรง
2. จอสัมผัสขนาดใหญ่ 7.9 นิ้ว
2. กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ถึงแม้ไม่มีออโตโฟกัส แต่ก็มีระบบตรวจจับใบหน้ามาให้
3. ระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ 5.0 โลลิป๊อบ พร้อม โนเกีย แซด ลันซ์เชอร์
4. ชิปเสียง Wolfson WM8958E พร้อมลำโพงสเตอริโอ ให้อรรถรสในการดูหนังฟังเพลงเพิ่มมากขึ้น
ข้อเสีย
1. ยูเอสบี ไทป์ ซี ใช้ร่วมกับสายไมโครยูเอสบีทั่วไปไม่ได้
2. เพิ่มหน่วยความจำภายนอกไม่ได้
3. ไม่มีบริการจากกูเกิ้ล ผู้ใช้งานทั่วไปจะติดตั้งแอพฯ เพิ่มเติมยาก