HUAWEI nova 11i หนึ่งในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล nova 11 Series โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นเล็กสุด ราคาประหยัดคุ้มค่าสุดในราคาเปิดตัวไม่ถึงหมื่นบาท มาพร้อมดีไซน์ที่เรียบง่าย รองรับการใช้งานครบทุกฟังก์ชั่นที่ควรมี ส่วนรายละเอียดการใช้งานอื่นๆ จะเป็นอย่างไรนั้น เรามาแกะกล่องดูกันเลยครับ
แกะกล่องลองเล่น HUAWEI nova 11i
เมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์ต่างๆ ค่อนข้างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นอแดปเตอร์ HUAWEI SuperCharge 40 วัตต์ที่ยังมีมาให้ ซึ่งหากเป็นแบรนด์อื่นก็เริ่มถอดออกแล้ว ส่วนอุปกรณ์ป้องกันรอยก็มีเคสซิลิโคนแบบใส, ฟิล์มกันรอยแบบติดมาจากโรงงาน ไม่ต้องมาติดเอง สำหรับหูฟัง หรือสมอลล์ทอล์คในกล่องไม่มีมาให้ แต่ก็หาซื้อได้ในราคาที่ไม่แพงแล้ว โดยเฉพาะหูฟังแบบ True Wireless ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ ก็มีมาให้ดังนี้
- HUAWEI nova 11i สี Starry Black
- อแดปเตอร์ HUAWEI SuperCharge กำลังไฟ 40 วัตต์
- สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C
- เคสซิลิโคนแบบใส
- ฟิล์มกันรอยแบบติดจากโรงงาน
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
- คู่มือการใช้งาน, ใบรับประกัน
จอใหญ่เต็มตา 6.8 นิ้ว ขอบจอบางสุดๆ เพียง 1.1 มม.
จอแสดงผล HUAWEI FullView Display มีขนาดใหญ่เต็มตาถึง 6.8 นิ้ว ขอบจอของรุ่นนี้ทำออกมาได้บางสุดๆ เพียง 1.1 มม. เท่านั้น ถือว่าบางที่สุดใน HUAWEI nova Series เลยก็ว่าได้ ทำให้มีอัตราส่วนการแสดงผลสูงถึง 94.9% มีความคมชัดระดับ FHD+ ความละเอียด 1080 × 2388 พิกเซล แสดงสีสันได้สวยงามแม้อยู่กลางแจ้ง มีกล้องแบบเจาะรูอยู่ตรงกลางเกือบชิดขอบด้านบน ไม่บดบังสายตาขณะใช้งาน
เมื่อพลิกมาที่ด้านหลังจะเห็นความโดดเด่นของ Star Ring เป็นวงแหวนกล้องคู่ขอบสีทองตัดกับสีดำของฝาหลัง เมื่อสังเกตลึกลงไปจะเห็นลวดลายดีไซน์เหมือนเกรียวชัตเตอร์ ฝาหลังที่เราได้มาทดสอบเป็นสี Starry Black มีพื้นผิวแบบด้าน ไม่ติดรอยนิ้วมือง่ายๆ หากอยู่กลางแจ้งก็จะเห็นเป็นสีดำสนิท มองไม่เห็นลวดลายใดๆ แต่เมื่ออยู่ในที่แสงน้อยแล้วมีแสงมาตกกระทบที่พื้นผิวจะเผยให้เห็นเหมือนมีดาวนับล้านสะท้อนออกมาดูสวยงามมาก และเมื่อสีดำตัดกับขอบของวงแหวน Star Orbit สีทองทำให้ดูโดดเด่นขึ้นมาอีกขั้น
ปุ่มกดทั้งหมดจะอยู่ที่ด้านข้างขวา มีทั้งปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิดปิดเครื่องที่ทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไปด้วยในตัว
ด้านบนของตัวเครื่องมีไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา และยังมีถาดใส่ซิมการ์ดแบบ 2 ช่อง สามารถใส่ได้เพียง SIM1 และ SIM2 เท่านั้น ไม่สามารถเพิ่มการ์ดหน่วยความจำได้
ด้านล่างมีช่องไมโครโฟนรับเสียงสนทนา, ช่องเสียบสายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C และลำโพงของตัวเครื่องที่มาพร้อมเทคโนโลยี Histen 8.1 สามารถเพิ่มเสียงให้ดังได้ถึง 88 dB
48 Megapixel Dual AI Camera
กล้องหลักที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ความละเอียดถึง 48 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ AI ที่เข้ามาช่วยในการประมวลผลภาพถ่าย ช่วยปรับสีสันของภาพให้สวยงามตามวัตถุที่กำลังจะถ่าย สำหรับกล้องของรุ่นนี้มีมาให้ 2 เลนส์ ประกอบไปด้วย
- กล้องหลัง 2 เลนส์
- กล้องเลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8
- กล้องเลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
ในการถ่ายภาพปกติระบบจะทำการถ่ายที่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล แต่ยังคงใช้เซ็นเซอร์ 48 ล้านพิกเซลเต็มพื้นที่ ด้วยการรวมแสงจาก 4 พิกเซลเหลือ 1 พิกเซล ทำให้แต่ละพิกเซลรับแสงได้มากยิ่งขึ้นทำให้ภาพดูสว่าง และมีสีสันสวยงามสมจริงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะตอนกลางคืนที่แสงน้อย หากต้องการความคมชัดสูงก็สามารถเลือกถ่ายได้ที่ 48 ล้านพิกเซลได้ในโหมด High-Res หรือโหมดความละเอียดสูง นอกจากนี้ยังมีเลนส์ Depth สำหรับถ่ายภาพ Portrait หรือถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังละลาย อีกทั้งยังสามารถใช้ถ่ายในโหมด Aperture ที่สามารถจำลองการปรับค่ารูรับแสง (Virtual Aperture) ได้ตั้งแต่ f/0.95 ไปจนถึง f/16 ส่วนโหมดถ่ายภาพอื่นๆ ก็มีทั้งโหมดถ่ายภาพ Night mode, Pro, Slow-mo, Panorama, Time-Lapse, Sticker และ Document
ในการถ่ายวิดีโอของรุ่นนี้ก็สามารถถ่ายได้ที่ความละเอียด Full HD 1080p 30 เฟรมต่อวินาที นอกจากนี้ยังมีโหมด Dual-view ที่อาศัยการถ่ายวิดีโอจากกล้องหน้า และกล้องหลังพร้อมกัน เหมาะกับสายรีวิว หรือ VLOG ที่ชอบการถ่ายสถานที่พร้อมๆ กับเห็นใบหน้า และรีแอคชั่นของผู้ถ่ายด้วย ไม่ต้องนำคลิปวิดีโอไปตัดต่อให้อยู่ในเฟรมเดียวกันให้ยุ่งยากอีกต่อไป
สำหรับการถ่ายภาพด้วยกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซลก็สามารถถ่าย Portrait ละลายฉากหลังได้ด้วยกล้องหน้าเพียงเลนส์เดียว มีโหมด Beauty ที่สาวๆ ชื่นชอบ สามารถปรับใบหน้าเนียนได้ถึง 10 ระดับ สามารถปรับมุมกล้องให้กว้างขี้นเหมาะกับการเซลฟี่กับเพื่อนๆ ที่จะทำให้เก็บภาพได้มุมที่กว้างขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเปิดแฟลชโดยใช้แสงหน้าจอสว่างขึ้นเพื่อให้ใบหน้าดูนวล ดูขาวใสได้เมื่อถ่ายในที่มืด
ตัวอย่างภาพถ่าย
จอแสดงผล FullView Display 90 Hz Touch Sampling rate 270 Hz
นอกจากขอบหน้าจอที่บางเพียง 1.1 มม. ทำให้แสดงผลได้เต็มขอบมากขึ้น จอแสดงผลของรุ่นนี้ยังให้สีสันสวยงาม มีขนาดใหญ่เต็มตาถึง 6.8 นิ้ว พร้อมอัตรารีเฟรชเรทสูงสุดถึง 90 Hz ทำให้แสดงผลได้อย่างลื่นไหล ทั้งการปัดเลื่อนเมนู การไถฟีดโซเชียล สามารถปรับเป็นโหมด Dynamic ที่จะปรับตามคอนเทนต์ที่แสดงผล ช่วยประหยัดพลังงานจากแบตเตอรี่ นอกจากนี้ยังมีความไวในการแตะสั่งงานหรือ Touch sampling rate สูงถึง 270 Hz ทำให้แตะสั่งงานได้รวดเร็ว โดยเฉพาะการเล่นเกมที่ต้องการความไวในการแตะสั่งงาน และต้องการความไวเมื่อต้องกดแตะหน้าจอแบบรัวๆ ซึ่งหากมีค่า Touch Sampling Rate ที่มีค่าสูงๆ จะทำให้หน้าจอตอบสนองแตะสั่งงานได้ไวตามต้องการ
ชิป Snapdragon 680 ระบบปฏิบัติการ EMUI 13
ในด้านการประมวลผล ภายในบรรจุชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 680 Octa-core ความเร็ว 2.4 GHz เป็นชิปที่รองรับเครือข่าย 4G LTE รองรับการใช้งานทั่วไปได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังใช้พลังงานต่ำ สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น มีหน่วยความจำ RAM 8 GB พร้อมเพิ่ม RAM อัตโนมัติได้อีก 3 GB เมื่อมีการเปิดแอปฯ หรือเล่นเกมพร้อมกันหลายแอปฯ มีหน่วยความจำ ROM ขนาดใหญ่ 256 GB ระบบปฏิบัติการของรุ่นนี้ใช้ EMUI เวอร์ชั่น 13 เวอร์ชั่นล่าสุดในขณะนี้
สำหรับการทดสอบความแรงของหน่วยประมวลผล และหน่วยความจำด้วยแอปฯ Antutu Benchmark เวอร์ชั่น 9.5.7 พบว่าทำคะแนนได้ 236,996 คะแนน
ส่วนการทดสอบด้วยแอพฯ Geekbench 5 พบว่าทำคะแนน Single-core ได้ 384 และ Multi-core ทำคะแนนได้ 1687 คะแนน
จากการทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile ที่มีให้ดาวน์โหลดใน HUAWEI AppGallery ก็สามารถปรับภาพกราฟฟิคไปได้ที่ระดับ Balanced หรือระดับสมดุลย์ ส่วนเฟรมเรทสามารถปรับไปได้ที่ Medium หรือในระดับปานกลาง ส่วนการเล่นเกมก็ทำได้อย่างลื่นไหล อาจจะมีอาการกระตุกบ้างแต่ก็สามารถเล่นได้ดีพอสมควร
ชาร์จเร็วด้วย Huawei SuperCharge Turbo 40 วัตต์
ภายในกล่องยังมีอแดปเตอร์ HUAWEI SuperCharge ที่จ่ายกำลังไฟได้สูงถึง 40 วัตต์ เมื่อเปิดใช้งานโหมด Turbo สามารถชาร์จได้เร็วถึง 60% ภายในระยะเวลา 30 นาที มาพร้อมเทคโนโลยีการจัดการพลังงานอัจฉริยะ และการป้องกันการ ชาร์จอัจฉริยะถึง 22 ชั้น ทำให้ HUAWEI nova 11i สามารถชาร์จได้รวดเร็ว และปลอดภัย
บทสรุป รีวิว HUAWEI nova 11i จากความเห็นของ What Phone
หลังจากการใช้งานจริงถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบทุกความต้องจริงๆ ในราคาไม่ถึงหมื่นบาท ทั้งการถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ เล่นเกมบนหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.8 นิ้วที่ทำให้เราประทับใจจริงๆ ด้วยขอบหน้าจอที่เกือบจะชิดขอบ มองเห็นได้อย่างเต็มตาจริงๆ สำหรับหน่วยความจำก็ขนาดใหญ่ถึง 256 GB กับราคาที่ไม่ถึงหมื่นบาทถือว่าให้มาเยอะมากๆ สำหรับใครที่กังวลเรื่องแอปพลิเคชั่นที่มีให้ดาวน์โหลด ก็หมดกังวลได้เลย เพราะ AppGallery มีให้เลือกดาวน์โหลดค่อนข้างครบครัน มีเยอะกว่าเมื่อก่อนมากๆ ทั้งหมดนี้เปิดตัวในราคาเพียง 9,990 บาทเท่านั้น เป็นสมาร์ทโฟนอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียว
HUAWEI nova 11i วางจำหน่ายในราคา 9,990 บาท พร้อมโปรโมชันเมื่อสั่งซื้อตั้งแต่ 24 มิถุนายน 2566 ถึง 9 กรกฎาคม 2566
รับฟรี! กระเป๋า HUAWEI Backpack มูลค่า 1,090 บาท
ช่องทางการสั่งซื้อ Shopee : http://bitly.ws/IfqA
สรุปสเป็ค และจุดเด่นของ HUAWEI nova 11i
- ขนาด 164.6 x 75.55 x 7.55 มม. หนัก 193 กรัม
- หน้าจอ IPS LCD ความละเอียด FHD+ (1080 × 2388 พิกเซล) ขนาด 6.8 นิ้ว แสดงผล 16.7 ล้านสี
- แสดงผลด้วย Refresh rate 90 Hz, Touch Sampling rate 270 Hz
- หน่วยประมวลผล Snapdragon 680 Octa-core ความเร็ว 2.4 GHz
- ชิปประมวลผลภาพ 3D Adreno 610
- หน่วยความจำ RAM 8+3 GB, ROM 256 GB
- ระบบปฏิบัติการ EMUI 13
- รองรับเครือข่าย 4G LTE
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
- กล้องหลัง 2 เลนส์
- กล้องเลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.9
- กล้องเลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- กล้องวิดีโอความละเอียด Full HD 30 เฟรมต่อวินาที
- รองรับ WiFi 802.11a/b/g/n/ac ความถี่ 2.4 GHz and 5 GHz, Bluetooth 5.0
- แบตเตอรี่ 5000 mAh Huawei SuperCharge Turboกำลังไฟ 40 วัตต์
- ลำโพงสปีกเกอร์ให้เสียงดังถึง 88 เดซิเบล
- มี 2 สี Starry Black และ Mint Green
- ราคา: 9,990 บาท