สงครามรุ่นเรือธงเริ่มห้ำหั่นกันตั้งแต่ต้นปี 2017 อย่างไม่มีใครยอมใคร และ Huawei P10 หนึ่งในผู้เข้าประกวด ที่ยังคงจุดเด่นด้วย Leica Dual Camera กล้องคู่ที่พัฒนาร่วมกับ Leica งานนี้จะเป็นยังไง ต้องลอง!
กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล จัดวางรวมกับไฟแจ้งเตือนสถานะ เซ็นเซอร์ต่างๆ
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่กลืนไปกับเครื่อง
กล้องถ่ายภาพแบบคู่ พร้อมแฟลช dual-LED และประทับชื่อ Leica
ถาดใส่ซิมการ์ดบริเวณด้านซ้าย
ด้านล่างมีทั้งช่องหูฟัง 3.5 มม. พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพง
ดีไซน์โดยรวมของ Huawei P10 ยังมีความกะทัดรัดแบบรุ่นพี่ Huawei P9 แต่เพิ่มสีสันให้ดูมีชีวิตสีวาด้วยเขียวธรรมชาติ สีน้ำเงินโทนเรียบหรู และยังคงตำแหน่งของกล้องคู่ที่อยู่ในระดับเดียวกัน พร้อมประทับชื่อ Leica แต่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือย้ายจากตัวเครื่องด้านหลังไปอยู่ใต้ขอบหน้าจอแทน วัสดุโลหะที่ใช้กับตัวเครื่อง สัมผัสได้ถึงความพรีเมียมอย่างแท้จริง
Huawei P10
แม้ขนาดตัวเครื่องจะกะทัดรัด แต่หน้าจอแสดงผลของ Huawei P10 ก็มีขนาดที่ใหญ่กำลังพอดีที่ 5.1 นิ้ว ด้วยหน้าจอแบบ IPS-NEO LCD ทำให้แสดงสีสันสมจริงดี ประกอบกับความละเอียดหน้าจอระดับสูง Full HD (1080 x 1920 พิกเซล) และนั่นทำให้การแสดงผลภาพถ่ายจากกล้องผ่านหน้าจอมีความสวยสดงดงามยิ่งขึ้น รวมถึงการจัดวางที่เว้นขอบข้างได้บางมากๆ เรียกว่าใช้พื้นที่ตัวเครื่องได้อย่างคุ้มค่าจริงๆ และ Huawei P10 ก็ยังรองรับการสั่งงานแบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่แค่การสัมผัสหน้าจออย่างเดียว อาทิ การพลิกตัวเครื่องเพื่อเงียบเสียง การยกเครื่องแนบหูเพื่อรับสายทันทีและใช้งานฟีเจอร์อื่นๆ
Huawei P10 ได้พลังความแรงจากชุดหน่วยประมวลผลผู้อยู่เบื้องหลังอย่างชิพเซต HiSilicon Kirin 960 Octa-core ที่แยกเป็น Quad-core 2.4 GHz และ Quad-core 1.8 GHz ทำงานร่วมกับ มี RAM 4 GB, พื้นที่ความจุภายใน (ROM) 64 GB และระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 7.0 (Nougat) เมื่อได้ทดสอบการใช้งานจริง ก็สัมผัสได้ถึงความเร็วและความลื่นไหลที่ดี ไม่มีสะดุด เรื่องการรันภาพกราฟิกหนักๆ ภาพสวยๆ ก็ทำได้ในระดับที่ค่อนข้างดีเช่นกัน
มาถึงจุดเด่นที่ทุกคนรอคอย อย่างกล้องถ่ายภาพเลนส์คู่ที่ยังประทับชื่อ Leica ซึ่งเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับ Huawei โดยกล้องถ่ายภาพในรุ่นนี้มีความละเอียดที่ 20 และ 12 ล้านพิกเซล ซึ่งแยกการทำงานการถ่ายภาพขาวดำ เก็บความคมชัดและมิติของภาพ และถ่ายภาพสี (RGB) ออกจากกันโดยเฉพาะ ทำให้ได้ภาพที่มีสีสันสวยงามพร้อมทั้งความคมชัดและเก็บรายละเอียดของภาพได้ดี ถัดมาคือแฟลช dual-LED แบบ dual-tone ที่แยกดวงไฟ 2 สีออกมาโดยเฉพาะ เพื่อช่วยให้ภาพถ่ายมีความสว่างสมจริง
คุณสมบัติหลักๆ จากกล้อง Huawei P10 มีตั้งแต่ Modes โหมดถ่ายภาพที่มีให้เลือกเยอะมากๆ เช่น Monochrome หรือการถ่ายภาพขาวดำที่สร้างชื่อตั้งแต่ยุคของ Huawei P9 จนกลายเป็นเทรนด์ถ่ายภาพขาวดำในช่วงเวลาหนึ่ง, Light Painting หรือการถ่ายภาพแสงสีในที่แสงน้อยรูปแบบต่างๆ ซึ่งแยกออกเป็น 4 โหมดย่อย ทั้งการถ่ายแสงไฟจากรถบนท้องถนน (Car light trails) การถ่ายภาพแสงไฟเป็นเส้นตัวอักษร (Light Graffiti) รวมถึงการถ่ายภาพน้ำตกให้ดูนุ่มนวลแบบกล้องโปร (Silky Water) และการถ่ายภาพดวงดาวบนท้องฟ้า (Star track), โหมดถ่ายภาพอาหาร Good Food ที่ช่วยเร่งความสดของสีสันให้จัดจ้านและปรับมุมมองให้อาหารดูน่าทานมากยิ่งขึ้น และที่ลืมไม่ได้เลย กับลายน้ำบนมุมภาพเพื่อสื่อถึงความเป็น Huawei P10 Leica Camera หรือถ้าใครต้องการถ่ายภาพให้สวยงาม สมจริงที่สุด ก็เลือกปรับค่าไอเอสโอ ความเร็วชัตเตอร์ ระบบวัดแสงและโฟกัส ค่าสมดุลสีขาวเพิ่มเติมได้
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่า Huawei P10 ย้ายเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาไว้ใต้ขอบหน้าจอด้านล่าง ซึ่งจากการใช้งานที่เปลี่ยนไป แต่ความสะดวกก็ยังคงเดิม ใช้งานได้ทั้งการปลดล็อคหน้าจอ ตั้งรหัสก่อนเข้าสู่แอพพลิเคชั่นที่ต้องอาศัยความปลอดภัยระดับสูง และต้องบันทึกลายนิ้วมือที่ใช้งานลงในตัวเครื่องเมื่อเริ่มใช้งานครั้งแรก ส่วนฟีเจอร์การเชื่อมต่ออื่นๆ รองรับครบทุกอย่าง ทั้งการเชื่อมต่อเครือข่าย 4G LTE, การเชื่อมต่อ USB Type-C การใช้งานร่วมกับเคสฝาพับ Smart Cover ฯลฯ
Final Opinion & Conclusion
เทรนด์ Leica Dual Camera จาก Huawei ยังไม่เสื่อมคลายลงง่ายๆ ในเมื่อ Huawei P10 ยังมาพร้อมกับกล้องคู่ที่ให้ภาพคมชัด สีสันสวยงามถูกใจ ใครที่ชื่นชอบ Huawei P Series แต่ยังไม่ได้ลองเล่นหรือเลือกซื้อ ก็น่าจะถูกใจ Huawei P10 ได้ไม่ยาก และด้วยความกะทัดรัดของตัวเครื่อง ฟีเจอร์อื่นๆ ที่ยกทัพกันมาอย่างจัดเต็ม และเปิดตัวในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายๆ น่าจะมัดใจแฟนๆ ได้อย่างเหนียวแน่นแบบสมัย Huawei P9 อีกครั้ง
Strength
- กล้องถ่ายภาพแบบคู่ 20+12 ล้านพิกเซลร่วมกับ Leica
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล / รูรับแสงกว้าง F1.9
- หน้าจอแสดงผล 5.1 นิ้ว, ความละเอียด Full HD (1080 x 1920 พิกเซล)
- ชิพเซต HiSilicon Kirin 960 Octa-core / RAM 4 GB
- หน่วยความจำภายใน (ROM) 64 GB / เพิ่ม microSD สูงสุด 256 GB
- ระบบปฏิบัติการ Android 7.0 (Nougat)
- รองรับการสแกนลายนิ้วมือ / เชื่อมต่อ USB Type-C
- แบตเตอรี่ความจุ 3,200 มิลลิแอมป์
ข้อมูลทั่วไป
ขนาด, น้ำหนัก | 145.3 x 69.3 x 6.98 มิลลิเมตร, 145 กรัม |
SIM Card | Nano SIM+Nano SIM |
แบตเตอรี่ | Li-ion 3,200 mAh |
เครือข่าย
เครือข่าย 2G | 850 / 900 / 1800 / 1900 GHz |
เครือข่าย 3G | 800 / 850 / 900 / 1700 / 1900 / 2100 MHz |
เครือข่าย 4G | 700 / 800 / 850 / 900 / 1700 / 1800 / 1900 / 2100 / 2300 / 2600 MHz |
หน่วยความจำ
หน่วยความจำภายใน | 64 GB / RAM 4 GB |
หน่วยความจำภายนอก | microSD สูงสุด 256 GB |
จอแสดงผล
ขนาด | 5.1 นิ้ว |
ความละเอียดและความหนาแน่น | 1080 x 1920 พิกเซล (432) |
ชนิดและจำนวนสี | IPS-NEO LCD 16 ล้านสี / กระจก Gorilla Glass 5 |
ระบบ
หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) | HiSilicon Kirin 960 Octa-core (4 x Cortex A73 2.4GHz + 4 x Cortex A53 1.8GHz) |
หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) | Mali-G71 |
ระบบปฏิบัติการและอินเทอร์เฟซ | Android 7.0 (Nougat) |
การเชื่อมต่อ
Wi-Fi | รองรับ (Wi-Fi Hotspot, Wi-Fi Direct, DLNA) |
Bluetooth | รองรับ v4.2, A2DP, LE |
NFC | รองรับ |
USB | USB Type-C |
ระบบระบุตำแหน่ง (GPS) | รองรับ (A-GPS, GLONASS) |
มัลติมีเดีย
กล้องถ่ายภาพนิ่ง | |
ความละเอียด | กล้องคู่ 20+12 ล้านพิกเซล / 8 ล้านพิกเซล |
คุณสมบัติ | รูรับแสง F2.2 และ F1.9 / dual-LED Flash (dual-tone) / Laser Autofocus / ถ่ายภาพแบบโปร / ถ่ายภาพ RAW File |
กล้องวิดีโอ | |
ความละเอียด | 3840 x 2160 (4k) / 1280 x 720 (HD) |
คุณสมบัติ | เลือกขนาดไฟล์วิดีโอ /ถ่ายวิดีโอ Time Lapse และ Slow Motion |
วิทยุ | ไม่มี |
อื่นๆ | รองรับการสแกนลายนิ้วมือ |