Samsung ถือเป็นเจ้าเดียวที่รุกตลาดแท็บเล็ตพร้อมปากกาสำหรับขีดเขียนมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ Samsung Galaxy Tab 8 นิ้ว พร้อมกับราคาที่จับต้องได้ มาถึงวันนี้นอกจากจะมีหลายแบรนด์ที่ทำแท็บเล็ตพร้อมปากกาออกมาจำหน่ายในราคาที่ค่อนข้างสูงแล้ว Samsung ยังคงพัฒนารุ่นใหม่เปิดตัวในราคาเพียงหมื่นต้นๆ เท่านั้น นั่นก็คือ Samsung Galaxy Tab A Plus 2019
แกะกล่องลองเล่น Samsung Galaxy Tab A Plus 2019
Samsung Galaxy Tab A Plus 2019 มาในกล่องขนาดใหญ่พอๆ กับตัวเครื่อง ภายในกล่องก็มีอุปกรณ์พื้นฐานต่างๆ มาให้อย่างครบถ้วนตามแบบฉบับของตระกูล Note หรือตระกูล Tab A with S Pen โดยอุปกรณ์ในกล่องมีดังนี้
- ตัวเครื่อง Samsung Galaxy Tab
- ปากกา S Pen
- หัวปากกาแบบลื่น 3 ชิ้น แบบฝืด 2 ชิ้น พร้อมคีมคีบหัวปากกา
- อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่แบบ 5 โวลท์ 1.55 แอมป์
- สายชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB-C
- ชุดหูฟังสมอลล์ทอล์ค
- เข็มจิ้มถาดซิมการ์ด
- คู่มือการใช้งาน
จะเห็นว่าอแดปเตอร์ที่แถมมาให้เป็นแบบชาร์จปกติเพียง 5 โวลท์ 1.55 แอมป์เท่านั้น ไม่ได้เป็นแบบ Fast charging แต่อย่างใด อาจจะต้องชาร์จแบตกันนานหน่อย แนะนำให้เสียบชาร์จก่อนนอน ตื่นมาก็สามารถใช้งานได้ทั้งวัน
สำหรับตัวเครื่องนั้นออกแบบมาเรียบง่ายมากๆ จอแสดงผลด้านหน้าขนาด 8 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ หรือ 1920 x 1200 พิกเซล ใช้จอแสดงผลแบบ TFT แม้ว่าจะเป็นจอแสดงผลเทคโนโลยีเก่า แต่ก็ให้ความคมชัด และสีสันสวยงามในระดับที่ดีเลยทีเดียว เหนือจอแสดงผลมีช่องลำโพงสนทนา สามารถคุยโทรศัพท์แบบแนบหูได้เลย แต่ถ้าใช้เป็นเครื่องหลัก แนะนำให้ใช้ชุดหูฟังบลูทูธไร้สายจะสะดวกกว่า ใกล้ๆ กันมีกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
ที่ด้านหลังมีเพียงกล้องดิจิตอลความละเอียด 8 ล้านพิกเซลมาให้เท่านั้น ไม่มีไฟแฟลชใดๆ ตามสไตล์แท็บเล็ตที่ไม่เน้นเรื่องการถ่ายภาพ
ส่วนที่ด้านบนมีช่องเสียบชุดหูฟังขนาด 3.5 มม. และช่องไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน ซึ่งทำหน้าที่บันทึกเสียงวิดีโอแบบสเตอริโอด้วย และที่ด้านล่างก็มีช่องเสียบสายชาร์จแบตเตอรี่ ช่องลำโพง และช่องเสียบปากกา S PEN
ด้านข้างซ้ายเป็นที่อยู่ของถาดใส่ซิมการ์ด ซึ่งสามารถใส่ได้ใบเดียว ตัวถาดยังเป็นช่องใส่การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD รวมอยู่ในถาดเดียว ส่วนด้านข้างขวามีปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง และปุ่มปรับระดับเสียงสนทนา
ตัวปากกา S PEN ก็ยังคงมีดีไซน์ไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเท่าไหร่ มีปุ่มเรียกใช้งานเมนูลัดอยู่บริเวณตัวปากกา ส่วนท้ายปากกามีปุ่มคลิกสำหรับดึงปากกาออกมาใช้งาน หรือจะกดคลิกเล่นๆ ระหว่างคิดอะไรเพลินๆ ก็ได้เช่นกัน สำหรับการเปลี่ยนหัวปากกาก็ทำได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ใช้คีมหนีบหัวปากกาออกมาแล้วใส่หัวใหม่เข้าไปก็ใช้งานได้ทันที ส่วนหัวสีขาวจะเป็นหัวแบบลื่น เมื่อเขียนบนหน้าจอแล้วจะรู้สึกเหมือนกับการเขียนปากกาลูกลื่น แต่หากเปลี่ยนเป็นหัวสีดำจะให้ความรู้สึกหนืดๆ เหมือนกับการใช้ดินสอเขียนบนกระดาษ ซึ่งก็จะให้ความรู้สึกในการเขียนแตกต่างกันออกไป
จะขีดจะเขียนก็สะดวกด้วยปากกา S Pen
แน่นอนว่าปากกา S Pen สร้างความสะดวกสบายมาให้ผู้ใช้มาตั้งแต่ยุคแรกๆ ที่ Galaxy Note ถือกำเนิด เพราะนอกจากจะไม่ต้องชาร์จปากกา S Pen แล้ว ยังสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกมาก ไม่ว่าจะเป็นการจดบันทึก วาดเขียน ระบายสีก็ทำได้อย่างง่ายดาย เพราะเมื่อหัวปากกาอยู่ใกล้หน้าจอแล้ว ระบบจะปรับให้ใช้งานเฉพาะปากกาเท่านั้น ทำให้เราสามารถวางมือบนหน้าจอแล้วเขียนได้เหมือนกับการเขียน หรือระบายสีบนกระดาษแบบปกติ
สำหรับรุ่นนี้เมื่อถอดปากกาออกจากช่องเก็บจะไม่มีเซ็นเซอร์ใดๆ ตรวจจับว่าถอดปากกาออกมาแล้ว รวมไปถึงการแจ้งเตือนเมื่อถอดปากกาออก หากต้องการใช้งานเมนูลัดก็เพียงวางปากกาใกล้ๆ หน้าจอแล้วกดปุ่ม หน้าจอจะขึ้นเมนูลัดให้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกโน้ต, การบันทึกหน้าจอ (Smart select), การเขียน Live message, เปิดใช้งานแอพฯ PENUP หรือจะตั้งค่าทางลัดเลือกเปิดใช้งานแอพฯ อื่นๆ ได้ด้วย
Samsung Galaxy Tab A Plus ยังมีแอพฯ PENUP มาให้สำหรับที่นอกจากจะสามารถวาดภาพระบายสีได้อย่างอิสระแล้ว ยังเป็นกึ่งแอพฯ Social network ที่เราสามารถอวดผลงานต่างๆ ไปยังผู้ใช้งานอื่นๆ ได้ทั่วโลก และยังมีฟีเจอร์ระบายสีที่เหมาะกับเด็กๆ หรือผู้ใหญ่ที่วาดภาพไม่เก่งสามารถลงสี หรือระบายสีได้ ซึ่งมีผลวิจัยออกมาแล้วว่าการระบายสีเป็นวิธีการบำบัดความเครียดอย่างหนึ่ง ทำให้จิตใจสงบ มีสมาธิ ไม่ฟุ้งซ่าน หากว่างๆ หรือเครียดก็มาลองระบายสีในแอพฯ นี้เล่นๆ ดู แถมยังโพสอวดผู้ใช้ต่างๆ ได้ด้วย
หรือหากใครที่กำลังศึกษา หรือเรียนเกี่ยวกับการวาดภาพก็มีฟังก์ชั่น Live drawing ซึ่งเป็นการบันทึกวิดีโอขณะวาดภาพ ระบายสีจากผู้ใช้อื่นๆ ที่โพส ทำให้เราสามารถศึกษาจากจิตรกร หรือนักวาดภาพมืออาชีพได้ว่ารูปภาพประเภทนี้ ควรเริ่มต้นสเก็ตภาพอย่างไร วาดอย่างไร ควรระบายสีอย่างไร และแน่นอนว่าเราสามารถฝึกหัดวาดตามได้ด้วย
ครบครันความบันเทิง ทั้งดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม
นอกจากจุดเด่นในเรื่องของการวาดเขียน จดบันทึกแล้ว หน้าจอขนาดใหญ่ 8 นิ้วยังเหมาะกับการพกพาไปดูหนัง ดูคลิป YouTube นอกบ้าน พกพาได้สะดวก ไม่ใหญ่จนเกินไป สามารถพกใส่กระเป๋าหลังกางเกงได้สบายๆ สำหรับสเป็คเครื่องรุ่นนี้ใช้ CPU Exynos 7855 แบบ Octa-core ชิพประมวลผลมีหน่วยความจำ RAM 3 GB และ ROM 32 GB สำหรับเก็บข้อมูลต่างๆ การเล่นเกมก็สามารถเล่นเกมกราฟฟิคกลางๆ ได้ จากการทดสอบเล่นเกม PUBG Mobile เกมจะแนะนำให้ปรับภาพกราฟฟิคเป็นแบบ Medium ซึ่งก็สามารถเล่นได้เหมือนกัน และยังเล่นได้สะดวกด้วยเพราะมีหน้าจอขนาดใหญ่ ส่วนการทดสอบความเร็วด้วยแอพฯ Antutu 3D สามารถทำคะแนนได้ 96688 คะแนน
กล้องดิจิตอล 8 ล้านพิกเซล พร้อมถ่ายหน้าชัดหลังเบลอด้วย Live focus
ด้วยกล้องดิจิตอลความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเพียงตัวเดียวก็สามารถถ่าย Live Focus ได้เหมือนรุ่นใหญ่ที่ใช้กล้อง 2 ตัวด้วยการปรับภาพด้วย Software แต่ก็ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว ส่วนฟังก์ชั่นการถ่ายภาพก็ไม่มีอะไรให้ปรับแต่งมากนัก มีให้เลือกถ่ายภาพแบบ Panorama, ถ่ายภาพแบบ Pro ที่สามารถปรับค่า ISO, Whitebalance และปรับชดเชยแสงได้ นอกจากนี้ยังมีให้เลือกถ่ายภาพแบบใส่หน้ากากต่างๆ ให้เลือกอีกมากมาย
กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลก็มีให้เลือกปรับ Beauty ช่วยปรับหน้าเนียนได้ 3 ระดับ สำหรับการถ่ายคลิปวิดีโอก็สามารถเลือกปรับได้ที่ความละเอียด 1080p ได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
บทสรุปจากความเห็นของ What Phone
จากการทดสอบใช้งานถือว่า Samsung Galaxy Tab A Plus 2019 ทำได้น่าประทับใจ ด้วยตัวเครื่องที่ไม่ใหญ่มาก จนเกินไป พกพาสะดวก มีปากกา S Pen ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายและหลากหลายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจดบันทึก วาดเขียนวาดรูปได้ง่าย สเป็คเครื่องรุ่นนี้อาจจะไม่ได้แรงมาก แต่ก็รองรับการใช้งานต่างๆ ได้อย่างครบครันทั้งดูหนัง ฟังเพลง ดูคลิปวิดีโอจาก YouTube ได้เต็มตา สำหรับใครที่ต้องการนำไปใช้เป็นเครื่องหลักก็ทำได้ เพราะโทรศัพท์สามารถโทรแบบแนบหูได้ ส่วนราคาเปิดตัวนั้นอยู่ที่ 10,990 บาทเท่านั้น ถือว่าราคาถูกที่สุดในกลุ่มแท็บเล็ตที่ใช้ปากกาได้เลยล่ะ
ตัวอย่างภาพจากกล้อง